“ถ้าอย่างนั้นฉันคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะใช้หนี้แทนสินะ ที่จริงฉันอยากจะไปแจ้งความให้กระบวนทางกฎหมายได้พิสูจน์ว่าลายเซ็นที่อยู่บนกระดาษนั้นเป็นของปลอมด้วยซ้ำ แต่ฉันรู้ว่าทำไปก็ไรประโยชน์ ฉะนั้นวันนี้ฉันจะจ่ายคืนให้คุณก่อนครึ่งนึงก่อนแล้วอีกสองสามวันฉันจะเอาที่เหลือมาคืนให้ หวังว่าคุณคงจะไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกใช่ไหมคะคุณวายุ”
วายุมองหน้าผู้หญิงที่ดูท่าทางฉลาดไม่น้อยบอกจะใช้หนี้ให้คนอื่นอย่างง่ายดาย และดูจะไม่เดือนร้อนเรื่องเงินนัก เขาอยากรู้ว่าถ้าตัวเองยื่นข้อเสนอบางอย่างให้หญิงสาวคนนี้จะทำยังไงจะตอบตกลงไหม
“ถ้าคุณจะใช้ข้อกฎหมายก็ได้นะผมมีเวลาให้คุณพิสูจน์ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนเลย แต่ผมก็คิดว่าเหมือนคุณที่ว่ามันดูจะเสียเวลาผมเลยมีข้อเสนอมาให้ไม่รู้ว่าคุณจะยอมรับมันหรือเปล่า ถ้าคุณรับข้อเสนอเงินก้อนนี้ผมไม่เอาคืนก็ได้...ว่าไงอยากจะฟังไหม”
“ข้อเสนออะไรคะ” เธอถามแต่ก็ไม่ไว้ใจเขาขนาดที่จะกระโจนลงหลุมที่เขาขุดเอาไว้
“อยู่กับผมสักสามเดือนหรืออาจจะน้อยกว่านั้นก็ได้ เพราะผมเป็นคนขี้เบื่อแล้วหนี้ของเราถือว่าเป็นโมฆะ ตกลงไหม” วายุพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ในใจกำลังยิ้มย่อง เพราะไม่มีใครกล้าปฏิเสธแน่
ทัดดาวชะงักนิ่งไปนิด และเธอสามารถให้คำตอบได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องถามว่าเขาจะให้เธออยู่ในฐานะอะไร
“ขอบคุณสำหรับข้อเสนอที่คุณพูดมานะคะ แต่ดิฉันคงต้องของปฏิเสธ ดิฉันยินดีจ่ายเงินคืนตามจำนวนหนี้สินที่ตัวเองไม่ได้ก่อทั้งหมด
“ทำไม หรือข้อเสนอของผมมันน้อยไป งั้นผมให้เงินเดือนคุณอีกเดือนละห้าหมื่นบาท หรือหลังจากครบสามเดือนคุณจะเรียกร้องอีกเท่าไรก็ว่ามา” วายุเอ่ยอย่างใจป้ำและรู้สึกเสียหน้าที่ถูกปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย
ทัดดาวยิ้มเย็น ๆ แล้วเสียงเรียบนิ่ง “ดิฉันไม่ต้องการอะไรจากคุณทั้งนั้น ขอแค่คุณรับเงินก้อนนี้ไปแล้วเราไม่ต้องมาเจอกันอีกจะเป็นพระคุณอย่างสูง” พูดจบเธอก็วางซองเงินไว้ตรงหน้าชายหนุ่มแล้วลุกเดินออกจากห้องไปทันที
วายุโมโหแกมขบขันเพราะที่ผ่านมามีแต่คนเกรงกลัวทั้งนั้น เพิ่งจะมีหญิงสาวร่างบางที่ตัวเล็กนิดเดียวแต่กล้าปฏิเสธเขา มันทำให้เขาสนุกนึกอยากเอาชนะผู้หญิงคนนี้ให้ได้ ทั้งอยากรู้ว่าทัดดาวจะเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่ใบหน้าเขาก็ยังตีหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะพูดออกมาคนเดียว
“เราได้เจอกันอีกแน่ทัดดาว”
...
“ผู้ชายอะไรหยาบคายที่สุด” ปากบอกชวนไปทำงาน แต่เขาไม่ได้มองหน้าเธอเลยด้วยซ้ำ
วายุนั่งนิ่งดูงง ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขามารู้สึกตัวตอนที่คุณธรรมเดินเข้ามาหานั่นแหละ
“นายครับเป็นอะไรหรือเปล่า”
“นายช่วยตามสืบเรื่องของผู้หญิงชุดขาวที่เพิ่งเดินออกจากห้องฉันไปทีว่าเป็นใครทำงานที่ไหนแล้วก็เรื่องส่วนตัวด้วย ฉันต้องการทุกอย่างด่วนที่สุด”
“ครับนาย” คุณธรรมรับคำสั่งไปอย่างงง ๆ
วายุนั่งลูบคางเป็นอาการที่เขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ตอนนี้ในหัวเขามันขัดแย้งไปหมดสิ่งที่ทัดดาวปฏิเสธและทำมันทำให้เขาทั้งรู้สึกเสียหน้าและสนุก เพราะไม่เคยมีใครขัดใจพอถูกปฏิเสธมันก็เลยรู้สึกแปลก ๆ ความจำเจที่เจอแต่เรื่องเดิม ๆ มันดูมีสีสันขึ้นมา
“คิดว่าหนีผมพ้นหรือไงทัดดาว ยังไงผมต้องทำให้คุณยอมมาอยู่กับผมให้ได้”
...
หลังจากออกจากห้องของผู้ชายหน้าดุแล้วทัดดาวก็มาตามปกรณ์และปนัดดาให้กลับทันที ดูเหมือนว่าปกรณ์เองก็อยากกลับอยู่แล้วเพราะหน้าตาที่เคยหล่อเหลาดูสุภาพตอนนี้บึ้งตึงสุด ๆ ไม่รู้ว่าระหว่างที่เธอเข้าไปข้างในเกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่วนปนัดดาก็ดูจะสนุกสนานจนยังไม่อยากกลับ แต่ก็ต้องกลับเพราะสายตากดดันของชายหนุ่มรุ่นพี่
“ขอบคุณพี่กรมากนะคะที่มาเป็นเพื่อน” ที่จริงปกรณ์ก็อยากจะช่วยเรื่องเงิน แต่เธอไม่อยากรบกวนชายหนุ่มมากเลยตัดสินใจใช้เงินตัวเองดีกว่า
“ไม่ต้องมาขอบคุณหรอกน่า ขึ้นไปพักผ่อนได้แล้วประตูก็ล็อคดี ๆ ห้ามเปิดให้คนแปลกหน้าล่ะเข้าใจไหม”
“รับทราบค่า ยังไงนุ่มฝากไปส่งหญิงด้วยนะคะ”
“ไม่ต้องห่วงรับรองว่าพี่จะส่งเพื่อนเราให้ถึงห้องอย่างปลอดภัย” ปกรณ์รับคำก่อนจะขับรถออกไปเมื่อเห็นว่าทัดดาวเดินเข้าไปในคอนโดแล้ว
ภายในรถหรูเต็มไปด้วยความเงียบและความอึดอัดจนคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เริ่มขยับตัวพร้อมกับยกมือมาปิดช่วงขาที่โผล่ออกจากตัวชุด เพราะสายตาที่คนขับมองมันทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ
“ตอนนี้ทำเป็นดึง ทีตอนอยู่ในผับไม่เห็นจะสนใจดึงเอาแต่เต้นไม่ระวังตัวเองเลย”
ปกรณ์อดพูดไม่ได้เมื่อเห็นว่าปนัดดาพยายามดึงชุดและเอามือมาปิดช่วงขาขาว ๆ เอาไว้
“ไปผับใคร ๆ เขาก็แต่งกันแบบนั้นกันทำไมพี่กรต้องมาว่าหญิงด้วยคะ” ปนัดดาถามด้วยความไม่เข้าใจ ตลอดเวลาที่อยู่ในผับเขาก็เอาแต่พูดบ่นเธอเรื่องชุด แถมยังออกโรงกันท่าผู้ชายที่จะเข้ามาจีบเธอด้วย
“แล้วทำไมต้องไปทำตามคนอื่นด้วยล่ะ ไม่รู้หรือไงว่าแต่งตัวแบบนี้มันอันตราย”
“หญิงไม่ได้แต่งแบบนี้ทุกวันนะคะ ที่แต่งเพราะวันนี้หญิงมากับนุ่มยังไงพี่กรก็คงไม่ปล่อยให้หญิงเป็นอันตรายอยู่แล้ว”
คำพูดลืมตัวของปนัดดาทำให้ปกรณ์ชะงักไปนิดแล้วหันหน้ามามองหญิงสาวข้าง ๆ อย่างรวดเร็ว ด้านปนัดดาเองก็เหมือนจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมาเลยแกล้งพูดเปลี่ยนเรื่อง
“ไฟเขียวแล้วค่ะ”
ไม่นานรถคันหรูก็มาจอดที่หน้าคอนโดของปนัดดา และตอนที่เธอกำลังจะหันมาขอบคุณชายหนุ่มอยู่ ๆ คนขับก็ดับเครื่องยนต์เธอเลยรีบถามทันที
“ดับเครื่องทำไมคะ หรือว่ารถเป็นอะไรหรือเปล่า”
“รถไม่ได้เป็นอะไร แต่พี่จะขึ้นไปส่งหญิงที่ห้องก่อน” ปกรณ์พูด
ปนัดดารีบส่ายหน้าไปมาอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินที่ชายหนุ่มพูด
“ไม่ต้องก็ได้ค่ะหญิงเดินไปเองได้”
“แต่พี่จะเดินไปส่ง ไป ๆ ลงไปได้แล้วจะรีบไปพักผ่อน” พูดจบปกรณ์ก็เปิดประตูรถลงไปยืนรอหญิงสาวทันที
ปนัดดาแม้จะงงแต่ก็รีบเปิดประตูรถตามลงไปก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปด้านในคอนโด ระหว่างที่อยู่ในลิฟต์หญิงสาวก็ทำตัวไม่ถูกนี่เป็นครั้งแรกที่ปกรณ์ขึ้นมาบนห้องเธอแบบนี้ พอลิฟต์เปิดเธอก็พ่นลมหายใจออกมายาว ๆ เหมือนว่าตัวเองกลั้นลมหายใจเอาไว้ เธอเดินนำมาสักพักก็มาหยุดที่หน้าห้องพักเรียบร้อย
+++++