ตอนที่ 2

2341 Words
เฮียสอง TALK หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น ผมก็ไปทำบุญล้างซวย ถือซะว่าโชคร้ายฟาดเคราะห์ไปก็ได้ครับ เรื่องมันผ่านไปแล้ว แม้จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่น้อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เอาเข้าจริงถึงจะอยากรู้แค่ไหน ผมก็ไม่กล้าถามใครเลยครับ แล้วก็ไม่มีใครพูดถึงมันราวกับว่าไม่ได้มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นในเพนท์เฮาส์ของผม แต่ความโชคร้ายของผมไม่ได้จบแค่นั้นหรอกครับ เพราะโครงการของเราจัดแคมเปญใหญ่ยักษ์ ให้ลูกค้าที่จองห้องได้กระทบไหล่พรีเซนเตอร์คนดัง ด้วยการร่วมดินเนอร์ใต้แสงจันทร์บนเจ้าพระยาครุยส์ “เรือสำราญสุดหรูของเราขอนำท่านเดินทางสู่อารยธรรมลุ่มน้ำเจ้าพระยา สัมผัสมนต์ขลังของสองฟากฝั่งแม่น้ำ ตระการตากับสถาปัตยกรรมสุดหรูของ LVN LUXURY CONDOMINIUM ในเครือลีวาณิชย์ ที่พร้อมให้ทุกท่านได้ร่วมกันครอบครองเป็นเจ้าของ มาร่วมเดินทางไปสู่ประสบการณ์อันยิ่งใหญ่กับเรา... “ เสียงอบอุ่นชวนฝันของกัปตันเอ็มเจลอยมาเป็นระยะ บรรยากาศอันแสนอบอุ่นละมุนละไม กับสายลมเย็นๆที่ลอยมาปะทะน่าจะเป็นอะไรที่เพลิดเพลิน แต่ผมกลับต้องหนีมายืนรับลมอยู่บนดาดฟ้าคนเดียวด้วยความรู้สึกเซ็งสุดๆ เฮียหนึ่งอยู่ฮ่องกงกับโปรดปราณ อินทัชกลับบ้านที่นครปฐมของอคิน ส่วนเจ้าสามกับยัยสี่น้องชายหญิงของผมก็บอกว่ามีธุระส่วนตัว ไม่มีใครอยากมาล่องเรือกับผมเลยครับ เฮียสองอย่างผมก็เลยต้องฉายเดี่ยวอยู่คนเดียว “คุณสอง ทำไมมายืนอยู่เงียบๆคนเดียวล่ะคะ” แพรวาเดินผ่านมาทางนี้ ด้วยความบังเอิญหรืออะไรผมไม่แน่ใจนัก แต่เธอก็เข้ามาทักทายผมอย่างมีมารยาท “ออกมาดื่มด่ำกับแสงดาวน่ะครับ” ผมแสร้งเงยหน้ามองฟ้า ตอนแรกไม่รู้หรอกว่าบนนั้นมีดาวหรือไม่ แต่พอแหงนมองขึ้นไปก็เบาใจ เพราะมันพอจะมีดวงดาวระยิบระยับให้เห็นอยู่บ้าง “อืม ดาวสวยจริงๆด้วยค่ะ” แพรวาทำท่าจะปักหลักยืนคุยกับผม จนผมแปลกใจว่าคู่ขาของเธอหายไปไหน แต่เธอก็ชิงถามผมขึ้นมาเสียก่อน “วันนี้แก๊งเทพหายไปไหนกันหมดล่ะคะ แพรคิดว่าจะได้เจอคบทีมซะอีก เหมือนเมื่อคืนก่อนที่เราฉลองกันน่ะค่ะ” อ่า… ผมว่าผมลืมเรื่องคืนนั้นไปแล้วนะครับ แต่แพรวาพูดขึ้นมาทำให้ผมเสียววาบไปทั้งหลัง “เอ่อ… ติดธุระกันน่ะครับ ไม่มีใครว่างสักคน อีกอย่าง คงเบื่อกันแล้วด้วยมั้งครับ” ผมตอบออกไปอย่างที่คิดนั่นแหละ โดยเฉพาะเจ้าสามกับยัยสี่ สองคนนี่ตั้งใจเบี้ยวแน่ๆ ไม่ได้มีธุระอะไรหรอก คงเบื่อการล่องเรือมากกว่า “คุณสองก็เหงาเลยสิคะ อย่างนั้นแพรอยู่คุยเป็นเพื่อนนะคะ” คนน่ารักอย่างแพรวาไม่น่าตกหลุมแทนไทเลยว่าไหมครับ เธอเฟรนลี่ ดูดี มีเสน่ห์ ดูเลอค่ากว่าไอ้คิ้วบอยนั่นเป็นไหนๆ “คุยอะไรกันอยู่ครับ เมียรัก!” ตายยากชะมัด แค่คิดถึงก็โผล่มา แต่คำว่า ‘เมียรัก’ ทำไมมันต้องมองหน้าผมด้วย “แทน! พูดอะไร” แพรวาใช้ฝ่ามือเล็กตีต้นแขนคนมาใหม่อย่างเขินๆ ที่แทนไทเรียกว่าเมียต่อหน้าคนอื่นอย่างผม “ทำไมอ่ะ ก็พูดเรื่องจริง เมียรัก เมียรัก เมียรัก” แทนไทยกแขนขึ้นโอบไหล่ของแพรวาแล้วดึงเข้าไปแนบชิด แต่สายตากลับมองข้ามศีรษะแพรวามาจ้องหน้าผม ผมเผลอสบสายตาคมคู่นั้น ‘สาบานว่าแกหมายถึงแพรวา! ไอ้บ้าเอ๊ย!’ ผมสาดค็อกเทลสีสวยที่เหลือในแก้วรวดเดียวลงคอ แต่แอลกอฮอล์อ่อนๆยิ่งทำให้ผมอารมณ์พลุ่งพล่าน “กวนตีน!” ผมกัดฟันกรอดส่งเสียงรอดไรฟัน ไม่ดังนัก แพรวาคงไม่ได้ยิน แต่ผมมั่นใจว่าแทนไทต้องรู้ เพราะสายตาคู่คมจ้องมองผมตลอดเวลา และมุมปากหยักนั่นก็กระตุกแรงตอนเห็นผมด่า “สรุปว่าคุยอะไรกันอยู่ครับ นินทาผมอยู่หรือเปล่า” แทนไทกระเซ้าแฟนสาวอีกครั้ง “แทนไปแอบทำอะไรไม่ดีไว้เหรอคะ ถึงกลัวว่าคนจะนินทา” ส่วนแพรวาก็จ้องใบหน้าหล่อของแฟนหนุ่มอย่างจับผิด “บางทีผมอาจจะตกเป็นจำเลยก็ได้ ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม แต่ถูกเข้าใจผิดคิดว่าผมฉวยโอกาส อะไรทำนองนั้นน่ะครับ” แม้ว่าไอ้คิ้วบอยนั่นมันจะตอบกลับแพรวา แต่ทำไมผมรู้สึกว่ามันกำลังแดกดันผมอยู่ก็ไม่รู้ ผมขยับตัวอย่างอึดอัด ผมไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว กำลังจะเอ่ยขอตัว แต่แพรวาก็โพล่งขึ้นมาก่อน “แพรกำลังจะไปเอาเครื่องดื่มมาเพิ่ม แทนจะเอาอะไรไหมคะ” “อืม… ผมขอ SEX ON THE BEACH ก็แล้วกัน รบกวนแพรด้วยนะ พอดีมีธุระจะคุยกับเมียสองพอดี” เชี่ย! ผมได้ยินเต็มสองหู ว่ามันเรียกผมว่า เมีย! แล้วยังจะอยากดื่มค็อกเทลชื่อบ้านั่นอีก เพราะ SEX ON THE BEACH แก้วนั้นนั่นแหละที่ทำให้ผม… ใบหน้าของผมร้อนผ่าว ไม่ได้เขิน แต่โกรธ! ส่วนแพรวากลับหัวร่องอหงาย “แทนรู้ตัวหรือเปล่าคะ ว่าพูดอะไรออกมา” แทนไทแสร้งทำหน้าเหวอ ผมขอขีดเส้นใต้คำว่าแกล้งทำครับ เพราะสายตาวับวาวของนายนั่นที่มองมาทางผม พร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มนั้น มันกำลังแกล้งผมชัดๆ! “ก็เมื่อกี้นี้แทนเรียกคุณสองว่าเมียสอง ตั้งใจจะเรียกว่าเฮียสองหรือเปล่าคะ?” แพรวารีบอธิบาย คนนี้ก็ใสเกิ๊น ผมยังยืนยันคำเดิมครับ ว่าแทนไทไม่คู่ควรกับแพรวา “อ้อครับ… ตั้งใจ ขอโทษนะครับ” ผมอยากจะเอานิ้วจิ้มตาคมคู่นั้นเหลือเกินครับ ก่อนจะขอโทษมันก็ยังพูดจาไม่เคลียร์ ตั้งใจอะไร? พูด!!! “ถ้าอย่างนั้น แพรขอฝากแทนไว้กับคุณสองสักครู่นะคะ ท่าทางจะเริ่มเมาแล้วนะเนี่ย แล้วคุณสองล่ะคะ จะรับเครื่องดื่มเพิ่มไหมคะ เดี๋ยวแพรหยิบมาให้ค่ะ” ‘ไม่รับฝาก!’ ผมตะโกนเสียงดังในใจ แต่ก็ต้องรักษามารยาท ด้วยการพยักหน้า แล้วก็รีบฉีกยิ้ม “ไม่แล้วล่ะครับ ขอบคุณครับคุณแพร ผมว่าเดี๋ยวผมบริการคุณแพรเองดีกว่า เป็นผู้ชายจะใช้ผู้หญิงได้ยังไงล่ะครับ” ผมไม่ได้พูดใส่ใครแถวนี้เลยนะครับ สาบานได้ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณสองอยู่คุยกับแทนเถอะค่ะ แพรอยากเข้าห้องน้ำพอดีค่ะ เดี๋ยวแพรมานะคะ” แล้วเธอก็หมุนตัวไปเลยครับ ไม่ยอมให้ผมปฎิเสธเป็นครั้งที่สอง แต่พอแพรวาก้าวออกไปจากวงสนทนาเท่านั้นแหละครับ ผมก็รีบหุบยิ้มอย่างไว ไวพอๆกับเท้าซ้ายที่ก้าวฉับๆ เดินห่างออกมา “จะรีบไปไหนล่ะครับเมียสอง” แต่เสียงของแทนไทที่ดังไล่หลังมา ทำให้ผมชะงักเท้าลงทันที ก่อนจะหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้า “หุบปาก!” ผมยกนิ้วกลางขึ้นชี้ใบหน้ากวนๆนั่นอย่างเหลืออด แต่ในจังหวะนั้น แทนไทก็ก้าวเข้ามาประชิด พร้อมกับจับมือข้างนั้นของผม ไม่ได้จับทั้งมือนะครับ แต่มันกำแค่นิ้วกลางที่ผมใช้ชี้หน้า ก่อนจะรูดขึ้นๆลงๆ “ใช้นิ้วให้ถูกสิครับ” แล้วมันยังจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับกระซิบเสียงกระเส่า น้ำเสียงแบบนั้นมันชวนให้… ผมสะบัดมืออย่างแรง “ทะลึ่ง! ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนายนะ!” “จริงครับ เพราะเราเป็นมากกว่านั้น” ผมหรี่ตามองอย่างประเมินคนตรงหน้า “นายต้องการอะไร? คิดจะแบลคเมลฉันเหรอ? นายคิดผิดแล้ว รู้ตัวหรือเปล่า ว่ากำลังต่อกรอยู่กับใคร” ขู่แม่งเลยครับ รำคาญ! “ชู่ว์… ไม่ขู่สิครับ ผมเหรอจะกล้าต่อกรกับทายาทลำดับที่สองของลีวาณิชย์” ท่าทางยียวนกวนประสาท สายตาวับวาว พูดจาทิ้งจังหวะ สองแง่สองง่าม มันทำให้ผมคันไม้คันมือ ผมเริ่มสอดส่ายสายตามองหาบอดี้การ์ด ที่ควรจะประกบผมเพื่อรักษาความปลอดภัย แต่กลับหายหัวกันไปหมด “อย่ามากวนประสาท ไม่อย่างนั้น ฉันจับนายโยนลงแม่น้ำแน่!” ผมไม่ได้แค่ขู่ ถ้าเหลืออดจริงๆ ผมทำแน่ “โหดจัง” อาการตัดพ้อนั่น มันยิ่งเพิ่มดีกรีความกรุ่นโกรธให้ผมหนักขึ้นเป็นสองเท่า ปกติก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้า ยิ่งมาทำตัวว่าสำคัญ ยิ่งน่าหมั่นไส้ “อย่าคิดว่าความผิดพลาดแค่ครั้งเดียวจะทำอะไรฉันได้ มันก็แค่…” ผมยักไหล่ พูดค้างไว้แค่นั้น พร้อมกับการกวาดสายตามองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะหมุนตัวหันหลังให้ “แล้วต้องกี่ครั้งเหรอครับ ถึงจะทำอะไรเฮียสองได้” ขึ้นเลยครับ ผมขึ้นเลย ไม่ได้เคืองที่นายนั่นถามถึงจำนวนครั้ง แต่มันถือวิสาสะอะไรมาเรียกผมว่าเฮียสอง คำนี้ผมสงวนไว้ให้คนในครอบครัวเท่านั้น! “อย่ามาเรียกฉันว่าเฮีย!” ผมสวนกลับอย่างถือตัว “ไม่ให้เรียก ‘เฮีย’ งั้นเรียก ‘เมีย’ ก็แล้วกันนะ เมียสอง เมียสอง เมียสอง” “แทนไท!” ฮึ่ย! ผมกระฟัดกระเฟียด อยากจะเหวี่ยงหมัดใส่หน้ากวนๆนั่นสักหมัดสองหมัด นี่ถ้าสายตาไม่เหลือบไปเห็นว่าแพรวากำลังเดินมา ผมต่อยไอ้หน้าหล่อนี่หน้ายับไปแล้วครับ “ครับเมีย” แพรวาเดินเข้ามาใกล้ถึงตัว มันก็ยังเรียกผมว่าเมีย “แทน คุณสอง ได้แล้วค่ะ” แพรวาส่งแก้วค็อกเทลสีแดงให้แทนไทและผม แต่ผมจำได้ว่าผมบอกว่าไม่เอานี่ “แพรเอามาเผื่อคุณสองด้วยค่ะ ดื่มด้วยกันนะคะ” แพรวาคะยั้นคะยอส่งแก้วนั้นให้ผม ผมก็เลยจำใจต้องรับไว้ตามมารยาท “ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านครับ” เสียงกัปตันเอ็มเจดังแว่วมาอีกครั้งเมื่อเรือสำราญกำลังลอยลำผ่านคอนโดมิเนียมของผม “ขอเสียงปรบมือให้กับสถาปัตยกรรมแห่งที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ LVN LUXURY CONDOMINIUM ครับ” เสียงปรบมือดังกึกก้อง พร้อมกับเสียงอื้ออึงของผู้โดยสารซึ่งทุกคนล้วนเป็นอนาคตลูกบ้านภายใต้การดูแลของเครือลีวาณิชย์ ภาพคอนโดมิเนียมสูง 55 ชั้น ท่ากลางทัศนียภาพแม่น้ำที่ดีที่สุดในกรุงเทพสร้างเสียงฮือฮาให้ทุกคน พนักงานขายของผมลำเลียงท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายขึ้นท่าเทียบเรือเพื่อเยี่ยมชมภายใน ผมพูดคุยทักทายส่งยิ้มให้พอเป็นพิธี แต่ก็ไม่ได้ขึ้นท่าไปด้วย ขอนั่งรับลมอยู่บนเรือดีกว่าครับ ช่วงชุลมุนผมเห็นหลังแพรวาไวๆเดินตามขบวนลูกค้าไป เธอคงกำลังทำหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ของเธอพร้อมกับแทนไทนั่นแหละ ค่อยสบายใจหน่อยครับ สลัดนายนั่นหลุดสักที “ทำไมไม่ขึ้นท่าไปล่ะครับ?” ผมหันขวับไปตามเสียง ไม่คิดว่านอกจากบริกรแล้วจะเหลือใครอยู่บนเรืออีก แต่แล้วก็อยากจะกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาไปเลยล่ะครับ เมื่อหันกลับไปเจอคนที่ผมเหม็นขี้หน้าเต็มที “ทำไมไม่ไปทำหน้าที่ของนาย” ผมรีบต่อว่าทันที รับค่าตัวไปแล้วทำงานไม่คุ้ม แถมยังเอาแรงผู้หญิง ปล่อยให้แพรวาโชว์ตัวอยู่คนเดียว “คืนนี้ผมมีคิวแค่นี้ครับ” ผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เอาจริงๆผมก็ไม่รู้คิวของพรีเซ็นเตอร์หรอกครับ เพราะฝ่ายพีอาร์เป็นคนจัดการ “หมดคิวแล้วก็กลับไปสิ” ผมออกปากไล่ ผมเองก็ว่าจะปลีกตัวกลับเหมือนกัน ที่เหลือก็ให้เจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายจัดการ ผมจึงเดินหนีออกมาดื้อๆ เพราะคนอย่างแทนไท ผมคงไม่จำเป็นต้องรักษามารยาท “ผมถามอะไรหน่อยสิ” แต่แล้วรายนั้นก็รีบสาวเท้าตามมาตีคู่ แทนไทสูงกว่าผมเล็กน้อย น่าจะสองสามเซ็นเห็นจะได้ ดังนั้นเมื่อผมปรายตามองไปข้างๆ ก็เห็นปลายจมูกโด่งอยู่ในระดับสายตาพอดี มีแวบหนึ่งที่ผมรู้สึกคุ้นหน้า แต่ก็เพียงแวบเดียวเท่านั้น สงสัยหน้ากวนๆของมันคงหลอนผมมากมั้ง “ถามอะไร?” “คืนนั้น…” เนี่ยๆ ผมเกลียดไอ้อาการเว้นจังหวะนรกนี่ กับสายตาวับๆวิ้งๆของมันมากครับ “จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?” มันจะรื้อฟื้นทำบ้าอะไร ผมนี่อยากจะลืมๆมันไปเร็วๆจะแย่อยู่แล้ว “นายจะพูดถึงอีกทำไม แค่คนเมาสองคนตื่นมาบนเตียงเดียวกัน” ผมตวัดเสียงใส่อย่างไม่พอใจ “ผมไม่ได้เมา” แทนไทเอ่ยเสียงเรียบ “แต่ฉันเมา! แล้วห้ามนายพูดถึงมันอีก ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ผมขู่อีกครั้ง ก่อนจะเร่งฝีเท้าก้าวหนี แทนไททำท่าจะก้าวตาม แต่เป็นจังหวะเดียวกับบอดี้การ์ดที่หายหัวไปนานของผมโผล่มาพอดี “รถพร้อมแล้วครับ นายจะกลับคอนโดเลยไหมครับ” “คืนนี้ฉันจะนอนที่เพนท์เฮาส์” ผมสั่งลูกน้องโดยที่ไม่ได้คิดอะไร แต่พอได้ยินเสียงตัวเองพูดจบเท่านั้นแหละ ผมก็คิดได้ มั่นใจมากว่าถ้าผมหันกลับไปมองคนข้างหลัง มันต้องกำลังยิ้มร้ายอยู่แน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD