ตอนที่ 7 : ผีกะยักษ์

3005 Words
7 ค่ำคืนดึกสงัดท้องฟ้าปลอดโปร่งจนเห็นดวงจันทราและดวงดาราส่องแสงระยิบระยับพร่างพราว ทำให้หญิงสาวที่จากบ้านเกิดเมืองนอนดั้นด้นมาไกล เกิดความคิดถึงมารดาผู้ให้กำเนิด แม่เก็ตถะหวาเป็นเสาหลักที่ทำให้เธอยืนหยัดได้จนถึงทุกวันนี้ เธอไม่มีความผูกพันธ์กับแม่เฒ่าผู้เป็นย่าหรือแม้แต่บิดาที่นอนป่วยติดเตียง คราแรกที่แม่เก็ตถะหวารู้ว่าเธอจะต้องแบกความหวังของชุมโจรหมานคำ เธอค้านหัวชนฝา ให้เหตุผลว่ากระดังงาสมควรจะมีชีวิตสุขสมวัยทำให้แม่เฒ่าโกรธหนักจนล้มป่วยอยู่หลายวัน ไม่คุยกันเลยจนกระทั่งกระดังงาอายุห้าขวบ จึงเป็นฝ่ายเข้าไปประนีประนอมขอร้องแม่เก็ตถะหวาเองเพราะไม่อยากให้มารดาอยู่อาศัยในชุมโจรหมานคำอย่างโดดเดี่ยว และไม่ต้องการให้มารดาทนรับสายตาชิงชังของผู้คนในชุมโจรหมานคำ “คนในชุมโจรหมานคำมีแต่พวกเห็นแก่ตัว เห็นแต่ประโยชน์ของตัวเองไม่เว้นแม้แต่ย่าของแก จะให้ข้าส่งลูกสาวคนเดียวเข้าปากเสือสมิงแบบนั้น ไม่คิดถึงหัวอกคนเป็นแม่บ้างเลย” นางเก็ตถะหวาสะอื้นไห้ลูบศรีษระน้อยของบุตรสาวที่แสนจะเฉลียวฉลาด รู้ความนัก ทำให้อดน้อยใจในโชคชะตาไม่ได้ สามีของเธอไม่น่าเกิดมาเป็นคนในชุมโจรหมานคำเลย “พี่เตียนคำกระดังงาง่วงนอน” “นอนเถิดเจ้าคะอย่าฝืนเลยเดี๋ยวจะเป็นการทำลายสุขภาพเสียเปล่า” กระดังงาทิ้งตัวลงนอนบนฟูกหนานุ่มมีม่านมุ้งกันพวกแมลงและยุงลายชุกชุม เธอสังเกตเห็นว่าวันนี้พญาขาล พิรุณ และกำจาย ไม่กลับเรือนมาพักผ่อน เห็นดังนั้นจึงอยากจะคอยท่ารอเสนอหน้าเย้าแหย่สมิงเฒ่าแต่ก็ฝืนความอ่อนล้าที่อดหลับอดนอนเมื่อคืนวานไม่ได้ จึงเผลอหลับสนิททันทีที่หัวถึงหมอนโดยมีเตียนคำที่สิงสู่อยู่ในอบเงินคอยปกปักษ์คุ้มภัย สายลมแผ่วเบาชวนให้เคลิบเคลิ้มนอนหลับสบาย เริ่มแปรเปลี่ยนสายลมเย็นยะเยือกชโลมผิวขาวนวลเนียนจนขนลุกซู่ ดวงจันทราสีเหลืองนวลคล้ายว่าออกสีเป็นสีแดงเลือดนก ดวงดาราที่เคยพร่างพราวส่องแสงระยิบระยับถูกเมฆหมอกกลืนกินบรรยากาศล้อมรอบตัวหญิงสาวผันแปรเปลี่ยนแปลงจนไม่น่าไว้วางใจ เตียนคำซึ่งสิงสู่อยู่ในอบเงินสังหรณ์ใจผิดแปลกอยากจะลอบออกมาดู ทว่า... “มนต์สะกด! ผู้ใดกล้าร่ายมนต์สะกดขังข้าไว้ในอบ” เตียนคำที่เคยเข้าออกอบเงินได้อย่างสะดวกสบาย บัดนี้กลับถูกขังให้ติดอยู่อบเงิน ไม่สามารถเตือนภัยหรือปกปักษ์แม่นางน้อยได้อย่างเคย นางร้อนลนจนอยากจะฉีกทึ่งเจ้าอบเงินที่เคยเป็นที่สิงสู่ให้แตกบิ่น “นางน้อย!” “นางน้อยตื่นเถิด! อ้ายขาลผู้นั้นตลบตะแลงเราแล้วหนา น่าชิงชังนักใช้วิธีสกปรก!” “บะ...บรู้ววว” “บรู้วววว~” หมาสีดำนัยตาแดงประกายหลายสิบตัววิ่งพราดพราดมาจากที่ใดไม่อาจทราบได้ มารวมกลุ่มกระจุกตัวหอนอยู่หน้าเรือนทรงไทยของพญาขาล เห่าหอนเสียงโหยหวนเป็นทอดๆ ชวนขนหัวลุกและน่าสะพรึงกลัว กระนั้นก็มิอาจทำให้กระดังงาที่พึ่งผล็อยหลับตื่นนอนได้ทันที ขนอ่อนทั่วเรือนร่างระหงลุกซู่ไปโดยปริยายแม้เธอกำลังนอน เตียนคำถูกขังอยู่ในอบเงินพยายามหาหนทางฝ่าม่านอาคมมนต์สะกดที่ร่ายขังนาง ผู้ร่ายอาคมแข็งแกร่งกว่านางหลายเท่าตัว ซึ่งไม่ต้องเดาให้ยาก ณ ที่แห่งนี้มีผู้แข็งแกร่งกว่านางเพียงไม่กี่คน กลุ่มหมาดำยังคงยืดเหยียดโก่งลำคอเห่าหอน น้ำเสียงของมันคล้ายเสียงดวงวิญญาณสัมพเวสีโหยหวนครางยาว หมอกควันดำทะมึนลอยเคลื่อนจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เผยให้เห็นเงาตะคุ่มรอบกายแผ่รังสีอาฆาตแค้นของดวงวิญญาณดวงหนึ่ง ที่เคยสิงสถิต ณ อารามร้าง เจ้าของตำนานผีกะยักษ์ผู้ดุร้ายกลืนกินชาวบ้านคุ้มงามหลายสิบคนเมื่อหลายปีก่อน ร่างของมันสูงใหญ่บึกบึนคล้ายอสุรายักษา ริมฝีปากดำคล้ำมีกลิ่นเหม็นลอยคาวลอยโชยคละคลุ้ง นัยเนตรสีอึมครึมมองไม่เห็นตาขาว จมูกบานเบะ กวาดสายตาหาเหยื่ออาหารอันโอชะ หลังจากถูกคุมขังให้อยู่เฝ้าอารามหลวงหลายสิบปี ไร้พิธีเซ่นไหว้ก็พลอยทำให้มันเกรี้ยวกราดแลดุร้ายขึ้นเป็นเท่าตัว ผีกะยักษ์อยู่เหนือผีกะทั้งปวง แม้แต่เตียนคำที่เป็นผีกะชั้นสูงก็ไม่แน่ว่าอาจจะต้องพ่ายแพ้ให้แก่ผีกะยักษ์ตนนี้ หากต้องต่อกรกันจริงๆ การปรากฎตัวของผีกะยักษ์ทำให้เตียนคำเป็นห่วงพะวงเรื่องความปลอดภัยของกระดังงามากขึ้นกว่าเดิม “ที่นี่มีผีกะยักษ์ด้วยหรือ!” เตียนคำตกใจแทบสิ้นสติ หากไม่ติดว่านางเป็นผีกะชั้นสูงคงอยากจะเป็นลมล้มพับหมดสติให้ได้ก็คราวนี้ “นางน้อย!” “ตื่นสักทีเถิดนางน้อย ผีกะยักษ์หนา ที่นี่มีผีกะยักษ์ข้าเจ้าออกไปช่วยนางน้อยไม่ได้หนา! อ้ายขาลตัวบัดซบผู้นั้นเลือดเย็นนักลงมือกับแม่หญิงได้ลงคอ” เสียงแหลมของเตียนคำพยายามตะโกนร้องโหวกเหวกโวยวาย พาลต่อว่าพญาขาลเสียงเเข็งด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ แต่เสียงนั้นก็หาได้เล็ดลอดออกไป “อืม...” กระดังงาส่งเสียงพึมพำในลำคอ พลางพลิกตัวซ้ายทีขวาทีในท่วงท่าธรรมชาติ อสูรกายผู้หิวโหยย่นจมูกบานเบะสูดดมกลิ่นกายมนุษย์สาวอันหอมหวน ชวนให้สติอันพร่าเลือนอยากจะขย้ำร่างเล็กนั้นเป็นสองท่อนแล้วส่งเข้าปาก บรรเทาความอดยากหลายสิบปี เสียงเห่าหอนของหมาดำยังคงโหยหวนอยู่ปากทางเข้าเรือนเป็นระยะ ยามที่ผีกะยักษ์ก้าวย่างเดินผ่านพวกมันก็ยิ่งตะเบ็งเสียงหอนชวนรำคาญใจ ปึก! ฝ่ามือทะมึนมหึมาตวัดฟาดลงกลางกลุ่มหมาดำนัยน์ตาแดงเป็นประกาย จนหลุดเสียงร้องเอ๊งด้วยความเจ็บปวด อสูรกายคว้าหมาดำเหล่านั้นเข้าปากสีดำคล้ำฉีกกว้าง มันขบเคี้ยวหมาดำในปากเหมือนขนมกรุบกรอบจนหยาดเลือดกระเซ็นเปรอะเปื้อนด้วยมุมปากอย่างตะกละตะกลาม ชวนให้ผู้พบเห็นสะอิดสะเอียน เมื่อดื่มด่ำกับรสชาติหยาบกระด้างของหมาดำฝูงนั้นจนเรียบ จึงยกท่อนแขนกำยำสกปรกเช็ดขอบปากจนโลหิตสีเข้มลากเป็นทางยาว “เห่าหอนน่ารำคาญ” ผีกะยักษ์เอื้อนเอ่ยสีต่ำ ช่างไร้อารมณ์ ไร้ความรู้สึก หลงเหลือเพียงความอยาก อยากจะกินให้อิ่มท้อง บรรเทาความอดอยากทุกข์ยากของตนเอง “ข้าได้กลิ่นมนุษย์สาววัยขบเผาะ กระดูกกระเดี้ยวอ่อนคงจะรสชาติดีกว่าหมาดำพวกนี้” สายตาอึมครึมกวาดสายตามองหาเหยื่อรายต่อไป ก่อนจะเห็นร่างระหงนอนคดตัวอยู่บนชานเรือนในท่วงท่าธรรมชาติของเธอ เงาตะคุ่มยิ้มเยาะระคนลังเล เรือนไม้ทรงไทยหลังนั้นมีกลิ่นอายของโอปปาติกะอย่างพญาขาลอบอวลทั่วเรือน ต้นเหตุที่ทำให้เขาถูกคุมขังไร้พิธีเซ่นไหว้มานานหลายสิบปี ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นวันนี้แลมันจะดูดกลืนมนุษย์สาวผู้นั้นดับความหิวโหยแลความแค้นที่ฝังลึกมานานหลายสิบปี “พญาขาล!” ผีกะยักษ์แผดเสียงลั่นอย่างอาฆาตความแค้นสุมอกจนใบหน้าเหี้ยมเกรียมของมันบิดเบี้ยวตามแรงอารมณ์ ฝีเท้าหนักอึ้งของเงาตะคุ่มของดวงวิญญาณผีกะยักษ์ ผู้หลงเหลือแลติดค้างบนโลกมนุษย์ เริ่มย่างก้าวมุ่งตรงเข้าหาเหยื่อเป้าหมายที่มันเล็งไว้ เตียนคำที่รับรู้ถึงภยันอันตรายก็พุ่งกระโจนหมายจะออกจากอบเงินเอาเป็นเอาตาย ม่านมุ้งผืนบางปลิวไสวลอยตามแรงลมจนเผยให้เห็นหญิงสาวที่กำลังนอนอุดคู้อยู่ทางด้านใน “......” ผีกะยักษ์แค่นหัวเราะ แลบลิ้นสีดำเลียวนรอบมุมปากอย่างอดใจไม่ไหวที่จะได้ดูดกลืนวิญญาณและเนื้อหนังมังสาของมนุษย์อีกครา หลังห่างหายจากรสชาตินี้มานานนับหลายสิบปีมันตื่นเต้นจนลนลานทำอะไรไม่ถูก ลิ้นสากกร้านเหม็นเน่าเหมือนซากสัตว์หมักหมมอยู่ภายในท้องของเงาตะคุ่มสีทะมึน เพียงมันยื่นลิ้นยาวสีอึมครึมนาบลงบนท่อนแขนเรียวทำให้เนื้อเนียนขาวอมชมพูอาบชุ่มไปด้วยน้ำลายเหนียวหนืดสีดำ ส่งกลิ่นเหม็นคาวจนปลุกกระดังงาที่กำลังสะลืมสะลือให้ตื่นเต็มตา “!!?!!” “กำเริบเสิบสาน!” กระดังงาแผดเสียงลั่นตวาดใส่อสูรกายที่เป็นกึ่งผีร้ายและผีเจ้าที่ ดวงตาเฉี่ยวดุจหงส์กวาดสายตามองโดยรอบหาเตียนคำ ที่ปกติมักจะมาเตือนภัยและคุ้มครองเธออยู่เสมอพลันพบกับความว่างเปล่า ยามนี้เธอประชันหน้าอยู่กับดวงวิญญาณร้ายสองต่อสอง “ผู้คนเรียกข้าว่ากะยักษ์” มันตอบ สีหน้าและแววตาจ้องกระดังงาตาเป็นมัน ไม่ยอมมีทางยอมให้อาหารมื้อนี้หลุดลอยนวลไปเป็นอันขาด แต่ก็ยังข่มความหิวโหย สร้างความหวาดกลัวให้นางจนถึงขีดสุด ยามเขาเชยชิมมักจะสร้างอรรถรสอันน่าตื่นตาตื่นใจ “ผีกะยักษ์” กระดังงาเลิกคิ้วมองผีร้ายเบื้องหน้า เก็บสีหน้าตื่นตระหนกภายใต้ความเย็นชา ลิ้นยาวเหยียดกลิ่นเหม็นนั้นหมายจะเชยชิมลิ้มรสเนื้อเนียน จึงตวัดยื่นมาใกล้ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา ริมฝีปากเล็กอิ่มสีลูกไหนกระดกยิ้มเย็น ขยับร่ายบริกรรมคาถาทันท่วงที ลิ้นเหยียดยาวสีดำสัมผัสปลายคางมน ก็บังเกิดร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวดจนชักลิ้นเหม็นเน่าของตนกลับ “โอ๊ยยย!” “เอ็งทำกระไรของเอ็ง!” หางตาเฉี่ยวเหลือบเห็นเงาตะคุ่มของเสือลายพาดกลอนสามเงา หลังพุ่มไม้ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก็พอจะเดาสถานการณ์สุดอันตรายที่เกือบจะคร่าชีวิตเธอได้ในทันที และเตียนคำก็คงจะโดนอ้ายขาลสะกดเอาไว้ ไม่ให้ออกมาช่วยเหลือเธอ เขารู้แต่แรกว่าเธอเลี้ยงผีแต่ไม่ยอมปริปาก นับว่าเธอดูถูกเขามากเกินไป เล่นแรงนักนะอ้ายขาล! สีหน้าเย็นชาเมื่อครู่แสดงอาการลนลาน แสดงอาการหวาดวิตกให้สมจริง “ออกไปนะ! ออกไป! ออกไปให้ห่างฉันเจ้าผีบ้า!” “อ้ายขาล!” “อ้ายขาลช่วยกระดังงาด้วย” หญิงสาวส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือชายหนุ่มผู้ริเริ่มแผนการกำจัดเธอ ผีกะยักษ์หลุบสายตามองซ้ายขวา มันขลาดกลัวพญาขาลนัก แต่ก็ยังฝืนทำใจดีสู้เสือพยายามจะดูดกลืนดวงวิญญาณและเนื้อหนังมังสาของหญิงสาวในม่านมุ้ง แต่ก็ไม่ง่ายปานนั้นเพราะหญิงสาวร่ายบริกรรมคาถาคุ้มภัยตนเองตลอดเวลา ในบางช่วงบางตอนก็เเสร้งเผลอโดนทำร้ายเพื่อให้แสดงอาการหวาดวิตกสมจริง อสูรกายดวงวิญญาณสีทะมึนเริ่มหงุดหงิดที่ตะครุบเหยื่อไม่ได้สักที จึงเกรี้ยวกราดทุบอกชกตีตนเองอย่างบ้าคลั่ง ในวินาทีนั้นกระดังงาเริ่มหลั่งรินหยาดน้ำตาสีใสร่วงเผาะลงสู่หางตาทีละเม็ด เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นการแสดงของเธอทั้งสิ้น หากเขาเจ้าแผนการ เธอย่อมต้องมีเล่ห์เหลี่ยม ทำทีเป็นคนโง่เขลาบดบังความเฉลียวฉลาดของตนไว้หน่อยเพื่อรักษาชีวิตเอาตัวรอดหน่อยก็ดีเหมือนกัน เรือนทรงไทยเริ่มสั่นสะเทือนกลิ่นเหม็นเน่ากลบกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ของพญาขาลเกือบมิด นัยเนตรสีคล้ำจดจ้องมายังหญิงสาวตาเป็นมัน ราวกับว่ามันต้องการจะลิ้มรสเนื้อสาววัยขบเผาะและจิตวิญญาณของเธอให้ได้ ทว่า...กระดังงาหาใช่หญิงสาวธรรมดา วิชาอาคมของชุมโจรหมานคำสืบทอดจากต้นตระกูลบรรพบุรุษล้วนถ่ายทอดมายังเธอโดยแม่เฒ่าเก๋งคำเป็นผู้สอนสั่ง ให้ร่ำเรียนวิชาคาถาอาคมเหล่านั้นสิ้น ภายใต้ใบหน้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เธอก็คือจิ้งจอกน้อยจอมเจ้าเล่ห์ที่กำลังส่ายหางยั่วโมโหผีกะยักษ์ สังเกตดูให้ดีแววตาของนางหาได้ขลาดกลัวเยี่ยงท่าทีที่แสดงออก “อะ...อ้ายขาล” แต่เพราะเธอหลบหลีกอยู่ภายในม่านมุ้งจึงไม่มีใครเห็นแววตาของเธอได้ชัดเจน สามเงามัวแต่เฝ้ารอว่าเมื่อใดเธอจะถูกผีกะยักษ์จัดการให้ราบคาบเสียที ยิ่งผีกะยักษ์โกรธามากเท่าใด เธอก็เผยรอยยิ้มเยาะบนใบหน้ามากขึ้นเท่านั้น กลับกลายเป็นใครบางคนที่ถูกเสียงหวานขานนามครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้รู้สึกกระสับกระส่ายหวั่นว่านางจะพลาดท่าตายคามือเจ้าผีกะยักษ์เสียก่อน สักพักพลันบังเกิดความคิดขึ้นมาในหัวสมองว่านางคือคนที่ต้องถูกกำจัด เพื่อไม่ให้อยู่ขวางหูขวางตาเขา จึงได้ข่มท่าสงบจิตสงบใจหันหลังกระโจนเข้าป่าแทน เจ้าพิรุณและเจ้ากำจายสบตากันพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะกระโจนเข้าป่าติดตามพญาขาล ไม่มีผู้ใดรอชมจุดจบอันน่าสังเวชของนางอีก... “หึ...ไปซะได้ก็ได้ จะได้ไม่ต้องมัวโอ้เอ้เล่นกับเจ้ากะยักษ์นี่!” หญิงสาวถอนหายใจพรืดใหญ่ “อยากจะกินฉันก็ไปรอกินในนรกละกันนะเพราะฉันคงจำใจทนดมกลิ่นเหม็นเน่าเหมือนซากศพในท้องของแกไม่ไหว” รอยยิ้มยั่วยวนยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเฉี่ยวแข็งกร้าวในบันดลช้อนมองต้นตอของกลิ่นเน่าเหม็นที่เธออดทนรออย่างใจเย็นเพื่อจะกำจัด กระดังงาเบะปากนึกรังเกียจ ริมฝีปากเล็กสีชมพูระเรื่อขยับร่ายบริกรรมคาถาลึกลับจนเงาตะคุ่มที่พยายามตะเกียกตะกายหมายจะไขว่คว้าตัวเธอก็บังเกิดเปลวไฟลุกโหมทั่วร่าง แผดเผาผีกะยักษ์ที่มีจิตอาฆาตแค้นและความหิวโหย เธอลงมือในพริบตาเดียวเด็ดเดี่ยวปราศจากความลังเล หากมีความลังเลใจอ่อนผุดขึ้นมาในความคิดนั่นก็หมายความว่าวันนั้นคงเป็นวันตายของเธอแน่แท้ พรึบ! “อะ...อ้ากกกก!” “ร้อน ร้อน เอ็งทำกระไรของเอ็ง! หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ท่าทานดิ้นทุรนทุรายนอกม่านมุ้งไม่ทำให้กระดังงาใส่ใจแม้แต่น้อย เธอหงุดหงิดที่ถูกรบกวนเวลาพักผ่อนนักเป็นสาวเป็นนางต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเกิดมีริ้วรอยก่อนวัยอันควรบนใบหน้างามล้ำจะใช้ข้อได้เปรียบใดมาล่อลวงสมิงเฒ่าอีกเล่า เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง เธอสูดดมกลิ่นกายตนเองว่าหลงเหลือกลิ่นคาวของผีกะยักษ์บนเรือนร่างหรือไม่ ครั้นได้กลิ่นเหม็นเน่าติดค้างก็ขมวดหัวคิ้ว ร่ายบริกรรมคาถาจัดการมันซ้ำสองไม่ปล่อยให้โอกาสมันร่ำร้องขอความเห็นใจ “สกปรก!” กระดังงาสบถ ผีกะยักษ์ดุร้ายถูกสยบให้พ่ายแพ้ย่อยยับด้วยฝีมือหญิงสาว เตียนคำที่ถูกขังอยู่ในอบเงินนั่งทำตาปริบ ๆ มองนางน้อยของตนเองจัดการดวงวิญญาณร้ายที่เหนือชั้นกว่าตนอย่างง่ายดาย ตลอดเวลาที่ผ่านมามักจะเป็นนางที่ปกป้องกระดังงาจึงไม่เคยคาดคิดว่านางน้อยจะมีฝีมือฉกาจ เล่นเอาเตียนคำตัวแข็งทื่อ... “ก็แค่เนี้ย...” “รบกวนเวลานอนชะมัด!” เมื่อจัดการผีกะยักษ์เป็นที่เรียบร้อย เธอจึงปลดปล่อยเตียนคำให้เป็นอิสระ เตียนคำปรากฎกายรีบพุ่งพรวดเข้ามาสำรวจนางน้อยว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ทว่าไม่ทันวางใจกระดังงาก็พร้อมออกคำสั่งที่เตียนคำได้แต่ส่ายหน้าพัลวัล นางน้อยของนางช่างเก่งกาจและถนัดในเรื่องทำร้ายตนเองอยู่เรื่อย “พี่เตียนคำทำร้ายกระดังงาที พี่เป็นผีกะเหมือนกันอ้ายขาลคงแยกไม่ออกหรอกว่ากลิ่นไหนผีกะยักษ์หรือผีกะขั้นสูง” “......” เตียนคำส่ายหน้าแทนคำตอบ “พี่จะลงมือเองหรือจะปล่อยให้อ้ายขาลหาผีตัวต่อไปมาเด็ดหัวกระดังงา พี่ก็น่าจะเห็นแล้วว่าอ้ายขาลชิงชังสายเลือดที่ไหลวนในตัวกระดังงาเพียงใด มิหนำซ้ำยังเลือดเย็นพอจะยืนดูกระดังงาตายต่อหน้า ในเมื่อเขาไม่มีใจนี่ก็คือหนทางรอด” น้ำเสียงเฉียบขาดหลุดออกมาจากริมฝีปากเล็ก ใบหน้าพริ้มเพราไร้อารมณ์และยังหงุดหงิดที่ถูกรบกวนเวลาพักผ่อน “......” เตียนคำก้มหน้างุด ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้า ไม่นานนักเตียนคำก็จำใจรับบทเป็นผีกะยักษ์ที่ฝากร่องรอยพร้อมคราบโลหิตสีสดบนเรือนร่างระหง บาดแผลภายนอกหากมองด้วยตาเปล่า น่าหวาดกลัวจนเกือบปลิดชีพกระดังงาได้ แต่ภายในไม่กระทบกระเทือนแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าบาดแผลฉกรรจ์ตามร่องรอยเรือนร่างเหล่านี้สมจริงยิ่งนัก ลมหายใจรวยรินที่หญิงสาวแสร้งแสดงออกชวนให้ผู้พบเห็นปวดใจ เตียนคำมองนางน้อยด้วยแววตารู้สึกผิดทำให้กระดังงาต้องโบกมือไล่เตียนคำกลับเข้าไปในอบเงินดังเดิม “หากจำเป็นก็ต้องทำเพื่อรักษาชีวิตรอด พี่ห้ามรู้สึกผิดเด็ดขาด นี่ถือว่าพี่เตียนคำช่วยชีวิตกระดังงาเอาไว้” ใบหน้าห่อเลือดของกระดังงาเอื้อนเอ่ย ก่อนจะปิดเปลือกตาหลับให้สนิท “คนที่ชุมโจรหมานคำหากสำนึกในบุญคุณนางน้อยสักนิด เตียนคำคงไม่ปวดใจอยู่แบบนี้” ดวงวิญญาณสาวเอ่ยน้ำเสียงละเหี่ยใจ เกิดมาผิดที่ผิดทางย่อมหาหนทางสงบสุขในชีวิตได้ยาก พบความลำบากที่มาตุภูมิแล้วยังจะต้องมาเผชิญหน้ากับสัตว์เดรัจฉานเลือดเย็นอย่างพญาขาลอีก นางน้อยนะนางน้อย เวรกรรมกระไรของนางน้อยกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD