“คุณท่านรักหยิน..แบบไหนคะ” บางทีเธออาจจะเข้าใจผิดหรือฟังผิดไปก็ได้ ควรถามให้มั่นใจก่อนดีกว่า หยางอี้ขยับทีเดียวก็ไปถึงโซฟาที่หญิงสาวนั่งอยู่ วางมือบนเท้าแขนทั้งสองข้างขังเธอไว้ แล้วโน้มร่างสูงลงไปหาใบหน้านวลที่เงยขึ้นจนคอตั้งฉาก จูบปากที่กำลังจะเอ่ยอะไรออกมาสักอย่างนั้นซะ.. จูบอย่างนุ่มนวลแล้วเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ตามความลุ่มหลง แต่ก็ต้องผละออกอย่างสุดแสนเสียดายเมื่อเธอเริ่มดิ้น “ทีนี้เข้าใจหรือยังว่ารักแบบไหน” เขาถามสาวน้อยที่นั่งหายใจหอบระทวย ใบหน้าแดงก่ำอย่างพึงพอใจ “ค่ะ” หญิงสาวอับอายจนอยากจะหนีไปให้พ้น ๆ ที่ดันเผลอหลุดปากตอบเขา แต่เหนือจากความอับอายก็คือความตื่นเต้นยินดีเป็นที่สุด เพราะเขารักเธอแบบเดียวกับที่เธอรักเขา แต่เธอจะแสดงให้เขารู้ก็คงไม่เหมาะ เธอควรจะตั้งหน้าตั้งตากับการเรียนก่อน ส่วนเรื่องรักเอาไว้เป็นเรื่องรอง “หนูหยิน.. หนูหยิน” เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ได้

