EP.2 ยื่นซองขาว [แก้ไขเพิ่มเนื้อหา]

1148 Words
EP.2 ยื่นซองขาว วีรยาไม่ตอบแต่พยักหน้าช้าๆ อย่างเสียไม่ได้ ยิ่งเห็นทุกคนทำท่าตกอกตกใจเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญ เป็นที่สนใจของ ทุกคน มาเล่าในห้องกาแฟเช่นนี้ เชื่อเถอะว่าไม่เกินเที่ยงข่าวต้องแพร่ออกไปจนรู้ทั่วทั้งบริษัทแน่ๆ ‘มาอวดว่าได้นอนกับคุณภีมแบบนี้ สงสัยไม่รู้เงาหัวตัวเองเสียแล้ว’ แม่บ้านบุญน้อมเดินเข้ามาทำความสะอาดในห้องกาแฟ เมื่อได้ยินวีรยาคุยโอ้อวดเรื่องความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภีมวัจน์ให้พนักงานแผนกบัญชีฟังด้วยท่าทางราวกับนางพญา ก็อดที่จะถากถางด้วยความสมเพชไม่ได้ ‘เอ๊ะ! ป้า ทำไมพูดจาน่าเกลียดแบบนี้ ฉันเป็นเลขาฯ คนสนิทของคุณภีมนะ จะพูดจาอะไรก็หัดใช้หัวสมองคิดเสียบ้าง แล้วป้านั่นแหละย้อนดูเงาหัวตัวเองด้วย ว่าใครกันแน่ที่จะไม่มีเงาหัว’ วีรยาโวยวายเสียงดัง อวดเบ่งต่อหน้าพนักงานคนอื่นๆ ในห้องกาแฟ ด้วยมั่นใจว่าหากมีปัญหาทะเลาะกัน ภีมวัจน์ต้องเข้าข้างเธออย่างแน่นอน ‘ถ้าไม่รู้เรื่องอะไรก็จะบอกให้เอาบุญ เลขาฯ คนไหนที่ยอมขึ้นเตียงกับคุณภีม กี่รายต่อกี่รายก็โดนเชิญออกทั้งนั้น ไม่เชื่อก็คอยดูสิ ฉันทำงานที่นี่มากี่ปีแล้ว เห็นผู้หญิงวิ่งร้องไห้ออกจากห้องคุณภีมมาไม่รู้กี่สิบคน’ แม่บ้านแถลงไข บุญน้อมอายุแค่เพียงสี่สิบแปดปี แต่เพราะทำงานหนักมาตั้งแต่ยังสาว จึงทำให้ดูสูงวัยเกินจริง จนใครต่อใครต่างเรียกว่า ’ป้า’ บุญน้อมก้มลงดึงถุงขยะออกจากถัง ก่อนจะเปลี่ยนถุงดำเปล่ากลับลงไป แล้วสะบัดหน้าเดินออกจากห้องกาแฟไปอย่างรวดเร็ว ‘อีแก่ปากเสีย!’ วีรยาด่าไล่หลังด้วยความเดือดดาล ก่อนจะหันไปฉีกยิ้มให้กับพนักงานคนอื่นๆ ในห้องกาแฟ ‘อย่าไปสนใจเลยนะคะ ป้าแกแก่แล้วก็แบบนี้’ ทว่าพนักงานคนอื่นๆ กลับยิ้มราวกับปลอบใจหญิงสาว วีรยาที่เพิ่งมาทำงานได้เพียงสามเดือนถึงกับใจฝ่อ เพราะนั่นแสดงว่าสิ่งที่แม่บ้านพูดเป็นเรื่องจริง เรื่องจริงหรือไม่นั้นไม่รู้ แต่ซองขาวในมือเธอนั้นเป็นความจริง วีรยาหน้าซีดเผือด มือสั่น ใจสั่นคล้ายจะเป็นลมเสียให้ได้ เธอมองหน้าภีมวัจน์เมื่อเห็นเขานั่งนิ่ง มีเพียงแววตาเย็นชาทอดมองผ่านเธอไปราวกับไม่เห็นเธอมีตัวตน หญิงสาวเจ็บจนแทบกระอักออกมาเป็นเลือด “วีย่าทำอะไรผิดคะคุณภีม ทำไมคุณถึงทำกับวีย่าแบบนี้” เลขาฯ สาวร้องถามเสียงเครือ “เธอไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกวีรยา คนที่ผิดคือฉันเอง” ชายหนุ่มเบือนสายตากลับมามองเลขาฯ ส่วนตัว วีรยาเป็นคนสวย อกอวบอิ่ม เอวคอด สะโพกผาย ตรงใจเขาทุกอย่าง เธอเหมาะกับการเป็นคู่นอนมากกว่าการเป็นเลขาฯ เพราะนอกจากลีลาบนเตียงแล้ว เรื่องงานเธอไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง อ้อ! ยังมีดีอยู่หน่อย คือชงกาแฟอร่อยและถ่ายเอกสารได้ดี! ซึ่งคุณสมบัติแบบนี้ไม่สมควรเป็นเลขาฯ ของเขา เพราะกลายเป็นว่าเธอมาทำให้ผู้ช่วยของเขาต้องทำงานหนักมากขึ้น แทนที่จะช่วยแบ่งเบาภาระผู้ช่วยและคอยประสานงานให้กับเขา แต่กลายเป็นว่าตำแหน่งเลขาฯ ตรงนี้คือตำแหน่งงานจับฉ่าย ชงกาแฟ รับโทรศัพท์ แต่งหน้าสวยคอยเอาอกเอาใจเขาไปวันๆ เมื่อเขาได้รับความไว้วางใจจากคุณปู่ให้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทปัทมนันท์ เขาจึงต้องปรับเปลี่ยนตำแหน่งเลขาฯ ที่เปรียบเสมือนหลุมดำในการทำงานเสียใหม่ ซึ่งก็เป็นจังหวะดีที่เขาพลาดหิ้วแม่เลขาฯ สาวทรงโตขึ้นเตียงพอดี มันสมเหตุสมผลที่จะเชิญเธอออกด้วยข้อเสนอที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธได้ “ฉันผิดที่อดใจไม่อยู่ล่วงเกินเธอไปแบบนั้น ทั้งที่ฉันตั้งกฎเอาไว้ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเลขาฯ เป็นการส่วนตัวอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากมันจะทำให้เสียงานแล้ว ยังอาจทำให้เกิดข่าวเสื่อมเสียออกไปได้ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีทั้งกับเธอและกับฉัน” เอ่ยน้ำเสียงทุ้มเนิบต่ำ พยายามปฏิเสธแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น ใช่! เขาไม่ควรมีข่าวฉาวกับเลขาฯ ไปมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจโดนคุณปู่เรียกไปตักเตือน อย่างกรณีนารีทิพย์...เลขาฯ สาวคนล่าสุดที่วิ่งแจ้นร้องห่มร้องไห้ไปฟ้องคุณปู่ว่าถูกเขาย่ำยี ใช้อำนาจในทางมิชอบข่มเหงรังแกเธอ เมื่อสาสมใจก็บีบให้เธอลาออกจากงาน แถมยังขู่จะฟ้องนักข่าวว่าถูกเขาล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย ทั้งที่เธอเองนั่นละที่สมยอมกระโจนขึ้นเตียง กระโดดขึ้นคร่อมร่างเขาราวกับนางแมวป่า แถมยังฝากร่องรอยความเผ็ดร้อนไว้เต็มแผ่นหลังของเขาอีกต่างหาก แบบนี้น่ะเหรอเรียกว่าล่วงละเมิดทางเพศ น่าขันสิ้นดี! เขาต้องสูญเงินไปถึงยี่สิบล้านบาทเพื่อปิดปากนารีทิพย์...ผู้หญิงจอมมารยา ไม่อย่างนั้นคงเป็นข่าวฉาวโฉ่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอับอายไปทั่วแน่ๆ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เขาโดนคุณปู่คาดโทษอย่างหนัก ดังนั้นเขาจะใช้ไม้แข็งเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะถ้าเขาเจองูพิษอย่าง นารีทิพย์อีก คุณปู่คงมีคำสั่งเด็ดขาดให้เขารับแต่เลขาฯ ผู้ชายเท่านั้น แค่คิดว่าต้องมีเลขาฯ เป็นผู้ชาย บรรยากาศในการทำงานก็แสนจะหดหู่แห้งแล้ง แค่ผู้ช่วยอนันต์เดินตุ้ยนุ้ยไปมา เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นมลพิษทางสายตามากเกินพอแล้ว “โธ่...คุณภีม” วีรยาใจอ่อนยวบเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เราสองคนไม่ผิดหรอกนะคะ ในเมื่อเราสองคนใจตรงกัน เราโหยหากันและกัน” “ฉันถึงต้องให้เธอลาออกจากงานอย่างไรล่ะ ในซองนั้นคือเช็คเงินสดหนึ่งล้านบาท ให้เธอไว้เป็นทุนระหว่างหางานใหม่” “หนึ่งล้านหรือคะคุณภีม” วีรยารีบเปิดซองอย่างรวดเร็ว กวาดสายตาอ่านตัวเลขบนเช็ค นับเลขศูนย์บนเช็คหลายครั้งราวกับกลัวว่ามันจะไม่ครบ “แต่เงินซื้อความรักไม่ได้หรอกนะคะ วีย่าคิดว่า...” หญิงสาวหุบปากเมื่อภีมวัจน์เลื่อนกุญแจรถมาตรงหน้าเธอ “ฉันรู้ว่าเธอฉลาดมากพอที่จะไม่เรียกร้องคำว่ารักจากฉัน วีรยา...เธอรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ของเรา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD