1 สารเลว

2356 Words
“คุณเห็นฉันตัวเป็นอะไร ถึงได้ทำกับฉันแบบนี้ ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงขายตัว” ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธจัดพร้อม ๆ กับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มด้วยความแค้นใจ ก่อนที่เธอจะรัวกำปั้นทุบไปที่แผงอกกว้างจนอีกฝ่ายต้องใช้สองมือจับตรึงไว้ติดกับผนังห้อง “ผมไม่เคยมองว่าคุณขายตัวเลยนะ ผมคิดเสมอว่าคุณเป็นคู่ขาที่ดี จะว่าไปผมก็เสียดายเหมือนกันนะ ที่ต้องเลิกกับคุณ เพราะผมคงจะหาคู่ขารสแซ่บถูกใจแบบคุณได้ยาก” “คุณมันเลว!” “แล้วคุณล่ะ ดีกว่าผมตรงไหน นอกจากผม คุณอาจจะมีอะไรกับผู้ชายอีกหลายคนลับผลังผมก็ได้ แล้วจะเอามาอ้างว่าเด็กในท้องเป็นลูกผมเนี่ยนะ คุณมันก็เลวไม่ต่างจากผมนักหรอก” “สารเลว...ไอ้ชั่ว ถึงฉันจะง่าย ฉันก็ง่ายกับคุณคนเดียว ฉันไม่ได้มั่ว ไม่ได้ร่านกับใครก็ได้” “แต่สำหรับผม คุณทั้งง่าย ทั้งร่าน ขนาดอยู่กับผมยังลีลาเด็ดขนาดนี้ มีหรือที่คุณจะมีแค่ผมเพียงคนเดียว” “เลว! แกมันเลว นี่ฉันไปหลงรักผู้ชายเลว ๆ อย่างแกได้ยังไง ถ้าสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของคุณหรือเปล่า ไปตรวจ ดีเอ็นเอ ด้วยกันไหมล่ะ” “ตรวจ ดีเอ็นเอ เหรอ” ร่างสูงเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ก่อนจะพูดต่อ “ไม่มีทาง เพราะผมมั่นใจว่าผมเป็นหมัน และคุณไม่มีทางท้องกับผมเด็ดขาด อีกอย่างผมคิดว่าคุณคงทั้งรักและหลงผมมากเลยสินะ ถึงได้อยากจับผมให้ได้ ผมไม่หลงกลผู้หญิงเจ้าเล่ห์อย่างคุณหรอกนะ” “คนสารเลว!” เธอกัดฟันพูดด้วยความแค้นเคืองพร้อม ๆ กับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด “คุณอยากล้ำเส้นเอง ผมขอโทษด้วยที่ทำให้คุณผิดหวัง แต่ยังไงผมขออวยพรให้คุณหาพ่อให้เด็กในท้องเจอแล้วกันนะที่รัก” เขายิ้มมุมปากอย่างมีชัยก่อนจะปล่อยร่างบางเป็นอิสระ แล้วรีบเปิดประตูจะก้าวออกไปจากห้อง ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะก้าวพ้นประตู เสียงแหลมแสบแก้วหูดังขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว ใบหน้าแดงก่ำด้วยความขึงโกรธ “ถ้าก้าวออกไปจากห้องแม้แต่ก้าวเดียว เราจบกัน และคุณจะไม่มีวันได้เห็นหน้าฉันกับลูกอีกต่อไป” ร่างสูงชะงักไปนิด ก่อนจะก้าวเดินจากอย่างไม่ไยดี ทิ้งให้วารินกรีดร้องดังลั่นด้วยความเจ็บใจ ‘คู่ขาเหรอ’ ‘เขาเห็นเธอเป็นเพียงแค่เครื่องบำเรอให้ความสุขทางเพศแค่นั้นเหรอ’ ‘เรื่องระหว่างเราไม่เคยมีอะไรมากไปกว่าคบเล่น ๆ อย่างนั้นเหรอ’ วารินทรุดนั่งลงบนพื้นปล่อยโฮสะอื้นไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ความเจ็บปวดที่ได้รับในครั้งนี้รวดร้าวรุนแรงราวกับหัวใจกำลังจะแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ ปรินทรเป็นรุ่นพี่มหาลัยที่เธอเคยแอบชอบมาก่อน ครั้นบังเอิญมาเจอกันในผับ หลังจากที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ความรู้สึกดี ๆ ในอดีตก็ผุดขึ้นมากลางใจ พอดีกับวารินในวัยสามสิบปี เพิ่งเลิกรากับแฟนเก่ามาได้ไม่นาน หัวใจหญิงสาวซึ่งกำลังบอบช้ำจึงตกลงคบกับเขาในวัยสามสิบเอ็ดปี แม้เขาจะยื่นข้อตกลงระหว่างการคบกันว่า ‘คบเล่น ๆ’ ก็ตาม แต่เธอไม่คิดเลยว่า... จากที่ตั้งใจจะแค่คบเล่น ๆ ในวันนั้น จะทำให้หัวใจของเธอถลำลึกและรักเขาขึ้นมาจริง ๆ มากกว่าแค่คบไปวัน ๆ เพราะตลอดเวลาหนึ่งปี ที่คบกันมา ทั้งคำพูดหรือการกระทำ ทุกอย่างล้วนเหมือนคนเป็นแฟน ทำให้ความรู้สึกของเธอห่างไกลจากคำว่า ‘คบเล่น ๆ’ กลายเป็นคบจริงจังมากขึ้นทุกที และเธอก็คิดว่าเขาน่าจะคิดและรู้สึกแบบเดียวกับเธอ ทว่าเหตุการณ์เมื่อกี้พิสูจน์แล้วว่า เขาไม่เคยมีเธออยู่ในหัวใจเลยแม้แต่นิดเดียว เธอเป็นเพียงของเล่นคลายเหงา และเครื่องบำบัดความใคร่เพียงแค่นั้น เราเลิกกันแล้ว... วารินไม่คิดเลยว่า วันที่เธอตั้งใจจะบอกข่าวดีกับเขา จะเป็นวันที่เราเลิกกัน เขาคิดจริง ๆ หรือว่าลูกในท้องเป็นของคนอื่น ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็น่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอมีเขาเพียงคนเดียว คนเดียวเท่านั้น ‘เป็นหมันเหรอ’ ‘ถ้าพี่เก่งเป็นหมัน แล้วฉันท้องกับหมาที่ไหน’ หญิงสาวถามตัวเองอย่างเยาะหยัน ความรู้สึกสับสนปนเปวนเวียนอยู่ในห้วงความคิด ก่อนที่เธอต้องชะงักลง เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจึงรีบปาดน้ำตาให้เหือดแห้งเท่าที่จะทำได้ แล้วกดรับสาย “สวัสดีขวัญ” “น้ำ...เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเสียงแกดูแปลก ๆ แกร้องไห้เหรอ” เพียงขวัญถามด้วยความแปลกใจ เมื่อได้ยินเสียงแหบพร่าของอีกฝ่าย และนั่นทำให้วารินไม่อาจเก็บซ่อนความเจ็บปวดได้อีกต่อไป “ขวัญ...พี่เก่ง! ไอ้พี่เก่งมันทิ้งฉันไปแล้ว!” “เดี๋ยวนะ ทิ้งอะไรแก อย่าบอกนะว่า...แกกับพี่เก่งเลิกกันแล้ว” “ใช่แก เพิ่งเลิกกันเมื่อกี้นี้เอง ไอ้พี่เก่งทิ้งฉันกับลูกไปแล้วแก” วารินพยายามกดข่มเสียงสะอื้นสุดกำลัง “อ้าว! ก็ไหนแกบอกว่าวันนี้จะไปบอกข่าวดีเรื่องท้องไม่ใช่เหรอ ทำไมกลายมาเป็นเลิกกันได้ล่ะ” “ฉันบอกไปแล้วว่าฉันตั้งท้องกับเขา แต่ไอ้พี่เก่งกลับหาว่าฉันท้องกับผู้ชายคนอื่น ยังมาบอกฉันอีกนะว่า เขาเป็นหมัน” “อะไรนะ! พี่เก่งเนี่ยนะเป็นหมัน” เสียงอุทานดังลั่นมาทางหูโทรศัพท์ “หมันบ้าบออะไรล่ะ ถ้าพี่เก่งเป็นหมัน แล้วฉันจะไปท้องกับหมาที่ไหน ตั้งแต่คบกันมาฉันก็ไม่เคยไปนอนกับใครนอกจากพี่เก่งคนเดียว คิดจะใช้มุกเป็นหมันเพื่อเขี่ยฉันออกจากชีวิต หึ รู้จักวารินน้อยไปเสียแล้ว” น้ำตายังไม่เหือดแห้งดี หากความโกรธแค้นใจกลับมีมากกว่า ทำให้วารินคิดบางอย่างขึ้นมาได้เพื่อเอาคืนให้สาสม “แกคิดจะทำอะไรน่ะน้ำ เมื่อกี้แกก็บอกเองว่าเลิกกันแล้ว ทำไมแกดูไม่เสียใจเลยล่ะ” “เสียใจสิแก แต่ฉันแค้นใจมากกว่า กล้าดียังไงมาหาว่าฉันท้องกับใครก็ไม่รู้แล้วมาอ้างให้เขารับผิดชอบเป็นพ่อของเด็ก ลูกคนเดียวฉันเลี้ยงได้สบายมาก แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายเลว ๆ แบบนี้ไปมีชีวิตได้อยู่สบายนักหรอก” “น้ำ! ฉันว่าแกใจเย็น ๆ กลับมาคุยกันก่อนดีกว่าไหม อย่าเพิ่งวู่วาม หรือจะให้ฉันไปหาแกก็ได้นะ” “เดี๋ยวฉันไปหาแกเอง แต่ขอทำธุระก่อนนะขวัญ” “น้ำ แกอย่าคิดทำอะไรบ้า ๆ ล่ะ แกอย่าลืมสิตอนนี้แกกำลังตั้งท้องอยู่นะ แกไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วนะ” “เอาน่าขวัญ ฉันไม่ทำอะไรบ้า ๆ หรอก แค่นี้นะ ค่อยเจอกัน” หยาดน้ำตาแห้งเหือดไปแล้ว มีเพียงสายตาเคืองแค้นที่มีต่อผู้ชายสารเลวอย่างปรินทร วารินยอมรับว่า ตั้งแต่เธอเจอเขาปฏิเสธตอกหน้าด้วยมุกเป็นหมัน ถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ ๆ กว่าจะตั้งหลักได้ว่าสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดเพียงเพราะไม่ต้องการรับผิดชอบเธอกับลูก แต่คนอย่างเธอก็มีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่ร้องไห้คร่ำครวญเสียใจกับผู้ชายเลว ๆ นานนัก ถ้าเขาบอกกับเธอตรง ๆ ว่าไม่ต้องการรับผิดชอบเธอกับลูก เธอคงจะไม่ติดใจอะไร ยอมเลิกแต่โดยดี อย่างมากเธอก็หลบไปเลียแผลใจร้องไห้สักสองสามวันเดี๋ยวก็หายดี แต่เขากลับหาว่าเธอมั่ว ร่าน ท้องกับใครก็ไม่รู้ แบบนี้มันหยามน้ำหน้ากันชัด ๆ เป็นหมันเหรอ หมันเทียมน่ะสิ! คนเป็นหมันที่ไหน จะเสกเด็กเข้าท้องฉันได้ล่ะ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย! วารินขับรถมาถึงบ้านใหญ่หลังใหญ่ของวันชัยและแพรพิไลผู้เป็นพ่อแม่ของปรินทร เธอจอดรถก่อนที่จะถึงตัวบ้านเล็กน้อย หญิงสาวนั่งคิดตรึกตรองอยู่พักใหญ่ ก่อนจะมองไปเบื้องหน้าด้วยสายตามุ่งมั่น วารินลงทุนซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่สีขาวเทาดูเรียบร้อยปนเศร้าแทนเสื้อผ้าสีฉูดฉาด แม้แต่ริมฝีปากที่เคยแดงจัดด้วยลิปสติกก็ถูกเช็ดออกแต่งแต้มเพียงลิปมัน ขณะที่ผมสยายปล่อยยาวกลางหลังถูกมัดรวบปล่อยหางม้า เพียงเพื่อให้เธอดูน่าสงสารเรียกร้องความเห็นใจ เธอสำรวจเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยจนแน่ใจแล้ว ก่อนเดินลงจากรถและเดินเข้าไปกดออดหน้าบ้านหลังใหญ่ด้วยสีหน้าหมองเศร้า ไม่นานนักก็มีคนมาสอบถาม ก่อนที่เธอจะแจ้งไปว่า ต้องการมาพบกับแพรพิไล เป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับปรินทรลูกชายของอีกฝ่าย เธอไม่รู้ว่าคนพวกนั้นจะยอมให้เธอเข้าพบหรือไม่ แต่การอ้างชื่อของปรินทร ทำให้เธอยืนรอไม่นานนักก็ถูกเชิญเข้าไปในบ้าน วารินนั่งลงในห้องรับแขก ตรงข้ามกับแพรพิไลที่วางท่าสง่างามดูน่าเกรงขามในที แพรพิไลเป็นคู่ชีวิตของวันชัยผู้เป็นแรงผลักดันอยู่เบื้องหลังและเรื่องทุกอย่างภายในบ้าน จนธุรกิจของเขาประสบความสำเร็จเป็นบริษัทส่งออกรายใหญ่เจ้าหนึ่งในประเทศไทย “เห็นว่าเธออยากพบฉันเพราะมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับปรินทร” “ใช่แล้วค่ะ คุณท่าน” “ในเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกฉัน ทำไมคุณถึงไม่ไปคุยกับเขาโดยตรง ทำไมต้องมาหาฉันถึงบ้านด้วยล่ะ” “ฉันคุยแล้วค่ะ ฉันเจอเขาแล้ว แต่เขาไม่ยอมฟังฉันเลยค่ะ” วารินตีหน้าหมองเศร้าพูดเสียงเครือน้ำเสียงแผ่วเบา “ไหนคุณบอกมาสิว่าเรื่องอะไร ฉันให้เวลาคุณสิบนาที ฉันมีธุระต้องไป” “แค่ห้านาทีก็พอแล้วค่ะคุณท่านคือ...ฉันท้องกับพี่เก่งค่ะ! เด็กในท้องเป็นลูกของพี่เก่ง ตอนนี้ฉันตั้งครรภ์ได้สอง เดือนแล้วค่ะ” แม้คำพูดจะแผ่วเบาหากชัดเจน แพรพิไลถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ “อะไรนะ ท้อง! ท้องกับตาเก่งน่ะเหรอ” “ค่ะคุณท่าน ฉันท้องกับพี่เก่งค่ะ” คำยืนยันทำเอาแพรวิไลนิ่งงันไปพักใหญ่ ความเงียบเข้าปกคลุมทำเอาบรรยากาศการสนทนาเต็มไปด้วยความอึดอัด “คุณบอกว่าคุณท้องกับลูกชายของฉัน ตาเก่งรู้เรื่องหรือยัง” “พี่เก่งทราบแล้วค่ะ ฉันบอกพี่เก่งแล้ว แต่พี่เก่งไม่ยอมรับ หาว่าฉันท้องกับคนอื่น ทั้งที่ตั้งแต่เราคบกันมา ฉันก็มีพี่เก่งเพียงคนเดียว ไม่เคยข้องแวะกับใครเลย แถมพี่เก่งยังบอกอีกว่าตัวเองเป็นหมัน ไม่สามารถมีลูกกับผู้หญิงคนไหนได้ทั้งนั้น ฉันเลยไม่รู้จะทำยังไงมืดแปดด้าน เลยยอมถูกหาว่าเป็นผู้หญิงหน้าด้าน บากหน้ามาเพื่อขอความเป็นธรรมและความเมตตาจากคุณท่านถึงที่นี่แหละค่ะ ฉันอยากให้พี่เก่งตรวจ ดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของพี่เก่งจริง ๆ แต่พี่เขาก็ไม่ยอมท่าเดียว” “อะไรนะ เป็นหมันเหรอ ตาเก่งเนี่ยนะเป็นหมัน มันจะเป็นไปได้ยังไง” “พี่เก่งบอกน้ำแบบนี้เองค่ะ” อีกครั้งที่เธอสะอื้นไห้ออกมาดัง ๆ ด้วยความเจ็บใจปนแค้นใจ ขณะที่สายตาก็คอยลอบชำเลืองมองแพรพิไล เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวตกใจพร้อมกับมือทาบอก วารินรู้ดีว่า แม้คนตรงหน้าจะไม่เชื่อคำพูดของเธอเต็มร้อยแต่อาจทำให้ปรินทรตกอยู่ในที่นั่งลำบากแน่ ๆ ‘ไอ้ลูกตัวดีไปก่อเรื่องมาอีกแล้ว คอยดูนะ กลับมาถึงบ้านเมื่อไหร่จะต้องถามให้รู้เรื่อง’ “แต่คุณท่านอย่าต่อว่าอะไรพี่เก่งเลยนะคะ พี่เก่งคงไม่ได้รักน้ำแล้ว น้ำผิดเองที่หลงรักพี่เก่งฝ่ายเดียว จนปล่อยตัวปล่อยใจให้พี่เก่งไปหมด พอรู้เรื่องเข้าพี่เก่งก็บอกเลิกกับน้ำไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อของลูก น้ำไม่รู้จะทำยังไง จึงยอมบากหน้ามาหาคุณท่านนี่แหละค่ะ” แพรพิไลมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังสะอื้นไห้ปล่อยโฮก็อดสงสารเห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกันไม่ได้ เธอสะกดกลั้นความคุกรุ่นกับข่าวร้ายที่ได้ยินไว้ภายในใจ ก่อนจะพูดออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าเรื่องที่เธอบอกเป็นความจริงหรือเปล่า หรือแค่อยากจะจับลูกชายของฉันเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ฉันคงจะยังเชื่อคำพูดของเธอไม่ได้ คงจะต้องถามลูกชายของฉันก่อน” “เรื่องนั้นน้ำเข้าใจค่ะ” “เอาอย่างนี้ “เธอช่วยจดชื่อจริง ชื่อเล่นและเบอร์โทรศัพท์ให้ฉันหน่อยแล้วกัน ที่ทำงานด้วยนะ ถ้ายังไงเดี๋ยวฉันค่อยติดต่อกลับไปทีหลัง” “ได้ค่ะคุณท่าน” วารินจรดปากกาจดข้อมูลทุกอย่างตามคำขอ ก่อนจะยื่นส่งคืนเจ้าของกระดาษ แล้วขอตัวกลับทันทีที่ภารกิจสั่งลาเสร็จเรียบร้อย ‘อยากดูถูกกันดีนัก อยากรู้เหมือนกันว่าคนเป็นหมันอย่างพี่เก่งจะทำยังไง’ วารินยกยิ้มมุมปากมองไปที่ตัวบ้านหลังใหญ่กับการวางระเบิดครั้งนี้ของตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD