“ค…คือเราชื่อญาดา”
“เราได้ทำงานกลุ่มเดียวกันเหรอ”
“ใช่!”
“กูจะบ้า” เซนต์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก อย่างน้อยผู้หญิงตรงหน้าก็ไม่ใช่ผีรุ่นพี่อย่างที่พวกเขาทั้งสามกำลังคิด
“ไปคุยกันนอกห้องเถอะ ในห้องวังเวงชิบหาย” ไนท์เสนอความคิดรีบสาวเท้ากึ่งวิ่งกึ่งเดินออกไปจากห้อง นาทีนี้ขอไม่รอเพื่อนก็แล้วกัน ตำนานเรื่องเล่าของรุ่นพี่มันหลอนอยู่ในสมองอันน้อยนิดของเขาจนเริ่มบ้าแล้ว
“ฉันเซนต์ นี่ไนท์ ส่วนไอ้หน้าหล่อที่ยืนเก๊กเธอคงรู้จักเพราะมันเป็นทั้งอดีตเดือนคณะและหนุ่มที่ฮอตที่สุดของคณะเรา”
“อ่อ…ใครเหรอ”
สามเพื่อนสนิทมองตากันปริบๆ ไม่รู้จักเซนต์กับไนท์พวกเขาพอเข้าใจ เพราะพวกเขาสองคนถึงจะหล่อแต่ก็สู้มาวินไม่ได้ แต่กับมาวินนี่สิหนุ่มฮอตเลยนะเว้ย แม่สาวเฉิ่ม เด็กเนิร์ดนี่อยู่คณะเราจริงรึเปล่าว่ะ
“มันชื่อมาวิน”
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน”
“ไปประชุมกันที่ไหน คาเฟ่ หรือเพนท์เฮาส์พวกเรา”
“เอ่อ…คาเฟ่ก็ได้” ญาดา พึมพำเหมือนพูดคนเดียว เสียงของเธอแผ่วเบามากแต่ฟังแล้วกลับคุ้นหูมาวินแปลกๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหน
“เป็นอะไรไอ้วินเจอเด็กเรียนที่เกรดเฉลี่ยชนะมึงศูนย์จุดห้าเข้าไปถึงกับอึ้งเลยสิ ว่าไปญาดาก็เนิร์ดสัส” เซนต์ยกมือขึ้นกอดคอมาวิน เมื่อเห็นสภาพเพื่อนสนิทที่มองตามเรือนร่างบอบบางที่เดินนำไปก่อนหน้า
“หรือมึงเปลี่ยนใจจากเจ้าแมวน้อยแสนเซ็กซี่ในแอคไลฟ์มาเป็นแม่สาวเฉิ่มสุดเนิร์ด”
“ยั่ยเนิร์ดนั่นตกกูไม่ได้หรอก สภาพอย่างกับหลุดมาจากบ้านทรายทอง”
“มึงก็ไปว่าญาดาไอ้วิน หลงรักสาวเฉิ่มสุดเนิร์ดแล้วกูจะซ้ำให้ อย่าลืมว่าเธอต้องอยู่กับเราแบบเห็นหน้าเกือบทุกวันตั้งเทอมนึง”
“ฟังให้ดี ยัยเฉิ่มเนิร์ดญาดาไม่มีทางได้กินกูหรอก” มาวินตอบกลับเพื่อนอย่างมั่นอกมั่นใจ ใครสนยัยนั่นกัน สภาพ!! อย่าว่าแต่อยากลองเลยแค่มองยังเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไม่มีอารมณ์เลยสักนิด
“กินอะไรญาดาเดี๋ยวสั่งให้” เซนต์เอ่ยถาม สาวตาคมจับจ้องเธอที่กำลังค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าใบใหญ่ของตน
“ญาดา!”
“อืม…ว่าไงนะเซนต์” เสียงเรียกของเซนต์ทำให้เธอที่กำลังค้นหากระเป๋าตังอยู่เงยหน้าขึ้นมาสบตาอีกคนด้วยความสงสัย เพราะเขาเรียกเธอดังพอสมควร
“หาอะไรอยู่ แล้วจะกินอะไร”
“กระเป๋าตังนะ เมื่อเช้าเราว่าหยิบมาแล้วนะ”
“เดี๋ยวจ่ายเอง จะเอาไรบอกมาได้เลย”
“ไม่เอาหรอก เราเกรงใจ”
“เรื่องมากจังว่ะ” เสียงบ่นของคนที่นั่งนิ่งมองญาดามาสักพักแล้ว มาวินเห็นท่าทางเซ่อซ่า งึกงักของอีกฝ่ายแล้วมันขัดลูกตาชะมัด
“เราไม่ได้เรื่องมากนะ ก็แค่ไม่อยากให้ใครมาจ่ายเงินให้”
“ไอ้วินกระเป๋า”
“กระเป๋าอะไรของมึง” มาวินมองหน้าเพื่อนด้วยความสงสัย กระเป๋าอะไรของไอ้เซนต์มันอีก แต่ก่อนที่มาวินจะได้คิด เซนต์ก็ก้มมาลวงเอากระเป๋าตังของเขาออกจากกางเกงยีน ไม่พอมันยังชักเอาบัตรเครดิตของเขาออกไปถือโชว์ยัยเฉิ่มญาดาพร้อมประกาศเสียงกร้าวทั้งที่เขายังไม่ได้อนุญาตมันด้วยซ้ำ
“ไอ้วินเลี้ยง”
“…” ญาดาหันมองหน้ามาวิน ใบหน้าหล่อเรียบนิ่งราวกับไม่สนใจทั้งที่นั่นเป็นบัตรเครดิตของเขา
“จะกินอะไรก็สั่งสักที จะทำมั้ยงาน หรืออยากจะมองหน้าฉันอยู่แบบนี้”
“อ่อ…เอาช็อกโกแลตปั่นกับเรดเวลเวท”
“เรดอะไรนะ” เซนต์ทวนซ้ำอีกรอบ เขาไม่ใช่สายหวาน น้อยครั้งจะเข้ามาเหยียบคาเฟ่เพราะเห็นว่าญาดาเป็นผู้หญิงหรอกเขาถึงยอมมา ให้ไปร้านเหล้ายังดีกว่า
“เรดเวลเวท” เสียงเรียบของมาวินเอ่ยบอกเพื่อนที่ทำหน้างงเหมือนหมาไม่มีผิด ที่เขารู้เพราะเจ้าแมวน้อยของเขาชอบกินเค้กเรดเวลเวทเหมือนกันหลายครั้งที่เขานั่งดูไลฟ์ก็มักเห็นยูมิตักมันเข้าปากเสมอ
“อะไรคือเรดเวลเวทไอ้วิน”
“ชีวิต! มึงนั่งเดี๋ยวกูไปเอง” มาวินสายหน้า เอือมระอากับเพื่อนสนิทไอ้นี่มันเจ้าชู้จริงหรือมโนไปเองกันแน่ แค่เค้กที่พวกผู้หญิงชอบกินมันยังไม่รู้จักปกติมันพาผู้หญิงไปไหนของมันว่ะ
“เราไปซื้อเองก็ได้นะ” ดวงตากลมมองนิ่งไปยังคนที่ทำหน้าเอือมระอาสุดๆ บางทีเธอไปซื้อของกินเองน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ก็โดนอีกฝ่ายส่งสายตาดุกลับมา ทำให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้อย่างไม่มีทางเลือก
“นั่ง!” ไอ้พวกนี้น่ารำคาญชะมัด มาวินคิดก่อนจะดึงบัตรเครดิตในมือของเซนต์กลับแล้วเดินหายลับไปตรงหน้าเคาน์เตอร์
ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีมาวินเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับจานเค้กในมือเรดเวลเวทที่ใครบางคนอยากกินถูกวางตรงหน้าเธอ
“ขอบคุณ”
“เริ่มกันเลย คืนนี้เรามีนัดต่อคงไม่นานใช่มั้ยญาดา” ไนท์เอ่ยบอกอย่างไม่สนใจมากนัก นัดที่ว่ามันก็ใช่เรื่องจริงจังก็แค่ร้านเหล้าที่ไปแทบจะทุกวันจนสนิทกับเจ้าของร้านไปแล้วล่าสุด
“อืม ไม่นานหรอก แล้วพวกนายจะรับผิดชอบส่วนไหนกันบ้างบอกมาได้เลย”
“เธอไม่เลือกก่อนเหรอ ทำที่มันง่ายๆ ก็ได้เดี๋ยวอันยากๆ ให้ไอ้วินมันทำ”
“ตีนกูมั้ยไอ้เซนต์ แทนที่อันยากๆ จะให้ยัยเฉิ่มทำ มึงพูดเหมือนตัวเองทำได้” มาวินต่อว่าเซนต์เล็กน้อย ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษให้ผู้หญิงเลือกก่อนแต่สุดท้ายก็โยนส่วนที่ยากมาลงบนหัวเขาอยู่ดี
“เรามีชื่อนะมาวิน”
“รู้แล้ว” มาวินปรายตาคมกริบตวัดมองเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปสนใจแผนงานตรงหน้าต่อ
หลังจากนั้นพวกเขาประชุมงานกันจนจัดแบ่งหน้าที่ทุกอย่างกันเสร็จสรรพ สรุปส่วนที่ยากที่สุดก็ตกเป็นของคนเก่งอย่างญาดาและมาวินส่วนอีกสองคนก็เขียนง่ายๆ