ความเดิม- ..ค่า/ค่า.. สองสาวรับคำยิ้ม ๆ แล้วเดินตามมาติด ๆ
………………………………
เทศกาลมาจอดรถที่หน้าห้างสรรพสินค้าเมื่อเห็นว่าเด็ก ๆ เดินมาทางนี้ชายหนุ่มรีบไปเปิดประตูรถให้เด็ก ๆ ด้านเกียรติพงษ์เปิดประตูรถให้สองพี่น้องเข้าไปนั่งที่ห้องผู้โดยสารและตัวเองรีบเข้าไปนั่งข้างพลขับ และเทศกาลรีบออกรถเพราะต้องรักษาเวลาให้ลูกค้ารายอื่นของห้างได้จอดบ้าง
หลังจากนั้นชายหนุ่มได้ขับรถมาเรื่อย ๆ เพื่อส่งผู้โดยสารรายแรกคือปรียาวรรณที่กำลังปลื้มปริ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับผ้าโพกศีรษะอันใหม่แทนอันเก่าที่ยืดย้วยไปแล้วอยู่คนเดียวแต่ไม่รอดพ้นสายตาของใครอีกคน
..ไงถูกใจมากเหรอ.. นนท์วนาเอ่ยถามเพื่อนสาวยิ้ม ๆ
..อื้ม…..
..เราซื้ออีกอันนึงไปฝากยัยแววด้วยนะ เอาไว้โพกผมเวลาอ่านหนังสือไง แต่คนละสี แต่ห้ามบอกมันนะ กะจะทำเซอร์ไพรส์มันสักหน่อย..
..อืม..ได้..จะปิดปากให้สนิทเลย..
สักพักรถยนต์คันหรูก็มาจอดที่หน้าบ้านของปรียาวรรณ แต่คราวนี้ผู้เป็นบิดาของสาวเจ้าเปิดประตูรั้วไว้และยืนรอแล้วเพราะเด็กสาวโทรไปบอกไว้ล่วงหน้า
ด้านเทศกาลรีบลงจากรถลงไปเปิดประตูให้เด็ก ๆ ได้ไปทักทายผู้ใหญ่ของบ้านทันที เด็ก ๆ เมื่อลงจากรถได้ก็เข้าไปทักทายบิดาของเพื่อนสาวทันที
..หนูพายัยเปรียวมาส่งค่ะคุณพ่อ.. นนท์วนาบอกเสียงแจ๋วจนคนฟังต้องยิ้มกว้าง
..ขอบใจมากลูก../เอ๊ะ! อะไรนี่ ผ้าคล้องแขนสีสวยจังเลย ผ้าโพกหัวก็ไม่ยอมแกะฉลากออกล่ะลูกเอ๊ย ขี้เห่อ.. ปรีชาพูดพร้อมกับโยกศีรษะลูกสาวไปมาอย่างเบามือ
..ยัยลีอาเลือกให้ค่ะพ่อ แล้วก็พี่ชายยัยลีอาจ่ายตังค์ให้.. ปรียาวรรณบอกบิดาตามความสัตย์จริง
..โอ้..หรือครับ เกรงใจจริง ขอบคุณนะครับ แต่ครั้งหลังห้ามเลยนะครับถ้าเค้าอยากได้อะไรให้เค้าจ่ายเอง ผมเติมตังค์ไว้ในแอพธนาคารให้แล้วครับ เงินสดก็ให้ไปครับ.. ปรีชาบอกอย่างไม่ปิดบังเพราะเขารู้สึกยังไม่ไว้วางใจใครเท่าไรนักเพราะเพิ่งรู้จักกันไม่นานนี้เอง
..ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมซื้อให้เด็ก ๆ น่ะครับ คนนึงได้ คนนึงไม่ได้ก็น่าสงสารนะครับ ต้องได้เหมือนกัน นี่เจ้าตัวเล็กก็ได้สนับเข่ากับหมวกกันน็อคสำหรับปั่นจักรยานด้วยครับ เห็นมั๊ยครับ ว่าของน้องเปรียวน่ะจิ๊บ ๆ เลยครับ.. เกียรติพงษ์บอกยิ้ม ๆ
อีกด้านของคนที่ยืนฟังเงียบ ๆ อย่างคอยหาจังหวะ
..เอ่อ..ยัยตัวเล็กเราลืมของไว้ในรถนะ นี่ไงรับไปซิ เดี๋ยวจะลำบากให้น้องลีอาต้องถือไปให้วันพรุ่งนี้อีก รีบรับไป.. เทศกาลจ้องหน้าเด็กสาวพร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิงบอกแล้วยัดถุงกระดาษใส่มือให้
ด้านปรียาวรรณทำหน้าฉงนหันไปมองคนโน้นคนนี้ทีแต่ก็รับถุงกระดาษมาแบบงง ๆ เพราะเธอเข้าใจว่าเพื่อนสาวเป็นคนซื้อให้แบบเซอร์ไพรส์มากกว่า
ส่วนเกียรติพงษ์ได้แต่ยิ้มในหน้าอย่างรู้ใจลูกน้องหนุ่มรุ่นน้องที่รักเหมือนน้องชายแท้ ๆ
..งั้นพวกเราขอลากลับเลยนะครับ ป่านนี้บ้านโน๊นคุณพ่อคุณแม่ของน้องก็คงชะเง้อคอรอแล้วเหมือนกัน ถ้าค่ำกว่านี้เดี๋ยวฝนจะตกอีก.. เกียรติพงษ์รีบตัดบทแล้วหันไปส่งสายตาให้ลูกน้องหนุ่มอย่างรู้ใจ
..ครับ ๆ ขอบคุณมากที่มาส่งลูกสาว เดินทางปลอดภัยนะเด็ก ๆ..
..สวัสดีครับครับ/สวัสดีค่า..บายจ้ายัยเปรียว พรุ่งนี้เจอกันที่เดิมน๊า.. สองพี่น้องยกมือกระพุ่มไหว้ผู้ใหญ่ และเอ่ยลาเพื่อนสาวแล้วเข้ามานั่งในรถเพื่อเดินทางต่อ ใช้เวลาไม่นานรถยนต์คันหรูก็มาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ ประตูถูกเลื่อนออกอัตโนมัติ เทศกาลค่อย ๆ เลื่อนรถเข้าไปในบ้านและจอดรถที่หน้าบ้านและรีบเปิดประตูรถมาเปิดประตูให้เด็ก ๆ และเกียรติพงษ์ก็เช่นกัน
@บ้านอาภาวุฒิไกร
..พาเด็ก ๆ มาส่งครับอานา.. เกียรติพงษ์บอกยิ้ม ๆ
..มากันแล้วเหรอเด็ก ๆ /ขอบใจมากนะหลานเกียรติ พาไปตะลอน ๆ ทั้งวัน หมดไปกี่ตังค์เนี่ย ดูซิ๊ หมวกเอย สนับเข่าเอย ผ้าโผกหัวสีสวยเน๊าะลูก ไม่ขี้เห่อเท่าไหร่เลยลูกฉ๊าน..ไม่รู้เหมือนใคร.. คุณนายวนาลีเอ่ยทักทายลูก ๆ และบ่นกระปอดกระปอดไปตามประสา ด้านสองหนุ่มได้แต่ยืนยิ้มเอ็นดูสองพี่น้องจนแก้มแทบแตก
อีกด้านของผู้มาใหม่
..อ้าวหลานเกียรติมาแล้วเหรอ เข้ามาคุยในบ้านกันก่อนมั๊ยล่ะ.. อานนท์กล่าว
..ไม่ดีกว่าครับ อยากให้พลขับได้ไปพักผ่อนบ้าง วันนี้เค้ามาช่วยเป็นพลขับให้ในวันหยุดของเค้าเสียด้วย งั้นผมลาเลยนะครับ สวัสดีครับอานา สวัสดีครับอานน.. เกียรติพงษ์บอกผู้ใหญ่ยิ้ม ๆ แล้วส่งสายตาให้ลูกน้องเป็นอันรู้กัน
@บนรถ
"บอกความจริงมา ของในถุงใบนั้นเป็นของนายใช่มั๊ย เพราะกระผมอยู่กับเด็กสามคนนั่นตลอด ไม่ได้ซื้ออะไรอย่างอื่นนอกจากนี้" เกียรติพงษ์เอ่ยถามขึ้นมาลอย ๆ เป็นเชิงหยอกล้อ แต่ก็คาดคั้นอยู่ในที
"เฮ๊อ..แล้วผมจะปิดอะไรเจ้านายได้บ้างเนี่ย..ใช่ครับผมซื้อให้ยัยผีตองเหลืองเองแหละครับ สงสาร อยากให้สุขภาพดีกับเค้าบ้างเลยซื้อให้"
"อะไร อย่าบอกนะว่ารองเท้าวิ่งออกกำลังกาย"
"ไม่ผิดครับ"
"หึหึ..ฉั๊นว่านะ..ยัยเด็กนั่นต้องเอาเก็บใส่ตู้ไว้อย่างดีเสียมากกว่า..ให้พนันมั๊ยล่ะ" เกียรติพงษ์พูดกลั้วหัวเราะ
"อ้าว..ไหงเป็นงั้นล่ะครับ งั้นนายก็ต้องบอกให้คุณหนูลีอาช่วยกระตุ้นให้ยัยเด็กขาดสารอาหารนั่นออกกำลังกายหน่อยล่ะครับ จะได้แข็งแรงกับเค้าบ้าง"
"ทำไม? นายคิดยังไงกับเด็กคนนี้เหรอ"
"ก็สงสารล่ะครับ ตัวแห้ง ๆ เหลือง ๆ ดูไม่ค่อยจะมีแรงเท่าไร ได้ข่าวว่าเป็นลูกคนเดียวอีกต่างหาก"
"อืม..เห็นลีอาบอกอย่างงั้นเหมือนกัน..แต่เอ๊ะ ทำไมนายรู้ล่ะ ฉั๊นยังไม่ได้บอกใครเรื่องนี้นิ่"
"โห่..นายก็อย่ามาจับผิดผมเล่ยน่า เอาเวลาไปสนใจคุณหนูลีอาจะดีกว่ามั๊ย ดูท่าเฟี๊ยวไม่ใช่เล่นนะนั่น เล่นอะไรแต่ละอย่าง ขับเรืองี้ ปีนต้นไม้อย่างงั้น วันดีคืนดีไม่ขับเครื่องบินเหรอ"
"เออ..ไม่แน่ว่ะ นี่ก็ขาลุยจริง ๆ ไม่รู้ว่าจบ ม.ปลายนี่อานากับอานนจะให้ไปต่อที่ไหน ชักจะห่วง ๆ เสียแล้วซิ" เกียรติพงษ์ได้แต่บ่นพึมพำให้ลูกน้องคนสนิทฟังอย่างนึกกังวลขึ้นมาบ้างแล้ว