วิญญาณรักป่วนก๊วนไร่ส้ม

พ้นข้อกล่าวหาเบื้องต้นเท่านั้น

"มึงติดคุกหัวโตแน่ไอ้ธาราเทพ"ภาคภูมิตามมาด่าสาดเสียเทเสียเขาถึงสถานีตำรวจ

"คุณอาธำรงค์" ธาราเทพหันไปเรียกทนายความประจำตระกูลของเขา

"คุณผู้ชายท่านนี้เชิญออกไปนั่งรอข้างนอกนะครับ จากนี้ไปเป็นหน้าที่ของทางตำรวจครับ" ตำรวจเชิญภาคภูมิและจงจิตรให้ออกไป

"จับมันเลยสิรอทำไมจับมันเลยสิหลักฐานเห็นๆ"ภาคภูมิยังไม่หยุดหัวร้อน

"มันเป็นแค่ข้อสันนิษฐานครับตราบใดที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนเรายังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีได้นะครับ ยังไงต้องขอให้คุณใจเย็นๆก่อน" ตำรวจเจ้าของคดีมาเชิญให้สองสามีภรรยาไปสงบสติอารมณ์ก่อน

ตำรวจใช้เวลาสอบสวนอยู่ประมาณเกือบสองชั่วโมงก็ได้หันมาพุดคุยกับทั้งธาราเทพและทนายความ

"ยังไงผมก็ยังต้องขอให้ทางคุณธาราเทพมาให้การอยู่เรื่อยๆนะครับหากจำเป็นเพราะข้อความที่ปรากฏอยู่ในมือถือของผู้ตายก็ชวนให้น่าสงสัยถึงแรงจูงใจไม่น้อย ถึงแม้ว่าการตายจะดูเป็นอุบัติเหตุก็ตาม ทางตำรวจยังคงต้องรอฝ่ายพิสูจน์หลักฐานส่งเรื่องเข้ามาประกอบสำนวนด้วยครับ"

"ถ้ายังไงติดต่อผ่านทางคุณอาทนายของผมได้เลยนะครับผมยินดีให้ความร่วมมือเสมอ" ธาราเทพตอบข้อสงสัยได้อย่างไม่มีข้อกังขาและไม่มีพิรุธแต่สิ่งที่ยังคงเป็นมลทินสำหรับเขาคือข้อความในโทรศัพท์มือถือที่เขาส่งไปถกเถียงกับเธอทั้งความสัมพันธ์และผลประโยชน์เรื่องรีสอร์ทที่ยังต้องรอการพิสจน์กันต่อไปไม่ว่าจะเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และเรื่องความโกรธแค้นฝังใจในใจคนก็ตาม

"จะว่าไปผมเองก็สงสัยการตายของพริมเหมือนกันนะครับ พริมขับรถขึ้นลงที่นี่เป็นประจำแม้กระทั่งตอนฝนตกเธอก็ขับออกจะบ่อย พริมเป็นผู้หญิงที่ขับรถเก่งมาก ฟังดูลักษณะการเกิดอุบัติเหตุที่ทางคุณตำรวจบอกเมื่อสักครู่มันดูขัดๆกันยังไงชอบกล"ธาราเทพหันไปบอกสิ่งที่เขาสงสัยกับธำรงค์

"อาก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันนะ แต่ยังไงหลานก็ทำใจให้สบายก่อนแล้วกันอย่าเพิ่งตะหนก"

"ผมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ผมต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพริมกันแน่" ธาราเทพกล่าวทิ้งท้ายก่อนออกมาจากสถานีตำรวจ

...........

"อะไรนะ ยังเอาผิดมันไม่ได้ ทำไมล่ะ ตำรวจทำงานภาษาอะไรกัน" ภาคภูมิโวยวายเมื่อโทรไปสอบถามความคืบหน้ากับทางตำรวจ

"เรายังไม่มีหลักฐานดังนั้นเขาก็ยังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัยเท่านั้นครับไม่ใช่ผู้ต้องหา" ตำรวจอธิบายตามหลักความเป็นจริงที่อาจจะไม่ถูกใจคนเป็นพ่อสักเท่าไร

"ห่วยแตก!" ภาคภูมิด่ากระแทกผ่านทางโทรศัพท์และกดวางไป

"เขาว่ายังไงบ้างคะคุณ" จงจิตรลุกจากโซฟาเดินมาถามสามีที่หัวเสียอยู่

"มันบอกหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะจับไอ้ธาราเทพได้น่ะสิ จากนี้ไปครอบครัวเรากับครอบครัวมันตัดขาดกันโดยสิ้นเชิง แม้แต่งานศพยัยพริมก็อย่าให้มันได้มาเหยียบเด็ดขาด" ภาคภูมิประกาศก้อง

"แล้วศพยัยพริมห้ามเผาเด็ดขาดจนกว่าจะเอามันเข้าคุกได้" เขาหันไปสำทับกับภรรยาอีกครั้ง

............