“ใจร้ายมาก… มึงใจร้ายกับกูมาก แต่กูก็ยังคิดถึงมึง สี่ปีที่ผ่านมา มึงคิดถึงกูบ้างไหม…” คำถามนั้นเหมือนก้อนหินหนักที่ทุ่มใส่สุดแรง ผมหลับตา หายใจลึกสุดปอด แล้วตอบไปตามความจริง “คิดถึงสิ...” เธอผละออกมาจ้องหน้าผมนิ่ง ๆ เหมือนพยายามจะเชื่อในคำพูดนั้น แต่สุดท้ายกลับส่ายหน้าพรืด “ไม่จริง มึงโกหก…” หลังมือถูกยกขึ้นมาปาดน้ำตาลวก ๆ สูดน้ำมูกเบา ๆ แล้วพูดต่อด้วยโทนเสียงและอารมณ์ที่เปลี่ยนเป็นสดใสในชั่วพริบตา “แต่ไม่เป็นไร... เดี๋ยวไอ้จ้าวคนนี้จะอยู่ข้าง ๆ มึงเอง” เธอตบอกตัวเองเพื่อยืนยัน ท่าทีทะเล้นแบบนี้ทำให้ผมนึกย้อนไปถึงวัยเด็กเลย พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล และภาพจำของผมคือยัยเตี้ยนี่จะเป็นคนออกโรงปกป้องเพื่อนทุกคนที่กำลังเผชิญหน้ากับอันตรายจนตัวเองเจ็บตัวก่อนทุกครั้ง ผมหลุดยิ้มบาง พลางใช้ท้องนิ้วโป้งเกลี่ยหยดน้ำที่ยังตกค้างบนผิวแก้มขึ้นสีระเรื่ออย่างอ่อนโยน ก็เป็นซะแบบเนี่ย… แล้วใคร

