“อีดาว มึงไม่มีสิทธิ์ที่จะมาแย่งลูกค้ากู กูทำงานอยู่ที่นี่มานาน ผู้ชายคนนั้นคือลูกค้ากู มึงมีปัญญามึงควรหาลูกค้าเอง”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนด่าฉัน ว่าฉันไปแย่งลูกค้าของมัน อ้าวอีนี่งงเลยค่ะ ที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้เสนอหน้าไปแย่งลูกค้าของมันมาหรอกนะคะ แต่เขาเข้ามาหาฉันเอง
คนอย่างฉัน ไม่วิ่งไปแย่งลูกค้าใครแน่นอน พวกลูกค้าที่มาหาฉัน เขาพอใจมาเขาถึงมา ฉันไม่ได้บังคับพวกเขามาสักหน่อย ฉันเพิ่งมาอยู่แค่สองวันเองนะ ถ้าฉันอยู่นานกว่านี้ ฉันว่าพวกมันคงจะอกแตกตายแน่ๆ
“แล้วไงคะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” พวกมันมองหน้าฉัน ขณะที่ฉันหันหน้ากลับไปสู้หน้าของพวกมัน
“ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ ว่าพวกกูมีปัญหาอะไร มึงแย่งลูกค้าพวกกูไป มึงรู้ไหมว่าลูกค้าคนนั้นเขาเป็นลูกค้าประจำตัวกู” ฉันยิ้มให้กับพวกมัน แบบหน้าตากวนๆ
"จริงหรอ!! แอ๊ะ... ไม่บอกฉันไม่รู้เลยนะเนี่ย ว้าแย่จังเลยนะ ทำไมฉันเป็นคนแบบนี้นะ"
"อีดาว!"
"แต่ก็นะ" ฉันเว้นวรรคเหยียดยิ้มสมเพช "ฉันไม่ได้เป็นคนวิ่งไปหาเขา เขาเป็นคนวิ่งเข้ามาหาฉันเองนิ ถ้าเธอจะว่าฉันแย่งก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะลูกค้าจะเลือกฉัน ไม่ได้เลือกพวกแก พนักงานในร้านนี้รวมถึงทุกคน ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธลูกค้าที่เข้ามาหาตัวเอง เสียใจด้วยนะ ลูกค้าเขาชอบในลีลาและท่าทางของฉัน ไม่ใช่แก ฮ่าๆ”
ฉันหัวเราะเสียงดัง ก่อนที่จะหันหลังกลับ แต่อีผู้หญิงคนนั้น มันวิ่งมาดักตรงหน้าของฉัน แล้วก็ใช้ฝ่ามือตบเข้ามาที่หน้าฉันเต็มๆ
เพียะ! ใบหน้าของฉันสะบัดไปตามแรงตบ หน้าชาไปทั้งแถบ ฉันหันไปมองหน้ามัน แล้วก็ยิ้มให้มันเหมือนคนโรคจิต
"อย่ามาปากดีกับพวกกู!"
"แล้วมีใครบอกพวกมึงไหมว่าอย่าปากดีกับกู!"
ฉันไม่รอช้าใช้ฝ่ามือของฉันตบเข้าไปที่หน้าของมันทันที ตบเหมือนกับที่มันตบฉัน มีเหรอที่ฉันจะยอมให้มันตบฉันฝ่ายเดียว
คนแบบฉันไม่มีทางยอมให้ใครตบฉัน โดยที่ฉันไม่โต้ตอบอะไรเลยแน่นอน ฉันจะเอาคืนและมันต้องเจ็บกว่าฉัน
“นี้มึงกล้าตบหน้ากูเหรอ” ยังจะมีหน้ามาถามอีกนะว่าฉันตบหน้ามันเหรอ ฉันคงหยอกมันล้อเล่นกับมันล่ะมั้ง
"ใช่... กูตบหน้ามึงไง มีปัญหาอะไรเหรอ ทีมึงยังตบหน้ากูได้เลย ถ้ามึงไม่อยากมีปัญหา ก็อยู่ใครอยู่มัน เพราะกูไม่เคยยุ่งกับใครก่อน แล้วกูก็ไม่เคยยอมใครด้วย... จำใส่หัวมึงเอาไว้”
เพียะ! ฉันตบอีกครั้ง มีคนพยายามจะเข้ามาช่วย ฉันรับชี้หน้าอย่างโกรธจัด พอเห็นท่าทางเอาจริงก็ไม่กล้าเข้ามาช่วย
“อร๊าย กรี๊ด กูจะฟ้องเจ๊ให้เจ๊ ไล่มึงออก”
"เชิญเลย แต่ถ้ามึงทำสำเร็จ ระวังศพมึงไม่สวยนะ กูไม่ปล่อยมึงไว้แน่ ๆ มองหน้าคนอย่างกูเอาไว้ อย่าคิดว่าตัวมึงแน่ ถ้ามึงคิดจะเล่นวิธีสกปรกสกปรก กูฆ่ามึงตายแน่นอน พอดีว่ากูเป็นพวกโรคจิตซะด้วยสิ”
ฉันเดินชนไหล่ของมันอย่างแรง จนมันกระเด็นหลบตัวฉัน คนอย่างฉันเห็นหน้าเงียบๆ ไม่ใช่ว่าจะยอมให้ใครทำร้ายได้อย่างง่ายๆนะ
เพราะคนแบบฉันฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ศักดิ์ศรีฉันก็มีความเท่าเทียม ความเป็นคนแต่ละคนมันก็มีเท่ากัน ทำไมฉันต้องยอมถูกกระทำฝ่ายเดียว
ฉันเดินทำหน้าเซ็งๆ มานั่งลงที่โซฟา ก่อนที่จะมีผู้ชายคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาฉัน อีกแล้วเหรอเนี่ยถ้าฉันปฏิเสธไป มันก็คงจะน่าเกลียดน่าดู
เอาวะอีกคนจะเป็นอะไรไป เจ็บแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ชินเดี๋ยวก็หาย แค่นี้ไม่ตายหรอกเอาเงินไว้ก่อนดีกว่า
"สวัสดีครับ” โห... ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีมาก ฉันแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยนะเนี่ย
"สวัสดีค่ะ” ฉันส่งยิ้มให้กับเขา
"ผมชื่อยะนะครับ เป็นเจ้าของร้านที่นี่ คุณเป็นพนักงานใหม่เหรอ” ห๊ะ... เจ้าของร้าน โอ้มายก๊อด เขาหล่อมากดูดีแล้วก็เท่ห์มาก ใจฉันสั่นหัวใจเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ เมื่อได้สบตากับนัยน์ตาคมเข้มนั้น
"ค่ะ ฉันกับเพื่อนอีกสามคน เพิ่งมาทำงานที่นี่ได้สองวันค่ะ มาทำงานขายบริการค่ะ”
“อ๋อ... ครับ ทำงานที่นี่อยู่สบายๆเลยนะครับ เราทำงานด้วยกันเหมือนครอบครัว ไม่ต้องกลัวหรือว่าไม่ต้องคิดมากนะครับ เพราะถ้าไม่มีพนักงาน ร้านนี้ก็คงไปไม่รอด”
“ค่ะ คุณยะใจดีจังเลยนะคะ” คุณยะหล่อแล้วยังใจดีอีกนะเนี่ย
“ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ ผมแค่เข้ามาทักทาย”
“ค่ะ สวัสดีค่ะ”
ให้ตายสิ!ฉันมีวาสนาได้เจอเจ้าของร้านด้วย พวกนั้นเป็นไงกันบ้างนะ ป่านนี้สงสัยจะได้แขกเยอะ วันๆแทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลย พอเข้ามานั่งที่โซฟา ก็มีแขกมาอ๊อฟออกไปทีละคนทีละคน
มีแขกเยอะก็ดี จะได้มีเงินเยอะๆ จะได้มีคอนโดเป็นของตัวเอง จะได้ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่น แล้วก็จะได้ไม่ต้องเครียดด้วย
ไม่เครียดหน้าตาก็จะสวย หน้าตาก็จะดูมีความสุข ใครต่อใครเห็นก็จะรักก็จะหลง เฮ้อ เกิดมาสวยนี่โคตรลำบากใจเลย
ฉันนั่งลงส่องกระจก ผู้หญิงที่อยู่ในกระจก ทำไมมันน่าตาดีขนาดนี้ว่ะ หลงตัวเองแล้วหนึ่ง
“กูกับมึง มันใช่คนเดียวกันไหมวะ” กระจกที่สะท้อนเงาของฉัน มันทำให้ฉันสัมผัสได้ถึงผู้หญิง อีกคนในอีกด้านของฉัน ฉันนั่งยิ้มแห้งๆ แล้วเบือนหนีหน้าไปอีกทาง
Talkเสือ
สวัสดีครับทุกๆคน ผมชื่อเสือ เป็นเพื่อนไอ้ยะ ไอ้กาย แล้วไอ้ช้าง ไอ้เซน ไอ้คิม
ผมเป็นเพื่อนของพวกมัน ทำงานอยู่ที่เดียวกัน สถานะตอนนี้ผมมีแฟนอยู่แล้วชื่อว่าเหมย ผมกับแฟนเราสองคนรักกันมาก และอีกไม่นานผมกับเธอก็จะแต่งงานกันด้วย
วันนี้เป็นวันเกิดของเหมย เหมยบอกกับผมว่าเหมยอยากให้ผมพาไปเลี้ยงฉลองวันเกิดที่เกาหลี เธออยากไปเที่ยวเมืองสำคัญแต่ผมดันงานยุ่ง เหมยก็เลยต้องเดินทางไปคนเดียว
ผมรู้ว่าเธอคงโกรธผมมาก ผมก็รู้สึกผิดนะ ที่หาเวลาว่างอยู่กับแฟนตัวเองไม่ได้ ทั้งๆที่เป็นวันเกิดของแฟนตัวเองแท้ๆ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจเลย
ที่จริงแล้วผมก็อยากจะไป แต่ผมก็ไปด้วยไม่ได้เพราะงานเยอะ ฟังดูแล้วมันเหมือนข้ออ้างเลย เหมือนผมหาแต่ข้ออ้างเรื่อยเปื่อย แฟนก็สำคัญงานก็สำคัญเหมือนกัน แต่ผมจำต้องเลือกงานก่อน
"ไงวะมึงทำไมนั่งหน้าตาเครียดๆ” เสียงของไอ้คิมเอ่ยขึ้น
“วันนี้เป็นวันเกิดของเหมย กูเป็นแฟนที่แย่มากเลย กูปล่อยให้แฟนกูไปเที่ยวคนเดียว ทั้งๆที่เขาชวนกูไปด้วย แต่กูก็เอาเรื่องงานมาอ้าง กูรู้สึกแย่วะ”
"มึงทำงานมาก็นานนะ มึงน่าจะหาเวลาหยุดพาแฟนมึงไปเที่ยวบ้าง มึงน่าจะหยุดวันนี้แล้วก็ตามเขาไปที่เกาหลี แล้วมึงก็ไปขอโทษเขาซะ งานที่นี่เดี๋ยวกูเคลียร์ให้เอง”
"จะดีหรอว่ะ กูเกรงใจมึงจัง”
"จะเกรงใจทำไม เพื่อนกันนะอย่าคิดมาก มึงไปเถอะ”
“ขอบคุณมากๆนะ งั้นกูฝากด้วยแล้วกัน กูจะไปเก็บของกูจะไปหาเหมยที่เกาหลี ป่านนี้คงนั่งร้องไห้แล้วมั้ง”
“ก็ไม่แน่นะ ผู้หญิงยิ่งน้อยใจเป็นอยู่ด้วย มึงเห็นแฟนกูป่ะ ชิลลี่แม่งขี้งอล น้อยใจเก่งมากกูต้องตามง้อตลอด”
“อื้ม แฟนมึงมันก็เกินไป”
"ไม่เกินไปหรอก เขาบอกว่าผู้หญิงงอนแปลว่าผู้หญิงรัก”
“จริงเหรอวะ”
“จริงสิ กูจะโกหกมึงเพื่ออะไรววะ?”
"งั้นกูไปก่อนนะ" ผมรีบออกจากบริษัททันที เพื่อที่จะกลับบ้าน มาเก็บของ แล้วก็ตามเหมยไปที่เกาหลี ผมจะไปง้อเธอ
ผมต้องให้ความสำคัญเธอมากกว่านี้ ผมกับเธอจะได้ไม่ต้องทะเลาะกันบ่อยๆ จะได้มีปัญหากัน
ผมอยากให้ชีวิตคู่ของผมใช้ชีวิตอย่างราบรื่นแล้วก็มีความสุข แต่ผมไม่รู้ว่าความสุขมันจะอยู่กับผมได้นานแค่ไหน แต่ถึงยังไงผมก็จะรักษามันไว้ให้ได้ แล้วก็จะรักษามันไว้ให้นานที่สุด....