"ตาธารารู้ข่าวเรื่องหนูพริมหรือยังลูก" บุพผาปรี่เข้ามาหาลูกชายถึงในไร่ขณะที่เขากำลังสั่งงานคนงานอยู่
"ข่าวอะไรครับแม่" หลังจากที่เขามีปากเสียงกับเธอเขาก็เอาแต่ทำงานไม่ดูเดือนดูตะวันจนไม่รู้เรื่องอะไร
"หนูพริมประสบอุบัติเหตุเสียแล้วลูก" บุพผาเองก็ใจคอไม่ดีที่ต้องบอกข่าวนี้กับลูกชายตน
"อะไรนะครับคุณแม่ ไม่จริงใช่ไหมครับ" เขาตกใจไม่น้อย
"จริงลูกแม่จะเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นได้ยังไง"
"ที่ไหนครับแล้วตอนนี้พริมอยู่ที่ไหน"
"ตอนนี้คุณจงจิตรกับคุณภาคภูมิน่าจะกำลังดำเนินการเรื่องนำร่างมาบำเพ็ญกุศลอยู่นะลูก"
"แล้วนั่นลูกจะไปไหน" บุพผาร้องเรียกลูกชายเมื่อเห็นเขากึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่โรงรถ
"ผมจะไปหาพริม" ธาราเทพไม่ฟังเสียงทัดทานใดใจรีบร้อนอยากไปเห็นหน้าคนรักเป็นครั้งสุดท้าย
"ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหล่ะ มึงไม่มีทางได้เห็นหน้าลูกกุหรอกไอ้ธาราเทพ จับมันเลยครับคุณตำรวจ" ภาคภูมิตะโกนเสยงดังเขาพาตำรวจบุกมาที่บ้านของธาราเทพโดยไปแจ้งกับทางตำรวจว่า พบเจอคนร้ายที่ฆ่าลูกสาวตนเอง
"นี่มันอะไรกันครับมาทำอะไรที่บ้านผม" ธาราเทพไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"ผมได้รับแจ้งจากคุณผู้ชายท่านนี้ว่าคุณมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการตายของคุณพริมาครับ" นายตำรวจที่มาแจ้งกับเขา
"ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น ผมเพิ่งรู้ข่าวเรื่องพริมด้วยซ้ำ" ธาราเทพงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนไม่ทันได้ตั้งตัว
"อย่าทำมาเป็นไขสือ ข้อความสุดท้ายที่แกส่งถึงลูกพริมแกข่มขู่ลูกพริม" จงจิตรต่อว่าเขาทั้งน้ำตา
"ยังไงผมต้องขอเชิญพ่อเลี้ยงไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจด้วยครับ"
"ได้ครับผมขอไปพร้อมกับทนายความของผม" เมื่อไม่มีทางเลือกและต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจเขาจึงจำต้องไป
"ธารา แม่ไปด้วย" บุพผาเป็นห่วงลูกชาย
"ไม่เป็นไรครับคุณแม่ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด เดี๋ยวผมไปกับคุณอาทนาย" ธาราเทพบอกแม่ให้คอยฟังข่าวอยู่ที่บ้าน