บทนำ
เวนิสตาเปิดกระเป๋าสตางค์ดูพบเพียงธนบัตรไม่กี่ใบ หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ใกล้จะเริ่มต้นเดือนใหม่แล้ว รายได้ก็ยังไม่พอใช้ดังเดิม เธอเที่ยวทำงานเสริมไปทั่วจนวุ่น เงินก็ยังไม่พอจะเป็นค่าดำรงชีพ
ร่างบอบบางแน่นิ่งไป สักพักน้ำใส ๆ ก็เอ่อล้นออกจากตาคู่สวย
“ฮึก..ฮือ” ร้องไห้คนเดียวในเรือนเล็กหลังบ้าน ไม่มีใครช่วยปลอบประโลมนอกจากความเงียบ คนใช้ที่เคยมาหน้าเรือนทุกวันหายขึ้นตึกใหญ่
นับตั้งแต่คุณท่านล้มป่วย เธอและพี่สาวต่างมารดาก็ไม่มีทรัพย์ติดตัว นอกจากเงินเล็กน้อยพอประทังชีวิต เงินที่หามาได้ถูกนำมาใช้เป็นค่าจ้างพยาบาลส่วนตัวดูแลประมุขของบ้าน
“เขาส่งเสียแกและฉันจนเรียนจบ ไม่ดูแลตอนที่ป่วยไม่ได้ อย่างน้อยมีพยาบาลคอยดูแลสักคนก็ยังดี” พี่สาวต่างมารดาอย่าง เขมมิกา บอก ก่อนจะหายตัวไปทำงานและไม่กลับมาที่บ้านอีก จะส่งเงินให้ก็เพียงสิ้นเดือนเท่านั้น
เวนิสตาทำได้เพียงรอคอยญาติผู้พี่กลับมา
เพราะเพิ่งเรียนจบและยังไม่ได้งานดี ๆ ทำ เธอเลยต้องเจียดเงินเก็บตัวเองมาใช้จ่าย แต่ยิ่งใช้ยิ่งร่อยหรอลงทุกที อีกไม่นานคงไม่มีอาหารประทังชีวิต
หญิงสาวนอนเล่นมือถือแก้เซ็ง งานที่สมัครไปก็ไม่ได้เรียกเธอไปสัมภาษณ์ เธอเรียนจบจากคณะบริหาร มหาวิทยาลัยรัฐต่างจังหวัด แม้จะมีชื่อเสียงแต่คนกรุงเทพมักให้ความสำคัญกับชื่อเสียงมหาวิทยาลัยในกรุง เธอจึงหางานดี ๆ ทำไม่ค่อยได้
แม้เวนิสตาจะเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลผู้ดีเก่า แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่ออำนาจเสื่อม ทุกอย่างก็พลอยสูญสลายหายไปด้วย ถ้าเขมมิกาไม่ได้ไปถูกตาต้องใจคุณท่านเข้า ท่านก็คงไม่รับเลี้ยงเธอเป็นหลานของตระกูล เวนิสตาก็คงไม่ได้เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ และคงจะฐานะย่ำแย่กว่าเดิมเป็นเท่าตัว
เธอถอนหายใจ ไร้หนทางทำมากินนอกจาก...
ขายเรือนร่าง
ร่างบอบบางกลืนน้ำลาย เธอได้ข่าวมาว่าอาชีพนี้เงินดี คืนหนึ่งก็ตกพันสองพันกว่าบาทแล้ว มีแขกหลายคนยิ่งมีแววว่าเงินจะถึงหมื่น แค่ต้องทนเป็นที่รองรับอารมณ์ของเพศตรงข้ามเท่านั้น
เพราะความคิดนี้วนเวียนอยู่ในหัวยากจะสลัดออก ร่างกายจึงพาอีกคนมาถึงย่านบันเทิงในเมืองกรุง ย่านที่เหล่าผีเสื้อราตรีต่างออกวาดลวดลาย
ย่านสถานบันเทิง
ระหว่างทางมีผู้ชายมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหายมาตลอดทาง
“ไปด้วยกันไหมน้อง”
เวนิสตาจึงหลุบสายตามองพื้น ไม่มองพวกเขาเพราะกลัวจะโดนลากไปทำมิดีมิร้ายเข้า
เธอพบอาคารทรงสวยหลังหนึ่ง ท่าทางดูแล้วปลอดภัยดี หลังจากติดต่อขอทำงาน ไม่นานนัก ผู้จัดการก็ออกมาพบหล่อน เธอแต่งหน้าค่อนข้างจัด ผมเผ้าถูกหวีเกล้าขึ้นเรียบร้อย ร่างบอบบางยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ ผู้หญิงตรงหน้ามองเธอแล้วก็พูดขึ้นทันที
“ท่าทางดูไร้เดียงสา ไม่น่าจะทำอาชีพนี้ได้ ถามตรง ๆ นะหนู เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วหรือยัง”
เวนิสตาไม่ตอบ เธอรู้ว่ามันเป็นความคิดที่แย่มาก เธอกระโจนเข้ามาทำงานนี้ ทั้งที่ตัวเองไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ดูอย่างไรก็คงบริการใครไม่ได้แน่ ๆ
ดูเหมือนอีกคนจะล่วงรู้ความคิด
“กะแล้วเชียว ดูท่าคงเป็นเด็กเพิ่งจบมาสิท่า เฮ้อ...ฉันก็ไม่อยากใจจืดใจดำไม่รับเข้าทำงานหรอกนะ แต่ว่าหนูลองเป็นเด็กนั่งดริงก์ก่อนไหม ดูก่อนว่าทำงานบริการแบบนี้ไหวไหมแล้วค่อยเลื่อนไปทำอย่างอื่น”
เวนิสตาค่อยโล่งใจ โชคดีที่เธอเจอผู้จัดการดี ไม่ทำเรื่องเสื่อมเสียเกียรติ การทำงานวันแรกถึงดูโอเค
“ถ้ามีลูกค้ามาเกาะแกะหรือว่าชวนให้ไปนอนด้วยก็ให้บอกว่านั่งดริงก์อย่างเดียว ถ้ามีคนมาตามตื๊อมาก ๆ ให้มาบอกฉัน เข้าใจไหม” ผู้จัดการถาม ยื่นชุดทำงานให้เปลี่ยน หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณออกมา
“ขอบคุณค่ะ”
“เริ่มงานได้เลย ลูกค้าทยอยมาแล้ว” ผู้จัดการเพยิดหน้าไปทางหน้าประตู
หญิงสาวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะเดินออกมา
เพราะหญิงสาวหน้าตาดีอยู่แล้ว วันแรกจึงมีคนจองตัวไปนั่งด้วย เขาเป็นเสี่ยวัยกลางคน ท่าทางจะกระเป๋าหนักน่าดู โชคดีที่ลูกค้าคนแรกไม่คิดรุ่มร่ามกับเธอ นอกจากเมียงมองและสอบถามทั่วไปเท่านั้น
เวนิสตารู้สึกสบายใจที่จะอยู่ใกล้ชายคนนี้ กระนั้นเธอก็ต้องคอยสังเกตด้วยว่าลูกค้าคิดเล่นตุกติกอะไรไหม
“เดี๋ยวเวสั่งกับแกล้มให้นะคะ”
หมับ
ลูกค้าเสี่ยจับตัวเธอเข้าก่อนจะบอก “ฉันว่าสั่งมาเยอะ ๆ ไม่น่าดีนะหนู ฉันยังไม่อยากจ่ายหนัก หนูเองดูแล้วก็ยังเป็นมือใหม่อยู่ อย่าเพิ่งเรียกลูกค้าเยอะ ๆ จะดีกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นดื่มตรงนี้ให้หมดก่อนก็ได้ค่ะ”
เวนิสตายอมอ่อนข้อให้ เสี่ยที่คล้องไหล่อยู่จึงละมือออกจากไหล่เธอไป
บรรยากาศในสถานบันเทิงคึกครื้นมาก ผู้คนเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกเริงร่าอย่างมีความสุข ผู้ชายคนหนึ่งเดินตรงมาทางโต๊ะก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูเสี่ย ชายวัยกลางคนจึงลุกขึ้นก่อนบอก
“ฉันว่าจะกลับแล้ว เคลียร์โต๊ะได้เลย”
“ค่ะ เดี๋ยวเวไปส่งที่หน้าร้านค่ะ” เวนิสตาบอก แต่เสี่ยกดเธอเบา ๆ ให้นั่งลงกับโซฟา “เดี๋ยวฉันกลับเองดีกว่า ขอบคุณหนูมากที่มานั่งเป็นเพื่อนคุย”
หญิงสาวรู้สึกงงงวยเพราะไม่คิดว่าลูกค้าคนแรกจะใจดีขนาดนี้ ตอนแรกเธอคิดว่าจะต้องรับมือกับลูกค้าที่ชอบลวนลามหรืออะไรแบบนี้สักอีก ที่แท้แค่นั่งคุยเป็นเพื่อนเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
ร่างบอบบางมองไปรอบข้าง สำรวจตรวจตราโต๊ะด้านข้างว่ามีใครมาจองด้วยไหมและเขาทำงานกันอย่างไร
ระหว่างที่กำลังหลงใหลไปกับแสง สี เสียง ลูกค้าคนที่สองก็มาถึง รายนี้ดูค่อนข้างมุทะลุ มานั่งด้วยแค่แป๊บเดียวแต่ก็คิดจะลวนลามเธอเสียแล้ว มิหนำซ้ำยังอยากจะนอนกับเธออีกด้วย
เวนิสตารู้สึกเศร้าจนแทบจะร้องไห้ กระนั้นต้องฝืนให้บริการเขาทั้งที่หวงเนื้อหวงตัว
“จับแค่นี้ก็ไม่ได้! หวงตัวอะไรนัก เป็นแค่เด็กนั่ง
ดริงก์” ชายหนุ่มบอก เอื้อมมือมาโอบไหล่เธอด้วยความรุนแรง เวนิสตาไม่รู้จะทำอย่างไรดีนอกจากนั่งตัวลีบ เด็ก
ดริงก์คนอื่นแม้จะเห็นว่าเธอไม่สบายใจแต่ก็ไม่มีใครกล้ามาช่วย เป็นเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้าน
ในระหว่างที่เธอกำลังอึดอัดอยู่นั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“เอาผู้ชายคนนี้ออกไปที” เสียงทุ้มบอก ผู้จัดการปรากฏตัวขึ้นแทบจะทันที “บอดี้การ์ดไปเคลียร์โต๊ะซิ”
ฉับพลัน ผู้ชายร่างใหญ่สองสามคนก็โผล่มาขวาง คนหนึ่งเชิญให้ลูกค้าที่นั่งอยู่ก่อนออกไป
“เชิญออกไปกับพวกเราด้วยครับ”
ลูกค้าคนที่สองโวยวายขึ้นทันที “ฉันซื้อผู้หญิงคนนี้แล้วและกำลังจะไปหาอะไรสนุก ๆ ทำ พวกแกมาขวางทำไม”
“ต้องขอเชิญออกไปจริง ๆ ครับ ผู้หญิงคนนี้มีคนซื้อไว้แล้ว”
“แต่ฉันมาก่อน ยังไงฉันก็ต้องได้ยัยนี่” ไม่ว่าเปล่า เอื้อมมือมาจับหญิงสาวให้ลุกขึ้นเพื่อให้ไปกับตนเองอีกต่างหาก เวนิสตาพยายามสะบัดให้ออกจากการเกาะกุม แต่อีกฝ่ายกลับไม่ปล่อยง่าย ๆ
บอดี้การ์ดจึงพูดขึ้น
“แต่ร้านของเราไม่มีนโยบายให้เด็กนั่งดริงก์นั้น
เอนเตอร์เทนแขกนอกเหนือไปจากที่โซฟากินเลี้ยง เราต้องขอเชิญผู้ที่ละเมิดกฎข้อนี้ออกจากร้าน หากไม่ทำตามอย่าหาว่าทางร้านไม่เตือนนะครับ” บอดี้การ์ดตั้งท่าจะลงไม้ลงมือกับแขก นั่นทำให้ผู้ชายคนที่นั่งกับเธอรู้สึกหวาดกลัว
“เออ ๆ ไปก็ได้ เสียอารมณ์จริง” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลุกไป เวนิสตารู้สึกเหมือนหายใจโล่งขึ้นมาหน่อย โชคดีที่แขกคนที่มาใหม่มาช่วยเหลือเธอไว้ ไม่อย่างนั้นเธอคงเสียใจไปตลอดชีวิต
หญิงสาวกำลังจะหันไปขอบคุณคนที่เข้ามาช่วยหล่อน แต่เมื่อเห็นหน้าของอีกฝ่าย ร่างบอบบางก็ตกใจสุดขีด
ผู้ชายตรงหน้าอายุสามสิบกว่า ๆ เขามีใบหน้าหล่อคม น้ำหอมกลิ่นสปอร์ตฟุ้ง คิ้วจมูกรับกัน ดูแล้วชวนหลงใหล ใครมองก็รู้ว่าคงเป็นเจ้าของธุรกิจกระเป๋าหนัก แต่สำหรับเวนิสตาแล้ว เธอรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร
ศิขริน
ว่าที่พี่เขยของเธอเอง!
หญิงสาวร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูก แม้ไม่เคยรู้จักมักจี่กับคู่หมั้นของพี่สาว แต่เธอก็พอจะรู้จักหน้าคร่าตาของอีกฝ่าย
ยิ่งอีกฝ่ายนั่งลงข้างกัน ยิ่งทำให้บรรยากาศในร้านพลันอึมครึมกดดัน เวนิสตาหาเสียงในลำคอของตนก่อนจะเอ่ยขึ้น
“คุณศิ...”
“ทำงานแบบนี้มานานแล้วหรือยัง”
“เพิ่งทำวันนี้ค่ะ” รู้สึกเหมือนโดนผู้ปกครองดุ
“พี่สาวรู้เรื่องนี้ไหม”
“พี่เขมไม่ทราบค่ะ” เวนิสตาบอกเสียงอ่อย ไม่คิดว่าพี่เขยจะมาเจอเธอในที่แบบนี้ อีกฝ่ายไม่พูดอะไร นิ้วเรียวยาวสัมผัสแก้วออนเดอะร็อกก่อนจะยกขึ้นจิบ
“แล้วนี่คุณศิมาซื้อชั่วโมงแบบนี้...”
ศิขรินยกยิ้มก่อนตอบ
“ใช่ ฉันซื้อชั่วโมงนั่งเธอ...มีอะไรหรือเปล่า” ดวงหน้าคมดูจริงจัง ไม่ติดแววเล่นเลยแม้แต่น้อย เขาดูเหมือนต้องการให้หล่อนเป็นมากกว่าเด็กนั่งดริงก์
“คุณศิคงไม่ได้หมายถึงเรื่องบนเตียงใช่ไหมคะ...บอกไว้ก่อนว่าเวไม่นอนกับคนแปลกหน้า ยิ่งคน ๆ นั้นเป็นว่าที่พี่เขยยิ่งแล้วใหญ่”
ศิขรินไม่ได้พูดอะไรต่อ สายตาคมจับจ้องไปที่เวทีด้านหน้าก่อนเปรยขึ้นมา
“พี่สาวเธอไม่ได้ชมชอบอะไรฉัน”
ไม่ได้ชมชอบ หญิงสาวเห็นพี่ของตนแทบจะประเคนทุกอย่างให้เมื่ออีกฝ่ายมาบ้าน จะไม่ได้ชมชอบได้อย่างไร
“ไม่ว่าพี่เขมจะชอบหรือไม่ชอบคุณ อย่างไรเวก็จะไม่ไปกับคุณศิค่ะ” หญิงสาวยืนกราน แสงสลัวของสถานบันเทิงทำให้มองหน้าอีกคนไม่ชัด เพราะไม่รู้ว่าคิดอะไรจึงทำให้เธออดรู้สึกหวาดหวั่นไม่ได้
ศิขรินแย้มยิ้มเล็กน้อย เป็นยิ้มที่ทำให้คนลอบมองดูถึงกับผวา
“ถ้าเธอไม่ไปกับฉัน งั้นฉันก็มีความจำเป็นจะต้องเรียกผู้ชายคนเมื่อกี้กลับมา เสียดายนะ เขาอุตส่าห์จ่ายเงินซื้อแต่นั่งยังไม่ครบเวลาก็ต้องออกไปเสียก่อน...”
เวนิสตาขนลุกเกรียว ไม่อยากจะเชื่อว่าคนตรงหน้าจะร้ายขนาดนี้ เห็นเธอไม่ไปด้วยก็คิดหาทางมาบีบคั้น หญิงสาวรู้สึกฉุนเฉียวอยู่ในใจ
“อย่าเรียกผู้ชายคนนั้นกลับมานะคะ เวไม่ชอบเขา”
“ดีจริง ปฏิเสธแขกได้ด้วย” ศิขรินกวักมือเรียกบอดี้การ์ดให้เข้ามา ท่าทางของเขาน่ากลัวเอาเรื่อง
“เดี๋ยวไปหาแขกใหม่มานะ ว่าที่น้องเมียไม่อยากให้ฉันอยู่ตรงนี้” เขาบอก บอดี้การ์ดพยักหน้ารับก่อนจะออกไป ร่างบอบบางรู้สึกอึดอัด เธอมีลางสังหรณ์ว่าลูกค้าคนถัดไปจะมีลักษณะนิสัยน่าอึดอัด
“คุณศิจะทำอะไรน่ะคะ อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะคะ”
“นั่งรอแขกเป็นเพื่อนไง เดี๋ยวหาคนใหม่มาได้ฉันก็จะไปแล้ว” เขาพูดอย่างไม่ยี่หระ ไม่ทันไร ผู้ชายแก่ ๆ คนหนึ่งก็เดินเข้ามาที่โต๊ะ
“โอ้ เด็กวันนี้สวยจริง...หนูไปสนุกกันเถอะ”
เวนิสตาสะบัดมือคนแก่ออกจากการเกาะกุม แต่อีกคนรีบปรี่เข้ามากอด นั่นทำให้เธอต้องผุดลุกขึ้น
ศิขรินเองทำท่าจะทิ้งเธอไป นั่นทำให้สาวน้อยรีบเรียกตัวเอาไว้
“คุณศิ เวไปด้วย” และแล้วเธอก็เดินตามเขาเหมือนลูกแมวน้อยตามหาสิงโต
ร่างสูงไม่ได้หันมาสนใจว่าที่น้องเมีย แต่เดินออกจากสถานบันเทิงไปโดยไม่หันหลังกลับ
เวนิสตาเดินตามอีกคนต้อย ๆ รู้สึกหวาดกลัวว่าจะโดนทิ้งให้อยู่กับชายแปลกหน้า อย่างไรอยู่กับพี่เขยก็สบายใจกว่าอยู่กับคนอื่น
“ทำไมเดินไวจังคะ รอด้วยสิ อย่าทิ้งเว” หญิงสาวร้องบอก ในที่สุดก็เดินมาขวางอีกคนไว้ได้
“มีอะไร...ในเมื่อเธอไม่อยากไปกับฉัน ฉันก็ให้อยู่รับแขกต่อ ไม่ดีหรือ”
“มะ..ไม่ดีค่ะ”
“ทำไมถึงไม่ดีล่ะ” ชายหนุ่มเริ่มผุดยิ้มมุมปาก
“เวไม่ชอบงานแบบนี้ มันเปลืองตัว...ช่วยพาเวไปส่งที่บ้านหน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวขอร้อง วอนขออีกคนให้เห็นใจ มีเพียงความเงียบจากร่างสูงเท่านั้น
“นะคะ”
“ไปโรงแรม”
“คะ”
“ไปส่งที่บ้านน่ะไม่ได้หรอก แต่ที่โรงแรมก็ได้อยู่”
“ทำไมคุณศิถึงคิดแต่เรื่องอย่างว่า”
“รู้อะไรไหม ฉันซื้อตัวเธอมาแพง แทบจะเรียกว่าไถ่ออกจากที่นั่นด้วยซ้ำ ผู้จัดการตอนแรกจะไม่ยอมเพราะเห็นว่าเธอหน้าตาดี น่าจะทำเงินได้ สุดท้ายก็ยอมให้ฉันไถ่ออกมา แต่เธอกลับปฏิเสธลูกค้า ให้ตาย” ศิขรินดูหงุดหงิด เขาไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปยุ่งกับเรื่องของว่าที่น้องเมียด้วยซ้ำ ไม่ต้องสนใจเธอแล้วปล่อยให้ถูกลวนลามไป
ในเมื่อหญิงสาวอยากเลือกอาชีพนี้เอง เธอก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น...นั่นคือสิ่งที่เขาคิด...
แต่พอเห็นหน้าสวย ๆ หม่นปนทุกข์ อะไรบางอย่างในตัวมันก็บอกให้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
“ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ค่ะ อย่างไรเวก็จะไม่ทำอาชีพนี้แล้ว”
“เธอไม่ควรมาอยู่ที่นั่นตั้งแต่แรก” ศิขรินขบฟัน
ใช่ว่าจะไม่รู้จักหน้าคร่าตาของว่าที่น้องเมีย เคยไปที่คฤหาสน์แค่ไม่กี่ครั้งเพื่อพบประมุขของบ้าน
ทันเห็นอีกคนไว ๆ ในเรือนเล็ก ในตอนแรกเด็กนั่นไม่ได้อยู่ในสายตาเขาด้วยซ้ำ แต่เมื่อพบเจออีกฝ่ายในสถานบันเทิง เขากลับค้นพบว่าอีกฝ่ายมีเสน่ห์ดึงดูดและเขาก็อยากจะช่วยเธอออกมาจากที่นั่น
“ถ้าฉันไม่ไปเจอเธอเข้าก่อน คิดดูสิว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไร”
“เวต้องขอบคุณคุณศิมากนะคะที่มาช่วย”
“จะดีกว่านี้ถ้าเธอนอนกับฉัน” ชายหนุ่มบอกมาตามตรง
ในฐานะที่เป็นลูกค้า อยากบอกเหลือเกินว่าพนักงานทำงานได้แย่มาก ไม่มีความเป็นมืออาชีพ
“ทำไมเวต้องไปนอนกับคุณ อีกอย่างคุณเป็นว่าที่พี่เขย ทำแบบนี้มันไม่ใช่การนอกใจพี่เขมหรือคะ”
“เขมก็นอกใจฉัน” ศิขรินตอบอย่างไม่ยี่หระ เขาเองไม่อยากจะแต่งงานกับเขมมิกา ถ้าไม่ใช่ประมุขของบ้านหลังนั้นเป็นผู้มีพระคุณและหวังให้ทั้งสองดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน แต่เขารู้ดีว่าเขมมิกามีใครอีกคนเก็บซ่อนไว้ในใจ
“ไม่จริง พี่เขมไม่มีทางนอกใจ”
“เป็นจริง” ร่างสูงตอบ สาวเท้าเข้าไปหาเธอ หญิงสาวเดินถอยหลังจนร่างกายชิดติดผนัง ว่าที่พี่เขยกันเธอเอาไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง
“ถ้าฉันหาหลักฐานว่าพี่สาวเธอนอกใจฉันได้ เธอต้องนอนกับฉัน”
“เวเอาหัวเป็นประกัน พี่เขมไม่มีทางนอกใจ”
ศิขรินเลื่อนมือแกร่งมาสัมผัสใบหน้ามน ใบหน้าคมเคลื่อนหน้าเข้าไปชิดก่อนจะกระซิบข้างหู
“ฉันซื้อตัวเธอมาไม่ใช่น้อย ไม่ได้ให้มาเล่นตุกติกกับลูกค้า อย่างไรวันหนึ่งเธอก็ต้องนอนกับฉัน”
“เวจะยอมนอนกับคุณก็ได้ถ้าหาหลักฐานเจอ”
“ไม่ใช่จะยอมนอนก็ได้...แต่เป็นต้องนอนกับฉันในสักวัน” มือหนาแทบจะบีบลำคอระหงอยู่รอมร่อ ไม่รู้ว่าอีกคนโกรธใครมาจากไหน น้ำเสียงมันถึงเน้นหนักทุกพยางค์
เวนิสตากลืนน้ำลายอึกหนึ่ง เนื่องจากไม่เคยเห็นด้านนี้ของว่าที่พี่เขยมาก่อน
“ตกลง เวจะนอนกับคุณให้เท่ากับราคาที่คุณซื้อ แต่ถ้าพิสูจน์แล้วว่าพี่เขมไม่ได้นอกใจ คุณต้องขอโทษที่มาปรักปรำพี่สาวเว”
“ได้...บอดี้การ์ด...ไปส่งคุณเวซะ” ศิขรินกำชับบอดี้การ์ด ทุกคนโค้งศีรษะให้ก่อนจะพาหญิงสาวออกไปจากสถานบันเทิง