"ยายพริม!" จงจิตรได้รับสายโทรศัพท์เบอร์ไม่คุ้นเมื่อได้ยินข้อความที่ต้นสายบอกมาก็ลมใส่ล้มทั้งยืน
"คุณ เป็นอะไรไป" ภาคภูมิวิ่งไปรับภรรยาที่เป็นลมแทบไม่ทัน
"ยัยพริม เกิดอุบัติเหตุค่ะคุณ ฮือออ" ผู้เป็นแม่ปล่อยโฮออกมา
"ลูก!แล้วเป็นยังไงตอนนี้อยู่ที่ไหน" ภาคภูมิเขย่าตัวภรรยาจนลืมไปว่าเธอเองก็ยืนแทบไม่ไหว
"ไปค่ะคุณ เรารีบไปโรงพยาบาลกัน" จงจิตรฝืนตัวชวนสามีออกไปที่โรงพยาบาลโดยเร็ว
เมื่อมาถึงที่โรงพยาบาลสองสามีก็พบกับข่าวร้าย
"ลูกสาวดิฉันเป็นอย่างไรบ้างคะคุณหมอ" จงจิตรริมฝีปากระริกเสียงสั่นเครือ
"หมอพยายามยื้อชีวิตเอาไว้แต่ไม่เป็นผล คนไข้ได้รับแรงกระแทกที่ศรีษะอย่างแรงครับ"
"หมายความว่ายังไงหมอ!" ภาคภูมิถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ชายแต่เมื่อสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักยิ่งก็รับไม่ไหว
"หมอขอแสดงความเสียใจด้วยครับ" หมอได้แต่ก้มหน้าบอกเท่านั้นแล้วก็ต้องเดินจากออกไปทำหน้าที่อื่นต่อ สองสามีภรรยากอดกันนั่งร้องไห้ดุจจะขาดใจ
หลังจากที่ดำเนินการเรื่องนำร่างของลูกสาวไปเพื่อทำพิธีทางศาสนา เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็ได้นำของใช้ส่วนตัวของพริมานำส่งคืนให้กับบิดามารดา
"มือถือและกระเป๋าสตางค์รวมถึงของมีค่าอื่นๆอยู่ในกระเป๋าสะพายของผู้ตายนะครับ"
"ค่ะ" จงจิตรตอบรับเหมือนคนไร้วิญญาณและรับเอากระเป๋าใบนั้นมา เธอเปิดกระเป๋าออกหยิบมือถือขึ้นมาดูและลองสุ่มกดปลดรหัสคิดว่าลูกสาวไม่น่าจะใช้เลขแปลกนอกจากวันเดือนปีเกิดของตนเอง ซึ่งก็ตรงตามนั้นยิ่งทำให้จงจิตรมีความอยากรู้ว่าในเครื่องลูกสาวจะมีอะไรบ้าง เธอไล่รู้ไปตามรูปภาพที่เซฟเก็บเอาไว้แล้วก็น้ำตานองหน้า จนกระทั่งเปิดไปอ่านเจอแอปพลิเคชั่นบทสนทนาระหว่างพริมาและธาราเทพ
ข้อความสุดท้ายจากชายคนรักของลูกสาว
"พริมผมไม่สามารถทำตามที่คุณขอได้แล้วผมจะไม่มีวันยอม"
"พริมก็ไม่ยอมเช่นกันค่ะ"
"ถ้าคุณไม่เชื่อผมเราจะได้เห็นกัน"
"คุณคะ ดูนี่สิ" จงจิตรนำข้อความในมือถือไปให้สามีดู
"ไอ้ธาราเทพ!" ภาคภูมิกำมือถือแน่นกัดฟันด้วยความโกรธแค้น
"ต้องเป็นมันแน่ๆค่ะ ระยะหลังขัดผลประโยชน์กันเรื่องรีสอร์ท" จงจิตรบอกสาเหตุที่คาดเดาและค่อนข้างมั่นใจ
"มันน่าจะหึงยัยพริมที่คุณทวีเข้ามาด้วย ถ้าไม่ใช่มันก็ไม่มีใคร ลูกสาวเราไม่มีศัตรูที่ไหน" ภาคภูมิเองก็รู้ดีว่าทวีเข้าหาลูกสาวตนมากกว่าคนติดต่อกันเรื่องธุรกิจธรรมดา
"มึงกับกูต้องได้เห็นดีกัน" ภาคภูมิกล่าวคาดโทษไว้
............