“แล้วแม่นางน้อยนี่คือใครเหรอครับพ่อครู มีตัวตนไหม ในภพชาตินี้ หรืออยู่อย่างองค์ชายเล็ก” ธนัส ถามออกมาอย่างสงสัย เพราะเขาคิดในใจว่า สิ่งที่พ่อครูบรรยาย และเล่าว่าแม่นางน้อยหยาดมณี มีดวงตาที่กลมโตร้อยยิ้มที่สดใส เขาไม่คิดถึงใครอื่นเลย นอกจากน้องฟ้ามณี แล้วชื่อก็กันมาพ้องกันอีกด้วย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าว่าพ่อหนุ่มมีคำตอบในใจแล้วละ” พ่อครูบอกออกมาแล้วอมยิ้ม
ธนัส ยิ้มตอบกลับพ่อครู อย่างรู้กันเพียงสองคน
“พี่ธนัสกับพ่อครูยิ้มแบบรู้กันสองคน แบบนี้ต่อมอยากรู้เริ่มทำงานเลยค่ะ”เนยกรอบบอกออกมาอย่างอยากรู้ แต่ก็ไม่มีใครปริปากบอกออกมาเลย
“แล้วเรื่องราวของพี่ธนัส ที่เป็นอินทุมาลา จบหรือยังครับพ่อครู” เป็นน้ำมนต์ที่ถามออกมา
“ยังหรอก เพียงแต่วันนี้ พ่อหนุ่มนี้ควรรู้เพียงเท่านี้” พ่อครูบอกออกมาแล้วมองไปยังฟ้ามณี
“โอ้ยอดรู้เลยอ่า กำลังสนุก” เนยกรอบบอกออกมาอย่างลุ้นตาม เพราะเรื่องมันเหลือเชื่อเอามากๆ ที่ครุฑจะมาเป็นทหารของนาค
“เอ้านั่งหนูเอ็งอยากรู้อะไร” พ่อครู ถามฟ้ามณีออกมาแล้วยิ้มให้อย่างเอ็นดู
“พ่อครูช่วยขยายความที่ว่า ท่านพญานาคมาคุ้มครองได้ไหมจ๊ะ แล้วฟ้าเป็นใคร สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอคะ ที่พญานาคชั้นราชากษัตริย์ต้องมาคุ้มครอง แล้วท่านชื่ออะไรท่านจะไม่ใจอ่อนบอกจริงๆเหรอจ๊ะพ่อครู”ฟ้ามณีถามออกมาอย่างอยากรู้อีกครั้ง หลังจากที่ถามไปในตอนแรก
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอ็งนะเหรอ สำคัญสิ สำคัญมากด้วย ไม่งั้นท่านไม่ส่งทหารมาอารักษ์ ถึงสามตนหรอก”
“ยังมีอีกเหรอคะ” ฟ้ามณีถามออกมาอย่างแปลกใจ
“ใช่ แต่นั่งหนูเอ็งรู้เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว อย่าถามอะไรอีกเลย ข้าบอกเอ็งได้แค่ว่า ลูกแก้วที่ห้อยคออยู่นั้น จงรักษามันเอาไว้ให้ดี เราไปกินข้าวกันเถอะเด็กๆ” พ่อครูบอกออกมากับฟ้ามณีเพียงเท่านี้
“แต่ฟ้าอยากทราบชื่อจริงๆนี่คะ ท่านไม่เมตตาบอกเหรอ”ฟ้ามณีบอกออกมาเสียงเศร้า
“องค์นครา ท่านชื่อองค์นครา” เป็น ธนัส ที่บอกออกมากับทุกคนในสิ่งที่เขาได้ยินในเสียงในหัว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า มีคนตอบนางหนูแทนข้าแล้ว ถือว่าข้าไม่ได้บอกเกินเลยไปนะท่าน” พ่อครูบอกออกมาอย่างชอบใจ แล้วเดินนำทุกคนไปทานข้าวด้านล่าง
ทุกคนเมื่อได้ยินชื่อองค์พญานาคที่คุ้มครองฟ้ามณี ก็ปกติดี แต่ทว่าฟ้ามณีนั้นสะท้านไปทั้งหัวใจ ความรู้สึกเจ็บลึกแล่นเข้ามาในหัวใจ แต่ไม่ใช่ความรู้สึกเจ็บปวดจากการโกรธเคืองแต่ว่ามันคือความรู้สึกเจ็บแปล๊บจากการพลัดพรากจากสิ่งที่โหยหา แล่นเข้ามาที่กลางดวงใจของเธอ มันเป็นความรู้สึกหน่วงๆ อย่างบอกไม่ถูก ตัวของเธอนั้นชาไปทั้งตัว
“ดวงมณี เป็นอะไร” น้ำมนต์รีบถามเมื่อเห็นอาการของเพื่อนรัก
“ไม่มีอะไร อยู่ๆใจมันหวิวๆนะ เราไปกินข้าวกันเถอะ” ฟ้ามณีบอกเพื่อนพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้
“แน่นะยัยฟ้า” เนยกรอบถามย้ำอีกครั้ง อย่างเป็นห่วง
“อืม แน่ ไปกัน” ฟ้ามณีบอกทุกคน แล้วลุกขึ้นเดินนำ เพื่อนลงไปที่ใต้ถุนบ้านของน้ำมนต์เพื่อกินข้าวเย็น
ธนัส เดินตามฟ้ามณีอย่างเป็นห่วง
“มาๆ เด็กๆ วันนี้แม่ทำหลนปู มีผักเคียงเยอะเลย แล้วก็หมูทอดชาววัง ไข่เจียวปู ทานกันได้ไหมลูก” แม่ของน้ำมนต์ถามออกมาอย่างใจดี
“สบายมากค่ะแม่ ฝีมือแม่อร่อยทุกอย่างเลย” เนยกรอบบอกออกมาแล้วตักหลนปูใส่จานของฟ้ามณี
“พ่อครูครับ แต่ว่าไปชื่อขององค์นครา นี่คุ้นหูมากๆเลย” น้ำมนต์บอกออกมาระหว่างที่ทานอาหารกันอยู่
“บอกกี่ครั้งแล้ว ว่าอย่าเอาเรื่องที่มีคนมาดูดวงมาพูดข้างนอกอย่างสนุกปาก ถึงคนคนนั้นจะเพื่อนของเราก็เถอะ แต่ในเมื่อถามออกมาแล้วพ่อจะตอบ ไม่มีอะไรบังเอิญ มีแต่สิ่งที่ถูกลิขิตไว้แล้ว” พ่อครูเอ็ดน้ำมนต์ยกใหญ่ เพราะอนาคตน้ำมนต์ต้องทำหน้าที่ตรงนี้เหมือนพ่อครู ท่านไม่อยากให้บุตรของท่านเผลอเลอ แม้แต่นิดเดียว
“เอ้ากินๆ อย่ามั่วแต่คุยกันเลย”แม่ของน้ำมนต์พูดออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศอันอึมครึมนี้
“อร่อยมากๆเลยค่ะแม่”ฟ้ามณีชมกับข้าวฝีมือมารดาของเพื่อน และอีกนัยยะนึงอยากสร้างบรรยากาศ ไม่ให้ตึงเครียดด้วย
“กินเยอะๆกันนะลูก” แม่ขอน้ำมนต์บอกออกมาแล้วตักไข่เจียวปูให้น้ำมนต์อย่างเอ็นดู
หลังจากกินอาหารกันเสร็จ ฟ้ามณีและเนยกรอบ อาสาช่วยน้ำมนต์ล้างจาน
“แม่ทำอะไรเหรอคะ” ฟ้ามณีถามแม่ของน้ำมนต์เมื่อเดินออกมาเจอแม่กำลังเตียมดอกไม้
“แม่กำลังจะร้อยพวงมาลัยประดับในห้องของพ่อครูจะลูก ห้องที่พวกหนูเข้าไปกันนั่นแหละ”
“ขอหนูลองช่วยได้ไหมจ๊ะ” ฟ้ามณีเอ่ยออกมาอย่างนึกอยากทำดู
“ได้สิลูก” แม่ของน้ำมนต์หยิบเข็มร้อยพวงมาลัยอันใหม่ให้ฟ้ามณี พร้อมเชือกฟางที่ใช้ร้อย
ฟ้ามณีรับมาแล้วยิ้มกว้าง พร้อมกับหยิบดอกมะลิขึ้นมาร้อยสลับกับกลีบดอกกุหลาบเป็นช่วงๆ เธอร้อยมันอย่างคล่องแคล่ว ทั้งๆที่เธอไม่เคยทำ ไม่นานเธอก็ประกอบมาลัยสามชายเป็นดอกมะลิสีขาวสลับกุหลาบแดงทั้งพวง อุบะเป็นดอกะลิและด้านล่างสุดเป็นดอกกุหลาบสีแดง ทั้งสามชาย เป็นพวงใหญ่งดงาม
“ยัยฟ้า แกร้อยพวงมาลัยเป็นด้วยเหรอ” เนยกรอบถามออกมาอย่างไม่เคยรู้ ว่าเพื่อนรักร้อยพวงมาลัยได้สวยขนาดนี้
“ไม่อะ นี่ครั้งแรกเลย มันรู้สึกว่าอยากร้อยอะ สวยเหรอ” ฟ้ามณีถามเพื่อนออกมาพร้อมร้อยยิ้มละชูพวงมาลัยให้เพื่อนดู
“สวยมาครับ” ธนัส บอกออกมาอย่างชื่นชม
“ฟ้าฝากถวายหิ้งด้วยนะจ๊ะพ่อครู” ฟ้ามณีหันมาบอกกับพ่อครู
“นั่งหนู ถ้าเอ็งไม่ให้ ข้าก็จักขออยู่พอดี” พ่อครูบอกออกมาพร้อมร้อยยิ้มและมองเลยไปด้านหลังของฟ้ามณี ที่มีองค์นครายืนยิ้มอยู่