"ทุ่งหมอกโฮมสเตย์"
"หาวววว ถึงเสียที" ญาณวดีหาวลากเสียงยาว
"สวัสดีจ้า มาเที่ยวคนเดียวหรือลูก" คุณป้าเจ้าของโฮมสเตย์ออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่น
"มาสามค่ะ" พริมาพูดบอกข้างๆหูคุณป้า
"ทำอย่างกับแกเห็นอย่างนั้นแหล่ะ" ญาณวดีบ่นพริมา
"ก็ลืมตัว อยากทักทายคนบ้างน่ะสิ" พริมาก้มหน้าที่โดนบ่นอีกแล้ว
"หนูว่าอะไรหรือจ๊ะ" คุณป้าหันมาถามเพราะได้ยินไม่ถนัด
"ปละเปล่าค่ะ หนูแค่บิดขี้เกียจแบบนี้ค่ะ" ญาณวดีแก้ตัวแล้วก็ทำท่าบิดขี้เกียจผสมหาวกลบเกลื่อน
"อ๋อ จ้ะ ไปเร็ว เดี๋ยวป้าพาไปส่งที่ห้อง"
"นี่อย่าทำตัวมีพิรุธอีกนะขอเตือน" ญาณวดีกำชับพริมา
"หนูมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ" คุณป้าถามเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของเธอ
"เอ่อ บิด...บิดขี้เกียจค่ะ"
"หนูคงง่วงมากนะไปพักผ่อนลูกแล้วมาทานอาหารที่ร้านป้านะคะ ที่นี่มีอาหารเช้าให้รวมในค่าห้องแต่กลางวันและเย็นจะคิดตามราคาเมนูเลยจ้ะ"
"คะค่ะ ขอบคุณค่ะคุณป้าไว้จะออกไปทานนะคะ" ญาณวดีเข้าห้องได้ก็รีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว
"ใครกันแน่ที่มีพิรุธ นุดหนอนุด"เจ้ากุมารแซวญาณวดีเพราะคนที่เห็นได้ชัดที่สุดว่ามีพิรุธคือมนุษย์อย่างญาณวดี
"เดี๋ยวเหอะเจ้าคาปูถ้าไม่เพราะพวกเธอสองคนทำอะไรให้ฉันคอยกังวลฉันก็ไม้ต้องถูกใครต่อใครมองว่าฉันประหลาดหรอก" ญาณวดีแทบจะแยกเขี้ยวใส่วิญญาณทั้งสอง
"ฉันขอนอนพักก่อนนะ เอาแรงสักงีบ คร่อกกกก" พูดจบปุ๊บเสียงกรนของญาณวดีก็ดังขึ้นตามทันที
"ถึงฉันจะจำอะไรไม่ได้แต่ฉันมั่นใจว่าไม่เคยนอนกรนเหมือนคุณแน่" พริมาพูดและมองหน้ากับกุมารจิ๋ว
"หมดกันแม่หมอฉัน" เจ้าคาปูชิโนส่ายหน้า
..................
"หาวววว เช้าแล้วหรออออ" ญาณวดีตื่นเมื่อรู้สึกเหมือนมีมือน้อยมาเขย่าตัว
"เช้าอะไรกัน นี่มันเย็นแล้วต่างหาก" เสียงเล็กๆบอก
"อ๋อเหรอ งั้นไปหาอะไรกินกันดีกว่า" ญาณวดีเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าตาแล้วเดินออกไปที่ด้านหน้าโต๊ะต้อนรับของโฮมสเตย์
"ว้าวเมนูเยอะมากเลยไม่น่าเชื่อว่าโฮมสเตย์ชาวบ้านจะมีอาหารเยอะแบบนี้" ญาณวดีกำลังหิว
"สั่งได้เลยจ้ะ รับเครื่องดื่มอะไรดีจ๊ะ" คุณป้าเจ้าของผู้ทำหน้าที่เองเกือบทุกอย่าง
"เอาน้ำลำไยสามแก้วค่ะ" ญาณวดีตอบอย่างรวดเร็ว
"สามแก้วหรือ"คุณป้าแปลกใจ
"ค่ะสามแก้ว" เธอลืมตัวสั่งเผื่อพริมาและคาปูชิโน่
"หนูกินทีเดียวสามแก้วหรือจ๊ะ"
"อ๊ะ อ๋อ เปล่าค่ะสั่งมาเผื่อจะได้ดื่มต่อเนื่องกันค่ะ" ญาณวดีแก้ตัว
"สั่งทีละแก้วก้ได้นะจ๊ะ" คุณป้าแนะนำ
"มะไม่เป็นไรค่ะเอามาเลยคุณป้าจะได้ไม่ต้องเดินหลายเที่ยว"
ถึงแม้ว่าคุณป้าจะแปลกใจแต่ก็ยอมทำตามลูกค้าสั่งแต่โดยดี
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ ญาณวดีก็นั่งทานอย่างเอร็ดอร่อยโดยมีเจ้าคาปูน้อยนั่งดูดน้ำลำไยจากแก้วส่วนพริมานั่งเฉยมองที่แก้วนั้น
"คุณป้าคะ คุณป้าพอจะรู้จัก ไร่ธาราศิขรินทร์ไหมคะ" ญาณวดีถามคุณป้าเจ้าของโฮมสเตย์เมื่อรับประทานอิ่ม
"ธาราศิขรินทร์หรือ อ๋ออยู่ไกลมากเลยนะหนูอาจจะต้องหาเช่ารถไปหรือไม่ก็รถรับจ้าง เพราะส่วนใหญ่เขาขับรถส่วนตัวไปกันทั้งนั้นไม่มีรถประจำทางหรอกบนเขาบนดอยแบบนี้ หนูจะไปพักที่นั่นหรือ"
"ค่ะว่าจะไปเที่ยว"
"อืมก็ดีนะแต่น่าจะแพงหน่อยเป็นไร่ส้มแล้วก็รีสอร์ทด้วย"
"แพง ตายแล้วเสียเงินอีกแล้วหรือฉัน" ญาณวดีตกใจเพราะไม่คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน
"ยัยคนสวยเล่นฉันแล้ว" ญาณวดีกุมขมับโดยมีพริมานั่งยิ้มแบบอายๆ
................
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่หารถรับจ้างไปส่งที่ธาราศรินทร์ได้ ญาณวดีก็ออกเดินทางในที่สุด
"ไร่ธาราศิขรินทร์ ใช่จริงๆด้วย" ญาณวดีตาวาวเมื่อถึงที่หมาย ด้วยความที่ไม่เคยมาเธอจึงเดินวนไปทั่วไม่มีจุดหมายจนเกือบเข้าไปถึงพื้นที่ที่เป็นที่พักส่วนตัวของธาราเทพ
"มาหาใครครับ จุดที่เป็นไร่ส้มที่รับนักท่องเที่ยวอยู่ทางโซนด้านนอกนั้นครับ" เสียงชายหนุ่มพูดขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวแปลกหน้าด้อมๆมองๆเดินเข้ามา
"อ๋อค่ะ คะขอโทษค่ะพอดีหลงเข้ามาน่ะค่ะ" ญาณวดีแก้ตัว และจำใจเดินกลบออกไปโดยเหลียวหลังหันกลับมามองเพื่อสอดส่องสายตาให้มั่วว่าไร่นี้มีอะไรบ้าง จนกระทั่งเธอเห็นป้ายที่หน้าเคาว์เตอร์จุดบริการนักท่องเที่ยวและแคชเชียร์คิดเงิน
"สมัครงานติดต่อฝ่ายบุคคล จันทร์ ถึงศุกร์ 8.30 - 17.00 น." แบบนี้แปลว่ารับสมัครพนักงาน
"เอ่อขอโทษนะคะที่นี่มีตำแหน่งอะไรว่างบ้างคะ" เธอถามพนักงานที่นั่งอยู่ตรงเคาว์เตอร์
"ตอนนี้ก็เหลือแค่ตำแหน่งแม่บ้านทำความสะอาดกับคนงานเก็บส้มค่ะ"
"แม่บ้านกับเก็บส้มเอาก็เอาวะ" ญาณวดีตัดสินใจแฝงตัวเป็นพนักงานของที่ไร่
"ขอใบสมัครด้วยค่ะ" ญาณวดีขอเอกสารมากรอก
"แล้วรอฝ่ายบุคคลติดต่อไปนะคะ"พนักงานรับเอกสารและแจ้งแก่เธอ
"วันนี้คงยังทำอะไรไม่ได้มากนอกจากสำรวจพื้นที่เบื้องต้น จริงสิเจ้าสองตัวนั้นหายไปไหนทำไมเงียบ" ญาณวดีเดินเพลินเลยลืมวิญญาณสองตนที่มาด้วยกัน
"แม่ ช่วยด้วย" กุมารน้อยร้องเรียก พริมาและคาปูชิโนไม่สามารถเข้ามาข้างในได้เนื่องจาก
"ข้าให้พวกเอ็งเข้าไม่ได้เจ้าของเขาไม่ได้อนุญาต" คุณตาคุณยายเจ้าที่เจ้าทางพูดขึ้น
"หนูจะไปหาแม่" คาปูชิโนแกล้งร้องไห้ขอความเห็นใจ
"เอ่อ ลูกชายหนูเองค่ะ" ญาณวดีเดินเข้ามาเห็นเหตุการณ์ก็รีบวิ่งปราดเข้ามา
"ลูกหรือ?" ท่านเจ้าที่แปลกใจ
"เอ่อคือเลี้ยงแล้วรักเหมือนลูกน่ะค่ะ" เธอยิ้มแห้ง
"แล้วแม่หนูนั่นล่ะ" คุณตาชี้ไปที่พริมา
"มาด้วยกันค่ะเพื่อนกัน"
"เพื่อน โอ...มนุษย์สมัยนี้มีเพื่อนเป็นผีแล้วหรือ ว่าแต่หน้าคุ้นๆนะแม่หนูคนนี้" คุณยายเจ้าที่พูดบ้าง
"ยังไงก็ต้องให้เจ้าของเขาอนุญาตนะไม่อย่างนั้นก็เข้าไม่ได้"
"กำลังจะกลับกันแล้วค่ะ" ญาณวดีไม่รอช้ารีบพาเพื่อนต่างมิติทั้งสองตนเดินกลับออกไป
"นี่มาถึงที่นี่แล้วจะกลับแล้วหรือ" พริมาถาม
"ยังทำอะไรไม่ได้มากแต่ฉันก็คิดวิธีที่จะทำให้เราได้อยู่ต่อที่นี่แล้วนะ" ญาณวดีบอก
"ทำยังไงหรือ" พริมาดีใจ
"ก็ฉันจะสมัครงานเป็นแม่บ้านที่นี่น่ะสิแต่ว่าต้องรอฝ่ายบุคคลเรียกนะลุ้นเอาว่าเขาจะรับไหมตอนนี้ต้องกลับไปนอนที่เดิมก่อน" ญาณวดีไม่กล้าให้ความหวังแก่พริมาร้อยเปอร์เซ็นต์
"คาปูเรามาร่วมมือกันนะ" พริมาก้มลงไปคุยกับกุมารน้อยพร้อมกระซิปหูน้อยๆถึงแผนการ
"ได้เลยๆ" กุมารน้อยยิ้ม
"คุณตาคุณยายครับก่อนกลับผมขออะไรบางอย่างได้ไหมครับ" เจ้ากุมารเดินไปตีหน้าเศร้ากับตายายเจ้าที่
"อะไรล่ะไอ้หนู"
"ช่วยกอดหนูหน่อยได้ไหมตั้งแต่หนูกลายมาเป็นกุมารหนูก็ไม่เคยได้เจอหน้าพ่อแม่และตายายอีกเลย พอมาเจอคุณตาคุณยายมันอดคิดถึงไม่ได้ว่าครั้งหนึ่งหนูเกือบได้เกิดมามีพ่อแม่ เหมือนเด็กคนอื่นๆ" เจ้าคาปูชิโนบีบน้ำตา
"คาปูแกเป็นอะไร" ญาณวดีตกใจที่เจ้ากุมารเกิดบ่อน้ำตาแตกคิดถึงแม่
"นั่นเห็นไหมเขาเลี้ยงหนูแต่เขาก็ดุหนูนะ" คาปูชิโนบีบน้ำตาต่อ
"โอ้ยมนุษย์สมัยนี้ทำไมใจร้ายนักนะ มาลูกมาโอ๋ๆ" ตายายเจ้าที่ต่างก็หันมาสนใจกุมารน้อยน่าสงสารที่กำลังร้องไห้เป็นเถาเต่า
"เฮ้ยอยู่ๆมาว่าฉันได้ยังไง"ญาณวดีฮึดอัด
พอสองตายายเจ้าที่เผลอพริมาก็แอบวิ่งเข้าไปข้างในมองหาจุดที่เป็นโต๊ะรับสมัครงาน เมื่อเธอเห็นก็รีบเข้าไปหาเอกสารใบสมัครงานของญาณวดี
"เห็นแล้ว" พริมาพูดขณะที่ยืนหาเอกสาร
ด้วยพลังบุญที่เธอเพิ่งได้รับทำให้เธอมีพลังงานมากพอที่จะหยิบจับสิ่งของได้ เธอจึงหยิบใบสมัครของคนอื่นไปซ่อนเหลือไว้แค่ของญาณวดีเพียงชุดเดียว จนกระทั่งพนักงานฝ่ายบุคคลเดินออกมาเอาเอกสาร
"มีคนสมัครแค่คนเดียวหรือไงเนี่ย ช่างเถอะรีบๆรับ คนมาทำที่นี่ไม่ทนเลยสักคนขี้เกียจหาใหม่แล้ว" พนักงานพูดบ่นอยู่คนเดียว
"เยส ได้ผล" พริมาดีใจที่ทำสำเร็จแล้วรีบวิ่งกลับออกไป เมื่อมาถึงก็หันไปทำมือสัญลักษณ์โอเคให้กับคาปูชิโน
"ผมไปก่อนนะครับคุณตาคุณยายไว้มีโอกาสค่อยมาเยี่ยมกันใหม่นะครับ" เจ้าคาปูชิโนผละออกจากอ้อมกอดตายายเจ้าที่แล้วขอตัวกลับทันที
"หายไปไหนมายัยคนสวย" ญาณวดีถามพริมา
"เอาน่าเดี๋ยวรู้กัน" พริมาไม่ยอมบอก
"ไปกลับไปนอนรอฟังข่าวแล้วคิดหาวิธีกันใหม่" ญาณวดีนำทัพเดินออกไปรอรถรับจ้างที่นัดไว้ให้มารับ
.................