วิวาทในงานวิวาห์

1535 Words
อัศวินยื่นแขนให้เจ้าสาวของตนได้ควงแขนเพื่อที่จะเดินอวดคนทั้งงาน เขาพาพิมภาไปแนะนำกับคนใหญ่คนโตมากมายว่าเธอคือลูกสาวของนายกิตติภพ ซึ่งเป็นนักธุรกิจชื่อดังเหมือนกัน หญิงสาวเจอคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่เป็นเพื่อนเก่าพ่อของตนมากมาย ด้วยไหวพริบทันคนทำให้เธอดูฉลาดเฉลียวมาก แม้จะเป็นในวงสนทนาของคนชั้นสูงหรือพวกนักธุรกิจระดับสูงซึ่งพูดคุยกันด้วยภาษาที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคนทั่วไป แต่ว่าพิมภาสามารถตอบโต้และสนทนาได้อย่างราบรื่นเป็นธรรมชาติ ทำให้อัศวินค่อนข้างรู้สึกทึ่งแล้วก็ภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาดูลักษณะท่าทางของพิมภาก็ค่อนข้างรู้สึกดีอยู่บ้าง แต่พอเห็นทักษะการเอาตัวรอดและเข้าสังคมของเธอแล้ว อัศวินก็รู้ว่าหญิงสาวเป็นคนที่เก่งพอตัว เมื่อเดินทักทายแขกเหรื่อในงานที่มีจำนวนค่อนข้างเยอะพอสมควร พิมภาสะกิดอัศวินแล้วเอ่ยขอตัวว่าอยากจะไปหาน้ำดื่มเย็น ๆ สักหน่อยและเริ่มรู้สึกเจ็บเท้า เนื่องจากเดินค่อนข้างมาก ชายหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไรบอกให้เธอไปหาอะไรดื่มก่อนส่วนเขาจะขอต้อนรับแขกผู้ใหญ่ต่อ พิมภาจึงเดินแยกออกมาเพื่อหาเครื่องดื่มมาจิบเพื่อดับกระหาย เธอมองไปที่อัศวินซึ่งก่อนหน้านี้หญิงสาวค่อนข้างอคติแล้วไม่ค่อยชอบเขาเท่าไร มองว่าอีกฝ่ายฉวยโอกาสหลาย ๆ อย่างโดยเฉพาะการที่จะเข้ามาดูแลกิจการของพ่อ แต่ตอนนี้พิมภามองดูร่างสูงใหญ่ ใบหน้าที่หล่อเหลาและรอยยิ้มของชายหนุ่มที่ดูอบอุ่นจริงใจ ขณะกำลังพูดคุยกับคนอื่น ๆ เขาช่างดูภูมิฐาน ดูดีเหลือเกิน ก่อนที่เธอจะสะบัดหัวเบา ๆ เพราะรู้สึกว่าทำไมจู่ ๆ ตัวเองถึงรู้สึกชื่นชมอีกฝ่ายขึ้นมา ในขณะที่เธอกำลังพยายามหักห้ามความคิดของตัวเอง หญิงสาวไม่ทันรู้ตัวก็มีผู้ชายคนหนึ่งแตะแขนเล็กและออกแรงดึงเบา ๆ ก่อนที่เธอจะไปปะทะอกของอีกฝ่ายอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างบางเมื่อตั้งสติได้ก็ดีดตัวเองออกแล้วชักสีหน้าไม่พอใจเพราะจำได้ว่าเขาคือใคร “ว่าไงครับคนสวย เจอกันอีกแล้วนะ” “ไม่น่าเชื่อว่าคนไร้มารยาทอย่างคุณจะมาเข้าร่วมงานแบบนี้ได้ด้วย” “หึ ๆ เอาจริง ๆ นะ กะอีแค่งานแต่งกระจอกของลูกเมียน้อย เจ้าบ่าวของเธออยู่คนละระดับกับฉันด้วยซ้ำ” “เหอะ” “ไม่เชื่อละสิ เธอรู้จักเจ้าบ่าวของเธอดีขนาดไหนล่ะ ยอมแต่งงานกับมันแบบนี้ ก็คงจะเป็นคนประเภท... คนใฝ่ต่ำกับคนชั้นต่ำสินะ” “คุณมีสิทธิ์อะไรมาดูถูกฉัน มาดูถูกเจ้าบ่าวของฉัน ตัวเองวิเศษมาจากไหน” “ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าหอ ยังไม่ได้จดทะเบียน เธอยังมีสิทธิ์เปลี่ยนใจนะ” “จะให้ฉันเปลี่ยนใจมาแต่งกับคนอย่างนายงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ !” “คนอย่างฉันแล้วมันทำไม คนที่สวยแต่เกรดต่ำแบบเธอ ฉันไม่เสียดายหรอก ดีซะอีกที่ตอนนั้นฉันไม่คว้าเอาเธอมาทำเมียก่อน ไม่งั้นคงรู้สึกเปลืองตัวแย่” พิมภาโมโหจนเผลอกำหมัดแน่น มือไม้สั่นกำลังจะเอ่ยปากตอบโต้เพราะเธอก็ใช่ว่าจะยอมให้ใครมาดูถูกกันง่าย ๆ แบบนี้ ทว่ากลับไม่ทันใครบางคน อัศวินเหวี่ยงหมัดกระแทกเข้าเต็มใบหน้าของอรุณอย่างแรงจนถึงขั้นล้มคว่ำไม่เป็นท่า ท่ามกลางความตกใจของแขกเหรื่อที่อยู่บริเวณโดยรอบ ทุกคนเริ่มหันมาให้ความสนใจ เมื่อรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในงานคล้ายกับมีการทะเลาะวิวาท คนในงานเริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่ เจ้าสาวจึงดึงแขนเจ้าบ่าวเอาไว้แน่นเพราะกลัวเขาจะไปต่อยแขกปากเปราะที่กองอยู่ที่พื้นอีก เธอไม่อยากให้เกิดการวิวาทวิวาทะกันอย่างรุนแรงเกินไปเพราะนี่เป็นงานมงคลจะเป็นการขายหน้าให้กับครอบครัวและวงศ์ตระกูล อาจทำให้เกิดความเสียหายกับทั้งสองครอบครัว อัศวินพยายามข่มใจตั้งสติแล้วถอนหายใจแรง ๆ หลายครั้ง ก่อนที่จะจับมือของเจ้าสาวอย่างพิมภาขึ้น มองไปที่บริเวณรอบ ๆ ก่อนที่จะประกาศเสียงกร้าว “ตอนนี้พิมภา เธอเป็นภรรยาของผม นายอัศวิน สิงหมนตรี ถ้าหากใครไม่อยากมีปัญหากับผม หรือโดนแบบที่ไอ้หมอนี่มันโดน ก็อย่าพูดจาไม่ให้เกียรติภรรยาของผมอีก ถ้าผมได้ยินใครปากพล่อยแบบนี้รับรองได้ว่าไม่จบแค่นี้แน่” บรรยากาศในงานต่างเงียบกริบ มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้ดีว่าอัศวินเวลาที่โกรธนั้นเป็นเช่นไร เขาเป็นนักธุรกิจชื่อดังที่กำลังมีชื่อเสียงในเรื่องของความดุดัน เด็ดขาด และรอบคอบ แถมเบื้องหลังมีข่าวลือว่าชายหนุ่มเป็นมาเฟียในวงการธุรกิจมืด ขึ้นชื่อเรื่องความเหี้ยมโหด ไร้ความปรานี ถ้าหากว่าใครกล้ามาหยามกับเจ้าตัวแน่นอนว่าไม่มีจุดจบที่ดี มีหลายคนที่หลบสายตาและรู้สึกขนลุกขนพอง อัศวินหันไปชี้หน้าชายคนนั้นก่อนตวาดเสียงดัง “เอามันออกไป อย่ามาให้เห็นหน้าอีกเด็ดขาด !” ถึงแม้จะรู้สึกอับอายขายหน้าแต่ความหวาดกลัวมีมากกว่า อรุณที่ดีแต่ปากลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะกลับหลังหัน แล้วเดินออกไปโดยที่ไม่พูดอะไรอีกเลย โดยมีบอดีการ์ดนับสิบล้อมตัวชายหนุ่มออกจากงาน ผู้ที่เป็นพ่อของเขาเองก็อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน จึงได้หลบเร้นกายออกจากงานไปเงียบ ๆ ทุกอย่างจบลงไปด้วยดีเมื่ออัศวินประกาศว่าไม่มีอะไรแล้วให้ทุกคนไปสนุกกับงานและสังสรรค์กันต่อ เชิญดื่มกินกันตามสบาย ทุกคนจึงกลับเข้าสู่โหมดปกติ พูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น กระซิบกระซาบบ้างเป็นบางคราวแต่ไม่มีใครกล้าพูดหรือวิพากษ์วิจารณ์มากนัก อัศวินไปคุยกับนักธุรกิจผู้ใหญ่ต่อ ในขณะที่เพื่อน ๆ ของเจ้าสาวรีบวิ่งกรูกันเข้ามาหาเธอเพื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น พอรู้สถานการณ์เพื่อนทุกคนต่างภาคภูมิใจในตัวเจ้าบ่าวแทนเพื่อนของตน “เจ้าบ่าวของแกสุดยอดไปเลยยัยพิม” ยีนส์รีบพูดขึ้นคนแรก เมื่อดึงตัวเจ้าสาวออกมาคุยด้านนอก “ใช่ เป็นผู้ชายที่สุดยอดจริง ๆ ดุดันน่าเกรงขามเด็ดขาดมากเลยแก” จอห์นเองก็ชื่นชมในตัวเจ้าบ่าวของเพื่อนไม่น้อย “คนแบบนี้สิถึงจะมาเป็นผู้นำได้ เขาเหมาะสมกับแกอยู่นะ ทำไมไม่ลองจีบจริงจังล่ะ” ก้อยเสนอความเห็น “พวกแกก็พูดไปนั่น งานนี้มีแต่แขกผู้ใหญ่มาทั้งนั้น ใครมาดูถูกฉันก็เท่ากับดูถูกเขา เขาก็แค่ทำเพื่อรักษาหน้าตัวเองเท่านั้นแหละ” “มันก็ไม่เสมอไปหรอกแก เขาก็อาจจะทำเพื่อปกป้องแกก็ได้ใครจะรู้ วันนี้แกสวยมากนะ” ก้อยเอ่ยชม “ใช่แล้ววันนี้แกสวยที่สุด ฉันบอกเลย ฉันยอมให้แกสวยกว่าฉันวันหนึ่ง” สาวสองอย่างจอห์นพูดยิ้ม ๆ ให้เพื่อนสาว “ฉันว่าวันนี้หน้าที่เจ้าสาวจบแค่ตรงนี้ แต่หน้าที่ภรรยาหมาด ๆ ตอนเข้าหออย่าลืมทำให้ดีล่ะ” ก้อยแอบกระซิบ “ยัยก้อยแกพูดมากไปแล้ว” พิมภาหันไปแว้ดใส่เพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก “ก็จริงของก้อยมันนะ หน้าที่ภรรยาตอนเข้าหอก็ต้องทำนะสาว” “ยีนส์ แกยังไม่หยุดพูดอีก แกก็รู้ว่าฉันกับเขาแต่งงานกันเพราะอะไร มันจะไม่มีการเข้าหออะไรทั้งนั้นแหละ” พิมภาบอกปัดทุกอย่างที่เพื่อนพูดแล้วก็ยกแก้วแชมเปญดื่มรัว ๆ จากที่คิดว่าตอนแรกจะไม่เมากลับกลายเป็นว่าเริ่มมึนงงและเวียนหัวเล็กน้อยจนอยากจะขึ้นไปพักผ่อน เพื่อนเจ้าสาวเลยพากันแยกย้ายเพื่อให้เจ้าสาวได้พักผ่อน พิมภาเอ่ยลาเพื่อน แล้วเธอก็หันไปมองดูเจ้าบ่าว ร่างสูงยังดูคุยสนุกสนานถึงแม้จะดูท่าทางเหมือนเริ่มเมาและหน้าแดง แต่หญิงสาวคิดว่าเขาน่าจะยังอยู่ต่ออีกนาน จึงเลี่ยงขึ้นไปยังห้องพักก่อน ที่นี่เป็นโรงแรมหรูที่อยู่ในเครือของอัศวินและชั้นบนสุดเป็น private family ซึ่งถูกกันไว้ให้คนในงานโดยเฉพาะ เผื่อมีแขกนอนค้างเพราะเมาหรือกลับไม่ไหว ซึ่งโซนนั้นก็มีห้องแยกเอาไว้ให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวคนละห้องด้วย พิมภาคิดว่าตัวเองน่าจะอยู่ต่อไม่ไหว จึงคิดจะไปนอนก่อนน่าจะดีกว่า ก่อนจะขึ้นลิฟท์ตรงไปยังชั้นบนสุดห้องที่เธอใช้แต่งตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD