“ขอบคุณกันสักคำก็ไม่มี พูดจาด้วยดีๆ สักคำก็ไม่เคย ช่วยขนาดนี้ยังกล้าด่า ไม่แปลกใจเล้ยย!”
“ฉันขอร้องนายสักคำไหม”
“เออเก่ง! ขอโทษนะที่พี่เสือกเรื่องของเราเอง โอเคไหม”
ระหว่างนั่งกันอยู่ในห้องพยาบาลโดยไคม์อาสาล้างแผลให้ฉันไปและก็ชวนคุยไปพลางๆ
ฉันไม่ถนัดนักถ้าจะใช้มือซ้ายล้างแผลมือขวาจึงจำยอมให้ไคม์ทำ
“อนุญาตให้บีบมือ”
“เพื่อ!? กรี๊ดดดดด”
น้ำเกลือราดลงที่ฝ่ามือตอนนั้นฉันแสบร้อนจนเผลอร้องลั่นห้องพยาบาล
เชื่อไหมว่าชื่อเสียงความลูกคุณหนูจ๋าของฉันเลื่องลือซะจนพยาบาลไม่เข้ามายุ่งด้วย ปล่อยให้ฉันล้างแผลเอง แต่ก็มีคนขี้เสือกเข้ามาจัดการให้
ยิ่งไคม์ทำแบบนี้มันยิ่งแย่สำหรับฉัน เพราะเหล่าบรรดาแฟนคลับของไคม์จะยิ่งเกลียดฉันเข้าไส้
ไปไหนมาไหนคงจะลำบากกว่านี้
“แสบๆ”
“ร้องเป็นลูกหมา”
“หมามันร้องเอ๋งๆ”
“ยังไงนะ”
“เอ๋งๆ ไง หมาบ้านนายร้องกุ๊กๆ เหรอ”
“...”
ฉันตวัดตาดุมองไอ้บ้าไคม์
มันหลอกให้ฉันร้องเอ๋งๆ เหมือนหมา พอเผลอทำตามมันก็ยกยิ้ม
“เอ๋งๆ...หมาตัวนี้น่ารักดี อยากขี่หมา”
“เดี๋ยวเถอะนะ! ตลกมากรึไงห้ะ”
ไอ้ปากเสียตัวใหญ่มือนิ่มล้างแผลให้ฉันจนสะอาดดีแล้วก็พันผ้าก๊อซให้ซะใหญ่โต
โตจนกลายเป็นมือยักษ์จนคิดว่าบาดแผลนั่นน่าจะใหญ่เอาเรื่อง
“มานี้”
“จะทำอะไร”
“ถอดเสื้อออกซะเดี๋ยวไม่สบาย ใส่เสื้อพี่กลับบ้าน”
เห้อ....
ฉันถอดหายใจกับความเจ้ากี้เจ้าการของไคม์แต่ก็ยอมทำเพราะขี้เกียจเถียง
แต่แค่นั้นยังไม่จบ ตานั่นยังอาสาขับรถมาส่งอีกด้วย
“รู้ไหมว่าฝีมือใคร”
“ไม่”
“แล้วจะเอาเรื่องไหม พรุ่งนี้เดี๋ยวพี่ไปเป็นพยานให้” ไคม์เสนอตัวเข้ามาช่วยอีกครั้ง
มันน่าหงุดหงิดที่เขาพยายามทำตัวเป็นคนดีกับฉัน ทั้งๆ ที่สาวๆ ของมันนั่นแหละที่เป็นคนทำเรื่องพวกนี้
“ฉันไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร แต่ตั้งแต่มีข่าวกับนายก็มีแต่เรื่องบ้าๆ”
“เดี๋ยว! เราอะคนเกลียดเป็นร้อยเลยนะ”
“เพราะใครล่ะ”
“ไม่คิดบ้างว่าเพราะนิสัยของเรา”
“ถึงฉันจะเป็นแบบนี้แต่ฉันก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนหรือเอาเปรียบใคร ฉันอยู่ในพื้นที่ของฉันโดยไม่เคยล้ำเส้นใคร ฉันรวย ฉันเก่ง ฉันอยู่คนเดียวโดยไม่ต้องพึ่งพาใครมันก็ไม่แปลกที่คนอื่นจะไม่ชอบ แต่คนพวกนั้นเคยได้รับความเดือดร้อนจากการที่ฉันเป็นลูกเศรษฐีไหม” จริงอยู่ว่าฉันสามารถใช้อภิสิทธิ์มากมายที่ทางมหาลัยเอื้อประโยชน์ให้แต่ฉันก็ไม่รับ
การบ้านทุกวิชา รายงานทุกชิ้นที่ทำฉันหาข้อมูลมาด้วยตัวเองอย่างตั้งใจ ไม่เคยทำชุ่ยๆ
คุณภาพงานเดี่ยวของฉันเทียบเท่างานกลุ่มเสียด้วยซ้ำ แต่คนอื่นก็ยังเกลียดที่ฉันเย่อหยิ่งและไม่เข้าพวกกับคนทั้งคณะ
“แล้วเรื่องวันนี้จะเอายังไง”
“บรรดาสาวๆ ของนายล้ำเส้นฉันก่อน ฉันจะคืนให้ถึงที่สุด”
“หนูดี! ไม่มีใครรักพี่ถึงขั้นมาทำร้ายเราหรอก บ้ารึเปล่า”
“ก็บ้านั่นสิ! บ้าทั้งนาย บ้าทั้งผู้หญิงพวกนั้น” การพูดคุยช่วยให้เวลาบนรถนั้นสั้นลงกว่าทุกครั้ง
โดยปกติแล้วฉันจะเซ็งอยู่กับการจราจรที่แสนติดขัดแต่วันนี้กลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“จะไม่ชวนเข้าบ้านหน่อยเหรอ”
“เพื่ออะไร” ฉันลงจากรถและสั่งให้คนงานมาขับลูกรักไปเก็บในโรงจอดไม่สนหรอกว่าไคม์จะกลับบ้านด้วยวิธีไหน
“พี่ควรเข้าไปสวัสดีผู้ใหญ่ อุตส่าห์มาถึงหน้าบ้าน”
“ไม่จำเป็น”
“จำเป็นสิหนูดี! เข้ามาสิจ๊ะไคม์” ผู้เป็นมารดาผ่านมาพบเข้าพอดีจึงเชิญไคม์เข้าบ้าน ฉันเองก็อยากจะเดินกลับขึ้นห้องแต่แม่ก็ยังบังคับให้นั่งเป็นเพื่อนมันอยู่ได้
“ทานมื้อเย็นด้วยกันนะไคม์ คุณลุงกิตติจะกลับก็สักทุ่ม”
“ต้องขอโทษจริงๆ ครับคุณป้าดุจดาว ช่วงเย็นผมต้องไปเช็กงานที่สาขา นี้ก็ใกล้จะเปิดที่ใหม่ยิ่งต้องตรวจดูให้ละเอียดเมื่อถึงวันจริงทุกอย่างจะได้พร้อม”
“โธ่พ่อคุณขยันเสียจริง”
“ขออภัยที่เสียมารยาทไม่รับคำเชิญนะครับคุณป้า”
“ไม่เป็นไรจ้ะ! เรามีธุระสำคัญนี้นะ เรื่องทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาไว้เมื่อไรก็ได้”
“ขอบคุณครับ”
แม่ฉันไม่เคยพูดจาเสียงนิ่มยิ้มขาดใจกับฉันขนาดนี้สักครั้งเวลาอยู่บ้าน คุยกันไม่เกินสองประโยคก็กลับเข้าพื้นที่ตัวเองแล้ว
“รถผมมาแล้วขออนุญาตลาเลยนะครับ”
“จ้ะ! หนูดีไปส่งพี่เขาสิ”
“ให้หนูดีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
“อ้อ!”
แม่ฉันเชื่อทุกคำที่ไคม์บอก ฉันจึงได้ขึ้นห้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียที
“นางตัวดี! แกจะทำเรื่องงามหน้าแบบนี้ไปถึงไหนห้ะ”
“โอ๊ยแม่!”
“ในมหาลัยแกก็ยังทำได้ แกนี้มันเป็นยังไงกันนะ” แม่คงส่งไคม์เรียบร้อยแล้วถึงได้ตามมาหาเรื่องฉันต่อถึงในห้อง
สามประโยคคำถามที่ถามคงไม่ได้ต้องการคำตอบจากฉันแน่ๆ
“ยังไง! ในสายตาแม่หนูดีเป็นยังไง”
“อย่ามาปากเก่งกับฉัน”
“หนูดีทำอะไรผิดอีก”
“ยังมีหน้ามาถาม แกใส่เสื้อผู้ชายกลับมาบ้านจะให้ฉันคิดยังไงได้”
“หนูดีเป็นลูกแม่จริงๆ ใช่ไหมคะ” ฉันเหลืออดกับสิ่งที่พ่อแม่ยัดเหยียดให้
ท่านจงเกลียดจงชังอะไรฉันนักหนานะ
“คิดว่าฉันกับพ่อแกไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ สินะถึงได้ทำตัวกร้านโลกแบบนี้ ที่ผ่านมาพวกฉันทุ่มเทหาสิ่งที่ดีที่สุดบันดาลให้ทุกอย่างที่แกต้องการ ทำให้แกอยู่เหนือกว่าทุกคนคิดได้ยังไงว่าฉันไม่ใช่แม่แกจริงๆ”
“แล้วทำไมถึงคิดกับหนูดีแบบนี้”
“เพราะพวกฉันผิดหวังมากไง พวกฉันหวังว่าแกจะเข้ามาเติมเต็มและเชิดชูวงศ์ตระกูลให้สูงส่งขึ้น แต่แกก็มักฉุดให้ครอบครัวลงต่ำเพราะการกระทำของแก”