องค์นครายืนพินิจดอกไม้ในมือ เมื่อพ่อครู นำมาถวายให้ เมื่อฟ้ามณี ธนัส และเนยกรอบกลับไปแล้ว
“นานมากแล้วที่เราไม่ได้พวกมาลัยจากเจ้า เจ้ายังคงร้อยพวงมาลาได้งดงามมิเปลี่ยนเลย”องค์นคราพูดออกมาแล้วยกพวงมาลัยที่ฟ้ามณีร้อยขึ้นมาดม พวงมาลัยแบบนี้ที่พระองค์เคยได้รับ พวงมาลัยแบบนี้ ที่พระองค์เองก็คิดถึงและอยากได้รับอีกสักครั้ง
เวลาเที่ยงคืน
ฟ้ามณีที่หลับไปแล้วตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน
เธอฝันเห็นผู้ชายร่างกายกำยำหันหลังให้กับเธอ นุ่งโจงกระเบน สวมสังวาลย์คาดเป็นทองทั้งเส้น
แม้เธอนั้นจะเห็นเพียงด้านหลังของชายผู้นี้ แต่ทว่าในความรู้สึกของเธอนั้นช่างคุ้นเคยและคิดถึงเจ้าของแผ่นหลังนี้เหลือเกิน
“เรารู้จักกันใช่ไหมคะ” ฟ้ามณีถามออกมาในฝัน
ชายผู้นั้นยังคงไม่ตอบและทำท่าจะก้าวเดินไป
“อย่าเดินหนีฟ้า” ไม่รู้อะไรดลใจให้ฟ้ามณีในความฝันขึ้นเสียงใส่ชายผู้นั้น แต่ทว่ามันได้ผล เพราะชายผู้นั้นหยุดไม่ก้าวต่อ
“ทำไมพี่ไม่หันหน้ามาเหรอคะ ฟ้ามั่นใจว่าเรารุ้จักกันแน่ๆ แต่ทำไม ไม่ยอมหันมาคุยกับฟ้า”ฟ้ามณีถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ
“เรื่องบางอย่าง ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้แหละดีแล้ว อย่าพยายามตามหาคำตอบอีกเลย เพราะหากน้องไม่หยุดจะเป็นน้องเองนั่นแหละที่เจ็บปวด”คราวนี้ ชายร่างกายกำยำที่ยืนหันหลังให้ ยอมพูดออกมา
“ฟ้าไม่เข้าใจหรอกคะ ว่าพี่พูดอะไร แต่ตอนนี้ ทำไมพี่ไม่หันหน้ามา”ฟ้ามณีถามแล้วเดินไปหาชายร่างกายกำยำผู้นั้น เธอรู้แต่เพียงว่าเธอคุ้นเคยกับชายร่างกายกำยำผู้นี้ และเมื่อได้สนทนากัน เธอยิ่งมั่นใจว่ายังไงก็ต้องเคยรู้จักกันแน่นอน
แต่ทว่า ฟ้ามณียิ่งเดินไปเท่าไหร่ ระยะห่างระหว่างเธอกับชายผู้นั้น ก็ยังคงอยู่เท่าเดิม
“เหนื่อยหรือไม่”เป็นชายผู้นั้นที่ถามออกมา แต่ยังคงหันหลังอยู่
“ทำไมฟ้าถึงเดินไม่ถึงพี่สักทีคะ”
“มันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะเจอหน้ากัน หรือไม่ก็ไม่ควรเจอกันตั้งแต่แรก เป็นพี่ที่ไม่อดทนเอง”องค์นคราบอกกับฟ้ามณีในห้วงของความฝันแล้วก้มมองพวงมาลัยในมือที่ฟ้ามณีเป็นคนร้อย เป็นอีกครั้งที่พระองค์คิดถึงและอยากพบหน้าฟ้ามณี แต่ทว่าทำได้เพียงปรากฎตัวในความฝัน และไม่ยอมให้น้องพบหน้า พระองค์แค่อยากจะมาขอบใจเรื่องพวงมาลาพวงนี้
“ไม่ถึงเวลาอะไรกัน แค่พี่หันมาเราก็เห็นกันแล้ว”
“เราแค่จะมาบอกเจ้าว่าขอบใจสำหรับพวงมาลัยนี้ เจ้ายังคงร้อยพวงมาลัยงดงามไ่ม่มีเปลี่ยน”
“เดี๋ยวนะคะ พวงมาลัยฟ้าให้พ่อครูไปถวายผู้ที่ท่านเห็นควรว่าเหมาะสมนี่คะ”
“ใช่ เขาเลยเอามาถวายเราผู้ที่คุ้มครองเจ้านี่ไง” สิ้นเสียงองค์นครา ฟ้ามณีสะดุ้งตื่น
“ผู้ที่คุ้มครองเราอย่างนั้นเหรอ” ฟ้ามณีทวนคำ
“องค์นครา” เธอเอ่ยเรียกชื่อนี้ออกมา เมื่อเรียบเรียงความตามคำพูดสุดท้ายที่ชายคนนั้นบอก
เธอมั่นใจเหลือเกิน ว่าต้องใช่ ถึงแม้จะเพิ่งเคยได้ยินชื่อแต่ว่าเมื่อเธอได้เจอองค์นคราในห้วงของความฝันนี้ แม้จะเห็นแค่เพียงด้านหลังของท่าน แต่เธอก็รู้สึกว่าคุ้นเคยกับท่านเหลือเกิน เธอเองรู้สึกได้ถึงความใจดี แค่มองท่านจากด้านหลังก็มีความรู้สึกว่าท่านน่าเกรงขาม แต่ฟ้ามณีเองกลับไม่กลัว กลับรู้สึกสนิทคุ้นเคยและไว้ใจ และมั่นใจว่าท่านใจดีเอามากๆเลย
“ถ้าท่านเข้าถึงฟ้าได้ขนาดนี้ ทำไมถึงไม่อนุญาตในฟ้าเห็นหน้าท่านกันนะ แต่ก็ขอบคุณนะคะ ที่ชอบพวงมาลัยของฟ้า” ฟ้ามณีพูดออกมาแล้วล้มตัวลงนอนต่อ เมื่อเธอหลับ องค์นคราก็ปรากฎกายแล้วนั่งข้างๆเธอที่เตียง อย่างที่ชอบทำ
“ก็พี่ไม่อยากให้เจ้ากลับไปจำความเสียใจเดิมๆได้นะสิ ความรู้สึกที่ยุ่งเหยิงซับซ้อน ความรู้สึกที่อดทนและเฝ้ารอ หรือแม้แต่ความรู้สึกที่เสียใจที่มองเห็นคนรักเคียงข้างผู้อื่น ความรู้สึกเหล่านี้ หากใครจะต้องได้รับ ก็ขอให้เป็นพี่ที่ต้องรับมันไว้เอง เจ้าเจ็บปวดเพราะพี่มามากมายเหลือเกินแล้ว จงเป็นมนุษย์ที่มีแต่ความสุขเถิดน้องพี่” องค์นคราพูดออกมาแล้วลูบหัวของฟ้ามณีและมองหน้าเธอที่หลับไหลอยู่อย่างนั้น ความรักที่ไม่ต้องการครอบครอง พระองค์สุขใจมากแล้วเมื่อเห็นคนที่พระองค์รักจะมีความสุขในภายภาคหน้า
เช้า
”ขอโทษนะคะพี่ธนัส ที่ฟ้าจะให้พาไปบ้านพ่อครูแต่เช้า”ฟ้ามณีบอกออกมาเมื่อก้าวขาขึ้นรถของแฟนหนุ่ม วันนี้ในตอนแรกมีเรียน แต่ทว่าอาจารย์ยกคลาสเรียนทำให้เธอว่าง เธอจึงนัดเนยกรอบและน้ำมนต์ไปเจอกันที่บ้านของน้ำมนต์ เพื่ออยากจะเจอพ่อครูและมีเรื่องอยากจะสอบถามอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรเลยครับ น้องฟ้าอย่าคิดมาก พี่เต็มใจ” ธนัสบอกออกมาพร้อมกับยิ้มให้ฟ้ามณีอย่างอบอุ่น
“ขอบคุณนะคะ งั้นเราไปกัน น้ำมนต์บอกว่า แม่ให้ไปทานข้าวเช้าที่บ้าน ไม่ต้องซื้ออะไรเข้าไป”
“ได้เลย ครับ”
“แต่พี่ธนัสคะ เราแวะซื้อของที่ร้านขายพวงมาลัยได้ไหมคะ
“น้องฟ้าจะซื้ออะไรครับ”
“ฟ้าจะร้อยพวงมาลัยอีกครั้งคะ”ฟ้ามณีบอกออกมาในสิ่งที่เธอนั้นตั้งใจ
“ได้ครับ พี่พาไปปากคลองเลยดีไหม”
“ได้เหรอคะ”
“ครับ”
“งั้นไปกันคะ” ฟ้ามณีตอบตกลงแฟนหนุ่ม ที่ไม่เคยขัดใจเธอเลย จนเธอเองรู้สึกว่าค่อนข้างที่จะโชคดีในเรื่องของความรัก