นอตตัวใหม่

1612 Words
เช้าวันต่อมา เขมิกาตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ตามความเคยชินแม้จะเป็นในวันหยุด เช้าวันนี้เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดใส ลืมเรื่องหงุดหงิดใจของเมื่อคืนไปหมดแล้ว วันหวยออกจิตใจต้องผ่องใสเท่านั้น หญิงสาวคลี่ยิ้มให้ตัวเองในกระจก เปิดประตูห้องเดินออกมาดันได้เจอน้องสาวเป็นคนแรก “พี่พะแนงวันนี้ไปตลาดไหม แก้วขอไปด้วยซิ” แก้วเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสดใสราวกับว่าเมื่อคืนไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกันจนต้องร้องไห้ไปฟ้องแม่ แต่เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่เหมือนกัน ไม่ต้องทะเลาะกันให้ต้องอารมณ์เสียแต่เช้า เขมิกายิ้มให้แล้วพยักหน้า “ไปเลยไหมหรือว่าจะกินข้าวก่อน” “ไปเลย” “โอเค งั้นแก้วไปเอากระเป๋าแป๊บนึง” เขมิกามองออกไปที่ลานบ้านเพราะได้ยินเสียงคนคุยกัน หญิงสาวเห็นว่าเป็นแก๊งคอหวยก็รีบเดินออกไปหา แก้วเดินออกมาจากห้องก็เห็นว่าพี่สาวตัวเองกำลังเดินออกไปหาแก๊งป้า ๆ ลุง ๆ เธอก็เดินตามออกไปด้วย “พะแนงเมื่อคืนนี้ป้าฝันด้วยแหละ” “ฝันว่าไงบ้างอะป้า” พะแนงเอ่ยถามด้วยความสนใจ จะได้เอาความฝันของป้ามาตีเลขเด็ด “ป้าฝันว่าป้าท้อง” “ท้อง!!!” แก๊งหวยเอ่ยออกมาพร้อมกัน “ปูนนี้แล้วยังท้องได้อีกเหรอ” น้าหน่อยบ้านตรงข้ามเอ่ยออกมา สีหน้าของเธอสิ้นหวังลงเพราะคิดว่าน่าจะอาศัยเลขเด็ดจากความฝันนี้ไม่ได้แล้ว “ก็แค่ความฝัน” ป้าศรีค้อนขวับใส่น้าหน่อย แล้วหันมามองหน้าเขมิกาแล้วยิ้มให้ “เอ็งว่าป้าจะตีเป็นเลขอะไรดี” ป้าศรีถามเสียงหวานอย่างมีหวัง “01 ไหมป้า ท้องก็จะโต ๆ เหมือน 0 มีเด็กอยู่ 1 คน” “เออ ป้าว่าเลขนี้แหละ” ป้าศรีเห็นด้วยกับการตีเลขของเขมิกา พวกคอหวยรีบจดลงในโพยของตนเอง ทั้งบนทั้งล่างใส่เข้าไป คนที่ไม่ค่อยอยากเชื่อในความฝันของป้าศรีก็ยังจดใส่โพยไปด้วย กันเอาไว้เผื่อออกก็จะได้ไม่ต้องเสียดาย “ข้านึกออกแล้ว คิดอยู่ตั้งนานว่าเลข 01 มันคุ้น ๆ” “คุ้นยังไงเหรอลุง” เขมิกาเอ่ยถาม “ก็เมื่อวันก่อนน่ะงูมันเลื้อยผ่านรถลุง ทะเบียนรถลุงก็ 001” “โห พะแนงว่ามันต้องออกแน่ ๆ” น้ำเสียงของเขมิกาเต็มไปด้วยความมั่นใจ บิดาของเธอที่เพิ่งเดินเข้ามาฟังด้วยเกาหัวแกรก ๆ เลขอะไรมากมายเอามารวมกันไว้เสียหมด ไหนจะเลขจากต้นมะขามอีก ไม่รู้ว่าเขมิกาจะต้องซื้อทั้งหมดกี่ตัว “เออนี่เคยเจอหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวบ้างไหม เขามาอยู่ที่รีสอร์ตของตาเกื้อเป็นเดือน ๆ แล้วนะ” ป้าศรีเอ่ยถามกลับเขมิกา คนถูกถามส่ายหน้าเป็นคำตอบ รีสอร์ตที่ป้าศรีบอกคือของกานดา เพื่อนของเธอเอง ส่วนเกื้อของบิดาของกานดา “อะไรกัน ไม่เคยเจอเลยเหรอ” ป้าศรีถามด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ เมื่อเห็นเขมิกาส่ายหน้าไปมา “แถวนี้ก็มีฝรั่งมาให้เจอเยอะแยะ พะแนงก็ไม่รู้หรอกจ้ะว่าใครเป็นใคร” เขมิกายิ้มแห้ง แถวนี้อยู่ใกล้ที่ท่องเที่ยว ชาวบ้านบางคนก็ทำเป็นรีสอร์ต ทำเป็นโฮมสเตย์ ก็มีลูกค้าต่างชาติผ่านไปผ่านมาบ้าง “ก็จริงของเอ็ง แต่ฝรั่งคนนี้หล่อมากเลยนะ ใคร ๆ ก็เรียกเขาว่าฝรั่งขี้นก” “อ้าว เขาหล่อมากแล้วทำไมเรียกเขาอย่างนั้นล่ะ” “เขาเหมือนคนไม่มีงานมีการทำ ใช้ชีวิตแบบไม่มีเป้าหมาย ก็คงเหมือนเอ็งแหละพะแนง วัน ๆ ไม่รู้จักทำงานบ้าง” ป้าศรีเอ่ยเหน็บ ถึงอย่างนั้นก็อยากได้พะแนงมาเป็นลูกสะใภ้อยู่ดี แก้วหัวเราะชอบใจเพราะป้าศรีพูดดึงเอาพี่สาวเธอเข้าไปอยู่ในจำพวกคนไม่ทำงานทำการ “เขาอาจจะมีงานทำก็ได้นะป้าแค่ไม่ได้ป่าวประกาศบอกใครไง” เขมิกากำลังพูดถึงตนเองต่างหาก เห็นว่าไม่ได้ไปทำงานที่บริษัทก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีงานทำสักหน่อย “ป้าก็ไม่รู้แฮะ แต่ที่แน่ ๆ เขาดูรวยมาก” “จริงจ๊ะ ฉันเคยเจอบักฝรั่งขี้นกสองสามครั้ง เขาดูรวยมากเสื้อผ้านาฬิกา รองเท้าก็ดูแพงแต่น้าดูไม่เป็นหรอกนะว่ามันยี่ห้ออะไร น้าอ่านภาษาปะกิดไม่ออก” น้าหน่อยที่เคยได้เจอกับฝรั่งขี้นกก็เอ่ยขึ้นมา “ป้าศรี กับน้าหน่อยพูดกันจนฉันอยากเห็นหน้าไปด้วยเลย” แก้วเอ่ยออกมาด้วยความสนใจ และอยากได้เจอกับฝรั่งขี้นกคนนี้บ้าง “เขาอยู่แถวนี้แหล่ะนังแก้ว เดี๋ยวก็คงได้เจอกันบ้างแหละ” ลุงยอดตอบกลับมา แก๊งหวยแยกย้ายกันหลังจากที่ได้จดโพยกันเรียบร้อยแล้ว เขมิกาก็ออกไปตลาดกับแก้วเพื่อหาอะไรกิน แล้วตอนบ่ายก็ไปรวมตัวกันกับแก๊งบ้าหวยเพื่อลุ้นหวยกัน “เลขที่ออก 66” “ฮะ!!!” เขมิกาลูบหน้าตัวเองด้วยความเสียดาย ที่ซื้อไปนั้นไม่มีเลขนี้เลย อุตส่าห์ฟังต่อถึงรางวัลที่ 1 เผื่อจะไปถูกข้างบนแทน เดชาและนพนภามองแก๊งบ้าหวยที่ร้องโห่กันทุกคน มองไปที่ลูกสาวที่ใบหน้าสวยเศร้าลง แบบนี้คงโดนหวยกินกันแน่นอน! 2 วันต่อมา เขมิกาขี่มอเตอร์ไซค์ไปตลาด ระหว่างทางเจอกับฝรั่งคนหนึ่งที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่กับรถมอเตอร์ไซค์ หญิงสาวจอดรถของตนเองแล้วเดินเข้าไปหา เธอพอที่จะซ่อมมอเตอร์ไซค์ได้บ้างเพราะเคยเรียนรู้มาจากพ่อ “รถเป็นอะไรเหรอ” เธอเอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษ แม้จะเป็นประโยคสั้นแต่สำเนียงของเธอก็ดีจนเขาอึ้ง ฝรั่งตาน้ำข้าวหันมามองคนถาม เขาอึ้งไปอีกครั้ง เพราะคนตรงหน้าสวยมาก สวยจนแทบไม่อยากจะละสายตาไป “มันดังมาก ดังจนตกใจไม่รู้เป็นอะไร” เขาตอบกลับมาพร้อมกับชี้ไปที่ท่อไอเสีย เขมิกามองตามก็เห็นว่านอตยึดท่อนั้นหลุดหายไป เธอเปิดเบาะมอเตอร์ไซค์ของตนเองแล้วเอากล่องเครื่องมือช่างที่มีติดรถไว้ออกมา หญิงสาวถอดเสื้อแขนยาวออกเพื่อเอาไปจับตรงท่อ ขี่ออกมาแล้วแบบนี้มันร้อนถ้าไม่มีผ้าก็คงจะจับไม่ได้แน่นอน ท่วงท่าซ่อมรถอย่างทะมัดทะแมงของเธอดึงสายตาของฝรั่งหนุ่มไว้ เขาคิดในใจว่าผู้คนนี้มีเสน่ห์มาก การกระทำของเธอเหมือนกำลังบอกทุกคนที่มองว่า ‘ฉันเป็นผู้หญิงพึ่งพาตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งแต่ผู้ชาย’ ซึ่งหาได้ยากมาก “เสร็จแล้วค่ะ ไม่ดังแล้ว” เขมิกาปัดมือของตัวเองแล้วพับเสื้อแขนยาวใส่ไว้ที่ตะกร้าหน้ารถ ฝรั่งหนุ่มมองสาวไทยขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปด้วยความสงสัย ไปง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ เขายังไม่ได้จ่ายค่าซ่อมให้เลย และยังไม่ทันได้ขอบคุณเลยด้วยซ้ำ เขาเลยขี่มอเตอร์ไซค์ตามเธอไป เขมิกามองกระจกหลังเห็นว่าเขาขี่ตามมาก็แปลกใจ อีกทั้งยังรู้สึกกลัวขึ้นมาเพราะเส้นนี้ก็ค่อนข้างเปลี่ยว คิดกลัวไปถึงว่าเขาจะฉุดหรือจะทำร้ายอะไรหรือเปล่า หญิงสาวขี่ไปจนถึงตลาดแล้วหันไปหาคนที่มาจอดข้าง ๆ “มีอะไรหรือเปล่าคะ รถยังดังอยู่เหรอ” เธอลองถามในแง่ดีทั้งที่ตลอดทางที่มาเธอก็ไม่ได้ยินเสียงท่อ “เปล่า แต่ผมยังไม่ได้ให้ค่าซ่อมเลย” เขาหยิบเงินมายื่นให้เธอโดยที่ไม่รู้ว่าค่าซ่อมที่จริงแล้วเท่าไหร่ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันซ่อมให้ฟรีไม่คิดเงินค่ะ” เห็นว่าเขาแค่ต้องการจะจ่ายเงินให้ เธอก็ไม่กลัวเขาแล้ว “รับไว้เถอะครับ ถือว่าเป็นค่าซักเสื้อที่คุณถอดมันมาจับท่อร้อน ๆ” “ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ค่าครองชีพมันสูง ข้าวของแพงขึ้นเรื่อย ๆ คุณเก็บเงินไว้ใช้เถอะค่ะ” สีหน้าของฝรั่งหนุ่มยังไม่ค่อยสบายใจ เพราะเขาอยากตอบแทนเธอบ้าง “อีกอย่างรถคันนี้ก็มาจากร้านเช่าของป้าฉันเอง ก็เท่ากับว่าฉันช่วยป้าฉันซ่อมรถ ช่วยคนในครอบครัวใครเขาจะคิดเงินกันละคะ” เขมิกาเอ่ยออกมาเพื่อให้เขาสบายใจ เธอไม่อยากรับเงินจากเขามาเพราะไม่ได้ทำอะไรมากสักหน่อย แค่เอานอตใหม่ไปใส่ก็ใช้งานได้แล้ว “ขอบคุณมากนะครับ” เขาเอ่ยออกมาและคลี่ยิ้มให้ นึกชื่นชมในความมีน้ำใจของเธอ แม้จะบอกว่ารถคันนี้เป็นรถของคนในครอบครัว แต่เขาก็มองเธอออกว่าเธอเป็นคนมีน้ำใจอยู่แล้ว “ยินดีค่ะ” เขมิกาก้มศีรษะแล้วเดินไปที่ร้านน้ำเต้าหู้เจ้าประจำของตนเอง…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD