ตอนที่ 3 ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง

1746 Words
ห้าปีต่อมา ธาราก้าวขึ้นมาเป็นรองประธานบริษัทได้ด้วยความสามารถและได้รับการยอมจากผู้บริหาร เขาปฏิเสธตำแหน่งประธานบริษัทเมื่อสองปีที่แล้ว เพราะว่ายังไม่อยากรับผิดชอบอะไรที่ยิ่งใหญ่ขึ้น และไม่อยากก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดเพราะอยากแสดงความสามารถให้ทุกคนเห็นว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนั้นเสียก่อน ศรศักดิ์จึงดำรงตำแหน่งประธานบริษัทต่อไปเพียงแค่ชื่อ แต่งานทั้งหมดนั้นเขายกให้ธารามีอำนาจแทนเขาทุกอย่าง และคอยเป็นที่ปรึกษาอยู่ห่างๆ เท่านั้น ธารายังไม่แต่งงาน เขาเลือกที่จะมีคู่ควงเพื่อแก้เหงาเป็นครั้งคราวโดยไม่มีการผูกมัดมากกว่า เขาจึงมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่พามาหาความสุขที่ห้องพักส่วนตัวที่เคยอยู่สมัยเรียนอย่างไม่ขาดสาย และแต่ละคนเขานั้นมีสัมพันธ์ด้วยไม่เกินสามเดือนก็เปลี่ยนคนใหม่แล้วเพราะไม่อยากให้ต้องมีเรื่องยุ่งยากตามมาในภายหลัง “นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะพาคุณมานอนที่นี่” ธาราบอกกับเลขานุการของผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทเขาที่กำลังอยู่ในช่วงที่มีความสัมพันธ์กับเขาอยู่ และเธอรู้ดีว่าไม่ควรเรียกร้องอะไร เพราะธาราให้เธอมามากพอตามที่ตกลงกันเอาไว้แล้ว “เสียดายจังเลยนะคะ ที่จะไม่ได้มีความสุขกับท่านรองแบบนี้อีก” เธอบอกพร้อมกับลูบไล้หน้าอกเปลือยเปล่าของเขาหลังจากเสร็จกิจในรอบแรกไปแล้ว ธารายิ้มอย่างพอใจ แต่ลูกอ้อนของเธอมันไม่ได้ผล เขาไม่อยากมีความสัมพันธ์กับใครนานๆ โดยเฉพาะยิ่งเป็นพนักงานในบริษัท เขาให้มากสุดได้แค่เดือนเดียวเท่านั้น “ถ้าเสียดายจะต่ออีกรอบก็ได้นะ ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ธาราบอกแล้วนอนนิ่งๆ รอให้เธอบริการให้เขา เธอดึงผ้าห่มไปกองไว้ข้างเตียงแล้วจัดการเอาถุงยางอนามัยที่อยู่ในลิ้นชักมาจัดการสวมใส่และให้ความสุขกับธาราอย่างที่เขาต้องการ ธารานอนหลับตา ทุกครั้งเขามักจะจินตนาการผู้หญิงเหล่านี้เป็นแก้วกานดาเสมอ เวลาห้าปียังไม่สามารถทำให้เขาลืมความรักและสัมผัสจากแก้วกานดาได้เลย และความโกรธมันทำให้เขาตามหาตัวเธอเพื่ออยากจัดการให้เธอตกเป็นเบี้ยล่างของเขา แต่ก็ยังตามหาไม่เจอ เหมือนว่าชื่อของเธอไม่อยู่ในระบบการจ้างงานของบริษัทใด และที่อยู่ตามทะเบียนบ้านก็เป็นที่อยู่ที่เธอยังไม่ได้แจ้งย้ายออกไป เลยทำให้ตามตัวยาก ธาราครางเบาๆ เมื่อคนที่อยู่ด้านบนขย่มและบดควงเขาอย่างต่อเนื่อง เขากัดฟันแล้วลืมตาขึ้นมาเห็นว่าไม่ใช่แก้วกานดาเขาก็หงุดหงิดเล็กน้อย เขาจับเธอให้นอนคว่ำในท่าคลาน กดหัวลงไปกับที่นอนแล้วสอดใส่จากด้านหลังแล้วกระแทกเข้าไปอย่างดุดันเหมือนกำลังระบายความโกรธกับเธอ หญิงสาวครางลั่นอย่างสุขสมเมื่อเจอรองประธานหนุ่มไฟแรงกระแทกเข้ามาอย่างไม่ยั้ง เธอร้องบอกให้เขาทำแรงขึ้นอีกเรื่อยๆ ธารายกยิ้มอย่างพอใจที่เธอนั้นชอบบทรักที่เขามอบให้ เขากระแทกเข้าไปถี่ๆ อย่างบ้าคลั่งและปลดปล่อยออกมาพร้อมๆ กับเธอ ก่อนจะเหวี่ยงถุงยางอนามัยที่เต็มไปด้วยคราบน้ำคาวทิ้งลงกับพื้นแล้วนอนก่ายหน้าผากโดยมีหญิงสาวนอนกอดเขาเอาไว้อย่างหมดแรง ********************* แก้วกานดาขับรถไปส่งพวงหรีดที่ลูกค้าสั่งแล้วพร้อมกับไปรับลูกชายตัวน้อยกลับจากโรงเรียน ชลธีคือเด็กชายวัยสี่ขวบที่มีหน้าตาน่ารักและช่างเจรจา เขาถูกเลี้ยงดูโดยแก้วกานดาและกาญจนาด้วยความรักและความอบอุ่น และเติบโตขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ เป็นที่รักของทุกคนที่พบเห็น “คุณแม่คะ วันนี้น้องไอซ์เลือดกำเดาไหลสามครั้งนะคะ ทางเราพยายามติดต่อคุณแม่ไปแล้ว แต่ไม่มีใครรับสายเลย” ครูประจำชั้นอนุบาลรายงานเรื่องชลธีให้กับแก้วกานดาได้รู้ “ตายจริง ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าวันนี้ออกไปทำงานข้างนอก แบตโทรศัพท์หมดพอดีเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยดูแลน้องไอซ์ให้” แก้วกานดาบอก แล้วรีบพาชลธีขึ้นรถกลับไปที่บ้านทันที เมื่อไปถึงเธอก็พาลูกชายไปอาบน้ำแล้วเตรียมของใส่ตะกร้าเพื่อไปที่โรงพยาบาล เพราะตอนที่อาบน้ำเลือดกำเดาชลธีไหลอีกเป็นรอบที่สี่ของวัน “แม่ปิดร้านเลยนะคะ แก้วจะพาไอซ์ไปหาหมอ” แก้วกานดาบอกมารดา “ไอซ์เป็นอะไร” กาญจนาถามอย่างตกใจ “เลือดกำเดาไหลสี่รอบแล้วค่ะแม่” แก้วกานดาบอกมารดา “ให้แม่ไปด้วยไหม” กาญจนาถาม “ก็ได้ค่ะ แบตโทรศัพท์แก้วหมด ติดต่อไม่ได้เดี๋ยวแม่จะเป็นห่วงแก้วกับไอซ์เปล่าๆ” แก้วกานดาบอก กาญจนารีบปิดร้านแล้วถือกระเป๋าขึ้นรถเพื่อพาชลธีไปโรงพยาบาลในตัวเมืองทันที “ไอซ์ไม่ฉีดยานะครับ” ชลธีบอกมารดาเมื่อรู้ว่าจะพาไปที่ไหน “ไม่ได้ฉีดครับ พาไปให้คุณหมอตรวจดูเฉยๆ” แก้วกานดาบอกลูกชายแล้วยิ้มให้เขา ชลธีหน้างอ ทุกครั้งมารดาก็บอกเขาแบบนี้แต่เขาก็โดนเข็มจิ้มทุกครั้งที่เธอพาไปโรงพยาบาล พอตรวจเสร็จทั้งสามคนก็เข้าไปฟังผล คิดว่าชลธีไม่น่าจะเป็นอะไรมาก แต่ผลการตรวจนั้นทำให้แก้วกานดาถึงกับแข้งขาอ่อนด้วยความตกใจและคาดไม่ถึง “น้องมีภาวะเลือดจางนะครับ แต่ว่าหมอดูจากค่าเลือดแล้วอยากจะขอตรวจอีกครั้งอย่างละเอียด เพราะน้องอาจเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งถ้าตรวจพบ น้องต้องได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ให้เร็วที่สุด” นายแพทย์วัยกลางคนพูดขึ้น แล้วให้พยาบาลมาเจาะเลือดชลธีอีกครั้งเพื่อเอาไปตรวจอย่างละเอียด ชลธีร้องไห้เป็นรอบที่สองเมื่อโดนเจาะเลือดเอาไปตรวจ แก้วกานดากอดลูกชายแน่น ภาวนาให้ผลตรวจออกมาเป็นแค่โรคโลหิตจางธรรมดาเท่านั้น แต่เหมือนว่าคำภาวนาของเธอจะไม่เป็นผล เมื่อผลเลือดออกมาพบว่าชลธีเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ที่เพิ่งจะแสดงอาการตอนที่เขาอายุสี่ขวบกว่า ทำเอาแก้วกานดาใจหาย กาญจนาเองก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก “มีทางรักษาไหมคะหมอ” “หมอต้องขอตรวจไขกระดูกคุณแม่ว่าเข้ากับน้องได้หรือเปล่า ถ้าเข้ากันได้ก็จะทำการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากไขกระดูกของคุณแม่เอง ค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จรวมถึงค่าพักรักษาตัวก็จะอยู่ที่หนึ่งล้านห้าแสนบาท” เขาบอกเธอ แก้วกานดามือไม้สั่น เงินตั้งเป็นล้านเธอจะไปหาได้จากที่ไหน และที่สำคัญไขกระดูกเธอจะใช้ได้หรือเปล่าเธอก็ไม่รู้ “งั้นหมอเจาะไขกระดูกฉันไปตรวจเลยนะคะ” แก้วกานดาบอกเสียงสั่น นายแพทย์วัยกลางคนพยักหน้า เขาให้พยาบาลพาแก้วกานดาไปที่ห้องผ่าตัดเล็กเพื่อทำการเจาะไขกระดูกออกมาตรวจ ก่อนจะบอกให้เธอกลับไปรอฟังผลที่บ้าน เพราะต้องใช้เวลาตรวจสอบอย่างน้องหนึ่งวัน แก้วกานดาให้ชลธีหยุดเรียนและแจ้งครูประจำชั้นไป เธองดรับงานที่ต้องออกนอกสถานที่และรับจัดดอกไม้ที่ร้านเพียงอย่างเดียวเพื่ออยู่ดูแลชลธีในระหว่างนี้ เมื่อผลตรวจออกแก้วกานดาได้รับแจ้งว่าไขกระดูกของเธอไม่สามารถเข้ากันได้กับลูกชาย ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไขกระดูกที่อาจจะเข้ากันได้คือคนที่เป็นสายเลือดเดียวกัน เช่น พี่น้องที่พ่อแม่เดียวกันหรือว่าพ่อของเด็ก และผู้บริจาคที่มีสเต็มเซลล์จากไขกระดูกที่ใช้ด้วยกันได้ ซึ่งต้องใช้เวลานาน เพราะอาการของชลธีนั้นเริ่มทรุดลงเรื่อยๆ ทำให้แก้วกานดาคิดหนักหากต้องไปขอความช่วยเหลือจากธารา แต่ว่าในเมื่อเขาเป็นทางเลือกสุดท้าย แก้วกานดาก็ต้องทำเพื่อรักษาชีวิตของชลธีเอาไว้ “แก้วจะไปขอร้องธารให้มาช่วยค่ะแม่ ไขกระดูกของเขาอาจเป็นความหวังเดียวของเรา” แก้วกานดาบอกมารดา มองดูชลธีที่นั่งเล่นของเล่นอยู่ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว แต่ก็ยังฝืนเพราะความเป็นเด็กทำให้อยู่นิ่งๆ ไม่ได้ “แล้วเขาจะยอมช่วยเราหรือแก้ว” กาญจนาถามอย่างเป็นกังวล “ไม่รู้ค่ะแม่ แต่มันเป็นทางเลือกสุดท้าย ยังไงแก้วก็จะลองดูก่อน” แก้วกานดาบอกมารดา ธารามีทั้งเงินและคุณสมบัติตามที่เธอต้องการ ถ้าเขายอมช่วยเธอ ต้องแลกด้วยอะไรเธอก็ยอมทั้งนั้น ********************* “ท่านรองคะ มีแขกมาขอพบค่ะ” เลขานุการของธาราเข้ามาบอกเขา เธอมองเขาด้วยสายตาที่ยั่วยวนและให้ท่ามาตลอด แต่ธาราก็ไม่สนใจเธอ เพราะเขาไม่อยากมีสัมพันธ์กับเลขานุการของตัวเอง “นัดไว้หรือเปล่า” ธาราถามโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสารตรงหน้า “ไม่ได้นัดไว้ค่ะ” เธอบอกเขา “งั้นก็ให้นัดไว้ก่อนแล้วค่อยมาวันอื่น” ธาราบอก “ค่ะ เดี๋ยวจะแจ้งคุณแก้วกานดาให้ค่ะ” เลขานุการบอกเขา ธาราชะงักทันทีที่ได้ยินชื่อของแขกที่มาขอพบเขา “เดี๋ยวก่อน เมื่อกี๊คุณบอกว่าใครนะ” ธาราถามเธออีกครั้ง “คุณแก้วกานดาค่ะ แก้วกานดา สุยะระ” “ให้เธอเข้ามา” ธาราบอกเลขานุการด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ วางปากกาในมือลงแล้วปิดแฟ้มตรงหน้าวางไว้ข้างโต๊ะ ใจเขาเต้นแรงเมื่อจะได้เจอแก้วกานดา ผู้หญิงที่เคยดูถูกและทิ้งเขาไป แก้วกานดาก้าวเข้ามาในห้องทำงานของเขา เธอมองใบหน้าของอดีตคนรักด้วยความรู้สึกผิดและโหยหาเขาอยู่ในที แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมารื้อฟื้นความหลัง เธอต้องรีบพูดธุระให้เสร็จ เพราะชลธีอาการเริ่มแย่ลงไปทุกวัน “นั่งลงก่อนสิ แก้วกานดา” ธาราพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา จนแก้วกานดาเริ่มหวั่นใจว่าเขาจะยอมทำตามคำขอร้องหรือเปล่า *********************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD