หลังจากเริ่มมีจุดเริ่มแห่งความห่างเหินเสมือนเป็นรอยร้าวในความสัมพันธ์ระหว่างพริมาและธาราเทพ นับแต่นั้นสองครอบครัวก็ระหองระแหงต่อกันกลายๆ
"พริมจะขอให้ธาราโอนหุ้นในรีสอร์ทให้กับพริม" พริมาเปิดเรื่องเมื่อเข้ามาพบธาราเทพถึงที่บ้านที่อยู่ในบริเวณไร่ส้ม
"หมายความว่ายังไงหรือพริม"
"พริมอยากทำแค่เพียงคนเดียวไม่อยากร่วมหุ้น พริมขอซื้อหุ้นคืนทั้งหมด" ความจริงเธอไม่ได้ลงทุนร่วมกับเขาแม้แต่บาทเดียว ทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินของธาราเทพ เธอมีเพียงหุ้นลมและลงแรงเป็นประชาสัมพันธ์และดีลงานเท่านั้น คำว่าหุ้นส่วนธาราเทพแค่เพียงต้องการให้เกียรติคนรักไม่ต้องการให้ใครครหาว่าเธอหวังผลประโยชน์จากเขา
"พริมไม่คิดที่จะแต่งงานกับผมแล้วใช่ไหม" ธาราเทพมีสีหน้าผิดหวัง
"เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยคุยกันอีกทีค่ะตอนนี้พริมแค่อยากเป็นเจ้าของรีสอร์ทคนเดียว"
"มันเป็นความต้องการของพริมจริงๆหรือ" ธาราเทพมีความสงสัยว่าความคิดนี้อาจจะไม่ได้มาจากเธอ พริมาวันนี้ไม่ใช่คนเดิมที่เขาเคยรู้จัก
"ผมขอคิดดูก่อนแล้วกัน"ธาราเทพแค่กังวลว่าพริมาน่าจะถูกใครยุยงมามากกว่า
"ธาราคิดจะยึดมันไว้เป็นของตัวเองคนเดียวหรือยังไงถึงพริมจะไม่ได้ลงเงินแต่พริมเองก็ลงแรงไปตั้งเยอะจนรีสอร์ทเป็นที่รู้จักและมีลูกค้าเข้ามา" พริมาเริ่มขัดใจที่เขาไม่ยอม ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าที่จริงแล้วตัวเองไม่มีสิทธิ์แต่ก็คิดอยากจะครอบครอง
"ผมเป็นห่วงคุณนะพริม ผมขอแน่ใจอะไรบางอย่างก่อน"
"แน่ใจอะไรคะ คุณมันเห็นแก่ตัว" ทั้งสองเริ่มขึ้นเสียงใส่กันจนคนรับใช้และคนงานภายในไร่เริ่มได้ยินเสียงบ้างก็แอบมามองดู
"คุณพริมกับพ่อเลี้ยงทะเลาะกัน" เมี่ยงแม่บ้านหันไปคุยกับลุงจ้อนหัวหน้าคนงาน
"ฉันว่ามันชักจะยังไงแล้วนะหลังๆคุณพริมดูอารมณ์แปรปรวน ทะเลาะกับพ่อเลี้ยงก็ออกจะบ่อย
"แล้วพริมจะมาใหม่ค่ะ ถ้าพริมไม่ได้สิ่งที่พริมต้องการเราก็จบกันค่ะ" พริมาพูดจบเดินหุนหันพลันแล่นออกไป
"พริมผมไม่สามารถทำตามที่คุณขอได้แล้วผมจะไม่มีวันยอม" ธาราเทพส่งข้อความไปหาหญิงคนรัก เขารู้ดีว่าเธอไม่ใช่คนที่เห็นแก่เงินแต่การเรียกร้องของเธอครั้งนี้มันดูมีเบื้องลึกเบื้องหลัง
"พริมก็ไม่ยอมเช่นกันค่ะ" เธอยืนกรานในสิ่งที่เธอเรียกร้องจากเขา
"ถ้าคุณไม่เชื่อผมเราจะได้เห็นกัน" ธาราเทพแค่เพียงอยากจะขู่เธอเท่านั้นในใจหาได้มีเจตนาแอบแฝง
สิ้นข้อความเพียงเท่านั้นทั้งสองหนุ่มสาวก็ไม่ได้ติดต่อมาหากันอีกเลยเป็นเวลามากกว่าสามวัน
จนกระทั่ง...
............