ปากดี 6

1105 Words
“ขอบคุณกันสักคำก็ไม่มี พูดจาด้วยดีๆ สักคำก็ไม่เคย ช่วยขนาดนี้ยังกล้าด่า ไม่แปลกใจเล้ยย!” “ฉันขอร้องนายสักคำไหม” “เออเก่ง! ขอโทษนะที่พี่เสือกเรื่องของเราเอง โอเคไหม” ระหว่างนั่งกันอยู่ในห้องพยาบาลโดยไคม์อาสาล้างแผลให้ฉันไปและก็ชวนคุยไปพลางๆ ฉันไม่ถนัดนักถ้าจะใช้มือซ้ายล้างแผลมือขวาจึงจำยอมให้ไคม์ทำ “อนุญาตให้บีบมือ” “เพื่อ!? กรี๊ดดดดด” น้ำเกลือราดลงที่ฝ่ามือตอนนั้นฉันแสบร้อนจนเผลอร้องลั่นห้องพยาบาล เชื่อไหมว่าชื่อเสียงความลูกคุณหนูจ๋าของฉันเลื่องลือซะจนพยาบาลไม่เข้ามายุ่งด้วย ปล่อยให้ฉันล้างแผลเอง แต่ก็มีคนขี้เสือกเข้ามาจัดการให้ ยิ่งไคม์ทำแบบนี้มันยิ่งแย่สำหรับฉัน เพราะเหล่าบรรดาแฟนคลับของไคม์จะยิ่งเกลียดฉันเข้าไส้ ไปไหนมาไหนคงจะลำบากกว่านี้ “แสบๆ” “ร้องเป็นลูกหมา” “หมามันร้องเอ๋งๆ” “ยังไงนะ” “เอ๋งๆ ไง หมาบ้านนายร้องกุ๊กๆ เหรอ” “...” ฉันตวัดตาดุมองไอ้บ้าไคม์ มันหลอกให้ฉันร้องเอ๋งๆ เหมือนหมา พอเผลอทำตามมันก็ยกยิ้ม “เอ๋งๆ...หมาตัวนี้น่ารักดี อยากขี่หมา” “เดี๋ยวเถอะนะ! ตลกมากรึไงห้ะ” ไอ้ปากเสียตัวใหญ่มือนิ่มล้างแผลให้ฉันจนสะอาดดีแล้วก็พันผ้าก๊อซให้ซะใหญ่โต โตจนกลายเป็นมือยักษ์จนคิดว่าบาดแผลนั่นน่าจะใหญ่เอาเรื่อง “มานี้” “จะทำอะไร” “ถอดเสื้อออกซะเดี๋ยวไม่สบาย ใส่เสื้อพี่กลับบ้าน” เห้อ.... ฉันถอดหายใจกับความเจ้ากี้เจ้าการของไคม์แต่ก็ยอมทำเพราะขี้เกียจเถียง แต่แค่นั้นยังไม่จบ ตานั่นยังอาสาขับรถมาส่งอีกด้วย “รู้ไหมว่าฝีมือใคร” “ไม่” “แล้วจะเอาเรื่องไหม พรุ่งนี้เดี๋ยวพี่ไปเป็นพยานให้” ไคม์เสนอตัวเข้ามาช่วยอีกครั้ง มันน่าหงุดหงิดที่เขาพยายามทำตัวเป็นคนดีกับฉัน ทั้งๆ ที่สาวๆ ของมันนั่นแหละที่เป็นคนทำเรื่องพวกนี้ “ฉันไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร แต่ตั้งแต่มีข่าวกับนายก็มีแต่เรื่องบ้าๆ” “เดี๋ยว! เราอะคนเกลียดเป็นร้อยเลยนะ” “เพราะใครล่ะ” “ไม่คิดบ้างว่าเพราะนิสัยของเรา” “ถึงฉันจะเป็นแบบนี้แต่ฉันก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนหรือเอาเปรียบใคร ฉันอยู่ในพื้นที่ของฉันโดยไม่เคยล้ำเส้นใคร ฉันรวย ฉันเก่ง ฉันอยู่คนเดียวโดยไม่ต้องพึ่งพาใครมันก็ไม่แปลกที่คนอื่นจะไม่ชอบ แต่คนพวกนั้นเคยได้รับความเดือดร้อนจากการที่ฉันเป็นลูกเศรษฐีไหม” จริงอยู่ว่าฉันสามารถใช้อภิสิทธิ์มากมายที่ทางมหาลัยเอื้อประโยชน์ให้แต่ฉันก็ไม่รับ การบ้านทุกวิชา รายงานทุกชิ้นที่ทำฉันหาข้อมูลมาด้วยตัวเองอย่างตั้งใจ ไม่เคยทำชุ่ยๆ คุณภาพงานเดี่ยวของฉันเทียบเท่างานกลุ่มเสียด้วยซ้ำ แต่คนอื่นก็ยังเกลียดที่ฉันเย่อหยิ่งและไม่เข้าพวกกับคนทั้งคณะ “แล้วเรื่องวันนี้จะเอายังไง” “บรรดาสาวๆ ของนายล้ำเส้นฉันก่อน ฉันจะคืนให้ถึงที่สุด” “หนูดี! ไม่มีใครรักพี่ถึงขั้นมาทำร้ายเราหรอก บ้ารึเปล่า” “ก็บ้านั่นสิ! บ้าทั้งนาย บ้าทั้งผู้หญิงพวกนั้น” การพูดคุยช่วยให้เวลาบนรถนั้นสั้นลงกว่าทุกครั้ง โดยปกติแล้วฉันจะเซ็งอยู่กับการจราจรที่แสนติดขัดแต่วันนี้กลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว “จะไม่ชวนเข้าบ้านหน่อยเหรอ” “เพื่ออะไร” ฉันลงจากรถและสั่งให้คนงานมาขับลูกรักไปเก็บในโรงจอดไม่สนหรอกว่าไคม์จะกลับบ้านด้วยวิธีไหน “พี่ควรเข้าไปสวัสดีผู้ใหญ่ อุตส่าห์มาถึงหน้าบ้าน” “ไม่จำเป็น” “จำเป็นสิหนูดี! เข้ามาสิจ๊ะไคม์” ผู้เป็นมารดาผ่านมาพบเข้าพอดีจึงเชิญไคม์เข้าบ้าน ฉันเองก็อยากจะเดินกลับขึ้นห้องแต่แม่ก็ยังบังคับให้นั่งเป็นเพื่อนมันอยู่ได้ “ทานมื้อเย็นด้วยกันนะไคม์ คุณลุงกิตติจะกลับก็สักทุ่ม” “ต้องขอโทษจริงๆ ครับคุณป้าดุจดาว ช่วงเย็นผมต้องไปเช็กงานที่สาขา นี้ก็ใกล้จะเปิดที่ใหม่ยิ่งต้องตรวจดูให้ละเอียดเมื่อถึงวันจริงทุกอย่างจะได้พร้อม” “โธ่พ่อคุณขยันเสียจริง” “ขออภัยที่เสียมารยาทไม่รับคำเชิญนะครับคุณป้า” “ไม่เป็นไรจ้ะ! เรามีธุระสำคัญนี้นะ เรื่องทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาไว้เมื่อไรก็ได้” “ขอบคุณครับ” แม่ฉันไม่เคยพูดจาเสียงนิ่มยิ้มขาดใจกับฉันขนาดนี้สักครั้งเวลาอยู่บ้าน คุยกันไม่เกินสองประโยคก็กลับเข้าพื้นที่ตัวเองแล้ว “รถผมมาแล้วขออนุญาตลาเลยนะครับ” “จ้ะ! หนูดีไปส่งพี่เขาสิ” “ให้หนูดีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” “อ้อ!” แม่ฉันเชื่อทุกคำที่ไคม์บอก ฉันจึงได้ขึ้นห้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียที “นางตัวดี! แกจะทำเรื่องงามหน้าแบบนี้ไปถึงไหนห้ะ” “โอ๊ยแม่!” “ในมหาลัยแกก็ยังทำได้ แกนี้มันเป็นยังไงกันนะ” แม่คงส่งไคม์เรียบร้อยแล้วถึงได้ตามมาหาเรื่องฉันต่อถึงในห้อง สามประโยคคำถามที่ถามคงไม่ได้ต้องการคำตอบจากฉันแน่ๆ “ยังไง! ในสายตาแม่หนูดีเป็นยังไง” “อย่ามาปากเก่งกับฉัน” “หนูดีทำอะไรผิดอีก” “ยังมีหน้ามาถาม แกใส่เสื้อผู้ชายกลับมาบ้านจะให้ฉันคิดยังไงได้” “หนูดีเป็นลูกแม่จริงๆ ใช่ไหมคะ” ฉันเหลืออดกับสิ่งที่พ่อแม่ยัดเหยียดให้ ท่านจงเกลียดจงชังอะไรฉันนักหนานะ “คิดว่าฉันกับพ่อแกไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ สินะถึงได้ทำตัวกร้านโลกแบบนี้ ที่ผ่านมาพวกฉันทุ่มเทหาสิ่งที่ดีที่สุดบันดาลให้ทุกอย่างที่แกต้องการ ทำให้แกอยู่เหนือกว่าทุกคนคิดได้ยังไงว่าฉันไม่ใช่แม่แกจริงๆ” “แล้วทำไมถึงคิดกับหนูดีแบบนี้” “เพราะพวกฉันผิดหวังมากไง พวกฉันหวังว่าแกจะเข้ามาเติมเต็มและเชิดชูวงศ์ตระกูลให้สูงส่งขึ้น แต่แกก็มักฉุดให้ครอบครัวลงต่ำเพราะการกระทำของแก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD