แก๊งคอหวยเดินมาที่ต้นมะขามต้นใหญ่ เคยมีคนจะตัดต้นนี้แต่ตัดยังไงก็ตัดไม่เข้า เนื้อแข็งเหมือนหิน แต่พอได้ตรวจสอบก็พบว่าเป็นหินจริง ๆ ตอนแรกชาวบ้านก็ไม่ได้คิดอะไร ทว่าพอมีคนมาขอแล้วถูกเลขท้ายสองตัว ความศรัทธาของชาวบ้านก็มาเต็ม
ผ้าสามสีพันรอบต้น พร้อมกับกระถางธูปที่ไว้ปัก
“สิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าขา พะแนงขอแบบตรง ๆ สักสามตัวเลยนะเจ้าคะ” เขมิกายกมือไหว้ต้นมะขาม แล้วจุดเลขธูปของตนเอง เธอปักลงในกระถาง ชาวบ้านคนอื่น ๆ ก็จุดของตนเองปักด้วย
เดชามองด้วยความสงสัย ธูปมากมายขนาดนั้นแล้วของใครจะเป็นเลขเด็ดกันล่ะ?
“ของพะแนงขึ้นแล้วจ้ะป้า” เขมิกาตื่นเต้น มองเลขธูปอย่างใจจดใจจ่อ
“3” เขมิกาเอ่ยออกมาเมื่อเลขขึ้น
“ของลุง 0”
“ของน้า 5”
“305 แน่ ๆ” เขมิกาตบเข่าฉาด ไม่เคยมั่นใจอะไรขนาดนี้ทั้งที่เลขธูปของตนเองยังขึ้นไม่ครบ เดชามองแล้วเกาหัวตัวเอง นี่คือหลักในการคิดเลขของลูกเหรอ?
“กลับเลยไหม” เดชาเอ่ยถาม
“ยังจ้ะ พะแนงขอรอดูก่อนว่าจะมีเลขอะไรขึ้นมาบ้าง จะซื้อกันไว้จ้ะ”
“อืม” เดชาพยักหน้าแล้วลุ้นเลขธูปไปกับลูกสาว
“พะแนงขึ้นครบยัง ของน้าใกล้ครบแล้วตัวสุดท้ายนี่น่าจะศูนย์”
“ครบแล้วจ้ะ ของพะแนง 312”
ลุงป้าคนอื่น ๆ ก็บอกเลขของตนเองเผื่อว่าใครจะเอาไปซื้อตาม ส่วนพุฒินาถจะซื้อ 305 อย่างที่ว่าและจะซื้อเลขธูปนี้ด้วย
เสียงโหวกเหวกของชาวบ้านในตอนที่ลุ้นเลข ดังไปถึงรีสอร์ตเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ หนุ่มหน้าฝรั่งชะโงกหน้ามองว่าพวกชาวบ้านมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า เขาเห็นกลุ่มคนที่นั่งบ้างยืนบ้างเป็นสิบ ๆ คนออกันอยู่ที่หน้าต้นมะขาม
“ชาวบ้านศรัทธาต้นมะขามน่ะครับ มาขอเลขเพื่อลุ้นรางวัล” พ่อของเจ้าของรีสอร์ตเดินมาดูพอดี เขาเลยอธิบายเป็นภาษาอังกฤษให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจแบบง่าย ๆ
“อืม”
“ผมต้องขอโทษแทนชาวบ้านด้วยนะครับที่รบกวนความสงบ” พ่อเจ้าของรีสอร์ตก้มศีรษะลง
“ไม่เป็นไรครับ”
เจ้าของรีสอร์ตดีใจที่นักท่องเที่ยวรายนี้เข้าใจ เพราะยังไงเขาก็ไปห้ามชาวบ้านไม่ได้ เป็นกิจกรรมลุ้นเลขของคนในชุมชน ยังไงก็ต้องพึ่งพากันอยู่
เขมิกาได้เลขเด็ดสมใจ เธอเดินกลับมาที่บ้านแล้วขึ้นไปที่ห้องนอนเพื่อที่จะอาบน้ำ เปิดประตูตู้เสื้อผ้าออกก็รู้สึกว่ามีความผิดปกติในตู้ เธอแหวกเสื้อดูถึงรู้ว่าเสื้อของเธอหายไปตัวนึง
หญิงสาวถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
“แก้วใช้เสื้อเสร็จแล้วก็เอามาคืนพี่ด้วยนะ” เขมิกาเดินออกไปหาน้องสาวแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด
“รู้แล้ว เพิ่งจะไปเอามารีบทวงจัง”
“ไม่ได้ทวง แต่พี่กลัวแก้วจะลืมแล้วไม่เอามาคืน”
“ขอเลยได้ปะ แก้วชอบอะ”
“ไม่ได้!” เขมิกาเสียงแข็ง
“เสื้อตัวเดียวแบ่งให้น้องไม่ได้หรือไง ตัวอื่นพี่ก็มีตั้งเยอะ”
“แม่ว่าพะแนงแบ่งเสื้อให้น้องใส่บ้างก็ได้นิ พี่น้องกันจะหวงกันทำไม” นพนภาเอ่ยขึ้นมา
“เสื้อตัวนี้พะแนงชอบ พะแนงไม่ให้ อีกอย่างก่อนที่แก้วจะเข้าไปเอาควรขอพะแนงก่อนด้วยนะ” เขมิกาเหลืออดที่น้องสาวชอบเข้าไปเอาของของเธอไปใช้ทั้งที่ไม่เคยขอก่อนเลย
“โอเค เดี๋ยวใส่แล้วจะคืนให้ ขี้งกจัง” แก้วยู่หน้าใส่พี่สาว
“แม่ว่าพะแนงหวงของเกินไปแล้วนะ” นพนภารู้สึกว่าเขมิกากำลังใช้อารมณ์มากเกินไปแค่เสื้อตัวเดียว ถึงได้ดุเพื่อให้ลูกสาวคนโตได้รู้จักแบ่งปันให้น้อง
“ไม่หวงได้ไง แก้วเล่นเอาเสื้อตัวเป็นหมื่นไปเลยนะ พะแนงก็จะเอาไว้ใส่เวลาไปหาเพื่อน” เสื้อตัวนี้เป็นเสื้อสไตล์วินเทจราคาเป็นหมื่น ตอนแรกเธอจะตัดใจไม่ซื้อ แต่เพื่อนยุว่า ‘ของมันต้องมี’ เธอเลยตกลงซื้อ
“อะไรนะ พะแนงซื้อเสื้อตัวเป็นหมื่นเลยเหรอ ทำไมใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้ งานการก็ไม่ทำถ้าแทงหวยถูกก็ควรเก็บเงินไว้บ้างซิ ไม่ใช่มาซื้อของไร้สาระแบบนี้” นพนภาดุเสียงดัง เมื่อรู้ว่าลูกสาวที่ไม่รู้จักทำงานทำการมัวแต่เล่นหวย รวยเบอร์กับใช้เงินฟุ่มเฟือย
“ของพี่พะแนงก็มีแต่แพง ๆ ทั้งนั้นแหละแม่” แก้วได้ที รีบเติมเชื้อไฟให้โหมหนักขึ้น
“พะแนง!” นพนภาเสียงเข้ม เธอฟาดมือลงที่ก้นงอนของลูกไปหลายที
“อย่าใช้เงินฟุ่มเฟือย รู้จักประหยัดซะบ้าง ข้าวของแพง ๆ มันจำเป็นนักหรือไง” มือก็ตีปากก็ดุ
“แม่...พะแนงเจ็บ โอ๊ย!! แม่” เขมิการ้องเสียงดังพร้อมกับพยายามหนีแต่แม่จับแขนไว้แน่น
เขมิกาจ้องหน้าน้องสาวด้วยความโกรธ พอแม่หยุดตี เธอก็เดินกลับเข้าห้องของตนเองไปด้วยความหงุดหงิด ถึงจะโดนแม่ตีอยู่บ่อยครั้งจนชิน แต่ที่หงุดหงิดอยู่ตอนนี้เป็นเพราะยัยแก้วที่ชอบมาวุ่นวายกับข้าวของของเธอ!
“เอาเสื้อมาคืน ไม่ใส่ก็ได้” แก้วเดินเข้ามาในห้อง แล้วโยนเสื้อวินเทจลงบนเตียง
เขมิกามองหน้าแก้วด้วยแววตาประกายความกรุ่นโกรธ เธอรู้ว่าแก้วคืนแบบไม่เต็มใจจะคืน อาจเป็นเพราะเธอไปต่อว่าแก้วถึงได้เอามาคืนแบบนี้
“เดี๋ยวก่อนแก้ว” เขมิกาเอ่ยเรียกน้องสาวที่กำลังจะเดินออกจากห้อง
“มีไรอีก คืนให้แล้วไง” แก้วหันมามองพี่สาวด้วยความรำคาญ
“ต่อไปนี้ห้ามเข้ามาห้องพี่ก่อนขออนุญาตเด็ดขาด” น้ำเสียงของเขมิกาเย็นเยียบจนน่ากลัว
แก้วพยักหน้า ก่อนจะลอบยิ้มเย้ยหยันออกมา พี่สาวของเธอเคยพูดแบบนี้มาหลายครั้งแต่เธอเคยฟังเหรอ เธอเข้าออกห้องของเขมิกามาตลอดเวลาที่เจ้าของห้องไม่อยู่
เขมิกาเห็นสีหน้าที่ไม่สำนึกของแก้วแล้วยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้น
“เอาของทั้งหมดมาคืนด้วย”
แก้วหันขวับมามอง เธอเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม เขมิกาเหยียดยิ้ม ยังกล้าทำสีหน้าเหมือนว่าตัวเองไม่ได้เอาอะไรไป
“กางเกงยีนทรงกระบอกแก้วเอาของพี่ไปเมื่อเดือนที่แล้ว เอามาคืนพี่ด้วย”
แก้วตกใจเห็นเขมิกาไม่ได้พูดอะไรแต่แรก เธอก็คิดว่าพี่สาวไม่รู้
“น้ำหอมที่เธอเอาไปก็ควรจะคืนมาสักที” น้ำหอมขวดนี้แก้วขอยืมไปฉีดตั้งนานแล้วแต่ไม่ยอมคืน
“พี่พะแนงยังจะเอาคืนอีกเหรอ”
“ใช่ เอามาคืนด้วย รองเท้า กระเป๋า ของทุกชิ้นที่เคยเอาไป เอามาคืนพี่ให้หมดเลยนะ” เขมิกาหน้าเรียบนิ่งแต่ก็ประกายอารมณ์กรุ่นออกมามาก
แก้วน้ำตาซึมเพราะโดนทวงของคืนทั้งหมด เธอเดินกระทืบเท้าออกไปแล้วฟ้องแม่ เขมิกาถอนหายใจออกมาด้วยความระอา แก้วผิดแต่ดันไปฟ้องแม่แล้วแม่ก็ยังจะปลอบอีก แต่เอาเถอะอย่างน้อยแม่ก็ไม่เดินมาดุเธออีก
เขมิกานั่งถอนหายใจ จนปัญหากับการห้ามไม่ให้น้องสาวตัวดีเข้ามาป้วนเปี้ยนวุ่นวายภายในห้อง เธอทั้งหากุญแจมาล็อคประตู เอาของแพง ๆไปซ้อนแก้วก็สามารถหาของเจอได้ง่าย ๆ จนเธอไม่รู้จะทำยังไง
ทุกครั้งที่เธอทวงของคืนแม่จะต้องออกโรงปกป้องแก้วอยู่เสมอ ทั้ง ๆที่แก้วเป็นคนผิดเอาของเธอไป แต่กลับกลายเป็นเธอที่ถูกแม่ดุด่าหรือลงไม้ลงมือแบบวันนี้
“เฮ้อ...ฉันจะจัดการเธอยังไงดีนะ แก้ว!!”