บทที่ 2พ่ายแพ้

1441 Words
ค่ำ รดายังคงนั่งทำงานอยู่ในบริษัทเงียบๆคนเดียว เธอไม่อยากกลับบ้านและยังไม่อยากกลับคอนโดในตอนนี้ เพราะถึงกลับไปเธอก็ยังไม่สามารถหาทางออกให้กับบริษัทของตัวเองได้อยู่ดี สู้เธอนั่งทำงานต่อมันที่นี่และคิดหาวิธีทำให้บริษัทของเธอนั้นกลับมารุ่งเรืองเหมือนเดิมได้จะดีกว่า Rrrr.. ขณะที่หญิงสาวกำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ใกล้ๆก็แผดเสียงขึ้น ทำให้ดวงตากลมที่ดูเหนื่อยล้าละสายตาจากกองเอกสารตรงหน้าให้หันไปมองยังหน้าจอ เธอมองดูรายชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอแล้วถึงกับต้องถอนหายใจแรงๆใส่ ก่อนจะหลับตาลงแล้วทำใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายอย่างรำคาญ (ยอมรับสายฉันแล้วเหรอ) “...” แค่เพียงเธอกดรับ ปลายสายก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะขึ้นทันที (ยอมรับความพ่ายแพ้ในตอนนี้ก็ยังไม่สายนะรดา อย่ามัวแต่ถ่วงเวลา) “คนที่แพ้ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคุณมากกว่า” รดาแค่นเสียงหัวเราะ พลางเชิดใบหน้าขึ้นแล้วเปล่งเสียงอย่างมั่นใจ “คนที่บอกว่าจะไม่ติดต่อฉันมาก่อนหายไปไหนแล้วนะ แบบนี้ใครกันแน่ที่เป็นคนแพ้?” ประโยคเย่อหยิ่งยังคงทำให้ปลายสายดุนลิ้นเข้ากับกระพุ้งแก้ม ไม่มีใครกล้าเท่าเธอแล้ว ไม่มีใครกล้าเหิมเกริมกับเขาทั้งที่รู้ว่าเขาเหนือกว่าเท่าเธอ (แค่ขอร้องฉันรดา ฉันช่วยเธอได้ทุกอย่าง) “ไม่มีวัน” อย่าฝันว่าเธอจะร้องขอความเมตตาจากคนอย่างเขา ไม่มีวัน! (หยิ่งให้มันรู้เวลา ตอนนี้เธอกำลังแย่) บอกเป็นนัยๆว่าอย่าอวดเก่ง ตอนนี้เธอกำลังต้องการเขา “ต่อให้ฉันล้มละลาย ฉันก็ไม่มีวันคุกเข่าอ้อนวอนต่อหน้าคุณแน่คุณภูมินทร์” (ก็ดี เธอทำให้ฉันมั่นใจ) “มั่นใจอะไร” (มั่นใจว่าเรื่องที่ฉันจะทำต่อไปนี้ ฉันสามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องมีความเมตตาใดๆ) “อย่ารังควานฉัน ภูมินทร์” เธอตอบกลับไปเสียงแข็ง (หึ ฉันจะรอวันที่เธอพ่ายแพ้ต่อฉัน รดา) ตี๊ด... สายตัดไปทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ รดาได้แต่กัดฟันกรอกกำโทรศัพท์ในมือแน่นจนคิดว่ามันคงจะแตกละเอียดคามือ เกลียด! เกลียด! สมองเธอมีแต่คำว่าเกลียด เธอเกลียดเขา เกลียดเขาเข้าไส้ ไม่รู้ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แค่อยากเอาชนะเธอเลยต้องเล่นวิธีสกปรก ทุเรศที่สุด! หลังจากที่รู้ว่าอยู่ออฟฟิตต่อไปก็ทำอะไรไม่ได้ รดาจึงเรียกแท็กซี่ให้พากลับมาที่คอนโด คอนโดของเธออยู่ในย่านที่คนพลุกพล่าน แต่เป็นคอนโดที่มีราคาสูงมากที่สุดในย่านนี้เลยทั้งหมด สำหรับเธอแล้วเธอไม่เคยได้อะไรมาได้ง่ายๆ ทุกอย่างเธอสร้างและขนขวายมันมาด้วยตัวของเธอเอง ไม่มีใครซัปพอร์ตและมอบให้เธอด้วยเสน่ห์หาเลยทั้งนั้น แต่ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป เธอก็ต้องพบเจอกับคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ คนที่ทำให้เธอรำคาญมากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ “มาทำไม” มันเข้ามาได้ยังไง นี่คือคำถามเธออยากจะถามออกไปมากกว่า “บอกจะไปรับก็ไม่ให้ไปรับ เลยซื้อของโปรดมาไว้ให้ที่คอนโด” ไรวินทร์ตอบกลับแต่สายตากลับก้มจดจ้องไปที่โทรศัพท์ไม่วางตา “ไม่ได้ขอ ไม่ต้องทำให้ได้ไหม” “เป็นห่วง” “เก็บเอาไว้พอ” ไม่ต้องแสดงให้เธอเห็นมากขนาดนี้ก็ได้ เธอไม่ได้ต้องการ กลับมาคอนโดไม่ได้กลับบ้านก็เพราะอยากอยู่คนเดียว ไม่อยากมีใครรบกวนเข้าใจไหม “ลงทุนไปต่อแถวให้เลยนะเว้ย ไม่ซึ้งเหรอวะ” เงยหน้าขึ้นมาแป๊บนึง เสร็จแล้วก็ก้มลงไปงุ่นอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ในมือต่อ “ขอบใจ” แม้จะไม่ได้ออกมาจากใจก็ตาม “อย่าหนีมาอยู่คนเดียว ถ้าบ้านไม่ได้อบอุ่น ให้วินมาอยู่ด้วยไหม” เขาเป็นห่วงรดาจริงๆ เขาสงสารด้วย ไม่อยากให้คิดมาก “เป็นคนดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” “ตั้งแต่เกิด” ไหวไหล่ตอบอย่างไม่ยี่หระ เอาเถอะ มีแค่มันนี่แหละที่เห็นเธออยู่ในสายตา ยอมๆมันไปบ้างก็คงจะไม่เป็นไร “นั่งอยู่ทำไม ซื้อมาก็ไปเทใส่จานดิ” รดาเดินเข้าไปเตะเข้าที่หน้าขาน้องชายต่างแม่ ก่อนจะใช้สายตาสั่งให้มันไปเทมาให้เธอกิน “ซื้อมาให้ ยังต้องไปเทมาประเคนอีกเหรอวะ” เธอไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ใช้สายตาเป็นคำตอบว่า ใช่ มึงนั่นแหละไปเทมา กูขี้เกียจ จบนะ “ไม่เห็นว่าเป็นพี่สาวนะ” “ทำไม” ช้อนแววตามองมันที่พูดอะไรไม่จบ “จะจับปล้ำทำเมีย” “ทุเรศ!” เป็นคำที่เธอใช้ด่ามันได้บ่อยที่สุดแล้ว วันๆพูดแต่แบบนี้ ไม่รู้ว่ามันเห็นเขาเป็นพี่มันจริงๆหรือเปล่า ไรวินทร์ไม่ได้ถือสา เขาแค่พูดไปอย่างนั้นเพราะอยากทำให้เธออารมณ์ดี ได้ด่าได้ระบายออกมาบ้างดีกว่าเก็บเงียบไว้คนเดียว เขาเข้าใจว่าการเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวมันแย่มากขนาดไหน ลำพังเธอโดนคนที่บ้านด่าทอก็มากพอแล้ว เขาขอเป็นคนหนึ่งที่รักเธอบ้างก็แล้วกัน อย่างน้อยเธอก็เคยแบ่งดินสอยางลบให้ตอนสมัยเรียน ซึ้งในบุญคุณ รดานั่งกินยำร้านโปรดที่น้องชายออกตัวว่ายอมไปต่อแถวซื้อมาให้ การที่วินมาอยู่กับเธอมันก็ดีเหมือนกัน เราสองคนเหมือนเพื่อนที่หยอกล้อกันได้ทุกเรื่อง เขาทำให้เธอไม่เครียด และเธอก็ทำให้เขาไม่ต้องปั้นหน้าทำเป็นคุณหนูของบ้านได้ด้วยเหมือนกัน “เอาไงต่อ” “เรื่อง” เธอถามกลับเพราะอยู่ๆมันก็โพล่งคำถามขึ้นมาไม่บอกไม่กล่าว “บริษัท วินช่วยไหม” “ขอบใจ แต่ไม่ต้องยุ่ง” “อย่าถือสาพ่อกับพี่รินทร์เลย” เขาเองก็ไม่ค่อยถูกกับพี่คนโตเหมือนกัน เขาเลยเข้าใจเธอมาก เพราะมีเธอที่เป็นที่พึ่งและที่ปรึกษามาโดยตลอด ตอนเด็กๆเขาโดนรุรินทร์แกล้งมาตลอด และมีแค่รดาคนเดียวที่เดินเข้ามาช่วยเขาไม่ให้ต้องร้องไห้ เขาจำได้และไม่เคยลืม รดาแค่ฟังเอาหูทวนลม ไรวินทร์มักพูดแบบนี้เสมอ แต่เธอก็อดทนกับเรื่องแบบนั้นมาจนชินแล้ว เธอไม่อยากคิดมากหรือคิดอะไรไปไกล เพราะคิดไปก็เท่านั้น ไม่มีใครเข้าใจเธออยู่ดี นั่งเล่นนั่งกินไปจนหนังจบ เกมจบ ของกินหมด จนไรวินทร์กลับไปเพราะเธอไล่เขากลับ ตอนแรกเขาจะนอนที่นี่กับเธอ ทว่าเธอไม่อยากให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อน อยากอยู่คนเดียวมากกว่า จริงอยู่ที่ห้องมีหลายห้อง ก็เธอไม่อยากให้มีใครอยู่ด้วยอะ อยากอยู่คนเดียวเข้าใจปะ เช้า รดาตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้ง หลายคืนแล้วที่นอนไม่หลับเพราะเครียดมาก อยากเจอทางออก แต่มองทางไหนก็เจอแต่ทางตัน ร่างเล็กลุกออกจากที่นอน เดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายและเตรียมตัวเพื่อไปที่บริษัท เธอมีรถอีกคันจอดที่คอนโดอยู่แล้ว เลยไม่จำเป็นต้องเรียกให้ใครมาคอยรับคอยส่ง “นี่อะไร” รดามองช่อดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน พลางเอ่ยถามเลขาที่เดินเข้ามาพร้อมกันกับเธอ “คุณมินทร์ฝากมาให้ค่ะ” “เอาไปทิ้ง” เธอโยนช่อดอกไม้นั้นให้กับเลขาสาว ก่อนจะสั่งให้เธอนำมันไปทิ้งอย่าให้เธอได้เห็นมันอีก เพราะเธอเกลียดทุกอย่างที่มาจากเขา รดานั่งลงทำงานกับกองเอกสารมากมายต่อ จนกระทั่งเสียงข้อความโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น เธอจึงละสายตาไปมองแล้วต้องถอนหายใจทิ้งจนไม่อยากจะเปิดข้อความนั้นอ่านและตอบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD