“นายครับผมโทรตามหมอกานต์อีกสักพักคงจะมาถึงนายจะเช็ดตัวเลยไหมครับเดี๋ยวผมตามแม่บ้านให้” เขาเดินเข้าไปถามเจ้านายที่ตอนนี้นอนอ้าปากเพราะหายใจทางจมูกไม่สะดวก
“ใครใช้ให้นายโทรตามหมอกานต์หะ! เห็นฉันไม่สบายไม่มีแรงเลยกล้าขัดใจหรือไง” คนป่วยไม่ยอมสิ้นฤทธิ์โวยวายออกมาเท่าที่แรงจะมี
“คุณทัดดาวสั่งให้ผมตามหมอครับ เดี๋ยวเธอจะเข้ามาดูอาการนายที่นี่ด้วย” นพคุณพูดและต้องรีบกลั้นขำเมื่อเห็นคนป่วยลืมตาขึ้นมาแล้วถามอย่างรวดเร็ว
“อะไรนะทัดดาวจะมาที่นี่!! แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าฉันป่วยหนัก”
“ผมโทรบอกเธอเองครับ”
วายุมองหน้าคนสนิทที่โทรตามทัดดาวก่อนจะเอนตัวนอนและหลับตาลงแล้วพูดออกมา
“เดือนนี้ฉันเพิ่มโบนัสให้สามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นรางวัลที่ทำถูกใจ”
นพคุณหัวเราะเบา ๆ แล้วเดินออกจากห้องไปเพื่อไปรอรับคนที่ทำให้เจ้านายเขายอมให้หมอมาตรวจได้สำเร็จ งานนี้ไม่รู้ว่าวายุจริงจังแค่ไหน แต่เขาก็มั่นใจว่าทัดดาวจะเป็นคนที่สามารถปลดล็อคความรู้สึกในใจของเจ้านายตัวเองได้สำเร็จ แม้จะเพิ่งรู้จักได้ไม่นานก็ตาม
++++++
ทัดดาวขับรถเข้ามาจอดที่หน้าตึกสูงซึ่งเป็นสถานที่นพคุณส่งโลเคชั่นมาให้ว่ามันเป็นที่อยู่ของคนป่วยที่แสนจะเอาแต่ใจ ดูไปแล้วรถยนต์คันเล็กของเธอดูไม่ค่อยเข้ากับที่นี่สักเท่าไร แต่ช่างมันเถอะเธอไม่ได้จะมาอยู่ที่นี่สักหน่อยก็แค่มาปรามเด็กโข่งที่ดูจะดื้อเหลือเกิน
“ทางนี้ครับคุณทัดดาว” เสียงนพคุณดังมาจากอีกด้านหนึ่งของล็อบบี้
“อ้าว คุณลงมารอฉันหรือคะ” เธอเปลี่ยนทิศเดินไปทางที่บอดีการ์ดหนุ่มยืนอยู่ จากตอนแรกเธอจะเดินไปถามพนักงานสาวที่ยืนส่งยิ้มมาให้แต่ไกล
“ใช่ครับ” นพคุณผายมือให้หญิงสาวเดินไปที่ลิฟต์
ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดพนักงานสาวที่อยู่ที่เคาน์เตอร์ก็พากันจับกลุ่มพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีใครไม่รู้ว่าผู้ชายที่เดินเข้าไปในลิฟต์กับหญิงสาวที่แต่งตัวธรรมดาคนนั้นเป็นใคร เขาเป็นลูกน้องคนสนิทของเจ้าของคอนโดนี้และอาศัยอยู่ชั้นบนสุดเป็นห้องที่กว้างที่สุดในตึกนี้อีกด้วย
“ทำไมพนักงานเขาถึงมองฉันแปลก ๆ คะ” ทัดดาวถามเมื่อเข้ามาอยู่ในลิฟต์แล้ว
“เขาคงสงสัยว่าคุณเป็นใครนั่นแหละครับ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้หญิงมาหาเจ้านายที่นี่” นพคุณตอบตามความจริงไม่ได้โกหกแม้แต่นิดเดียว เพราะวายุไม่เคยให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาหาที่นี่เลยสักคน
“คำตอบสมกับเป็นลูกน้องคนสนิทเลยนะคะ” เธออดที่จะพูดแซวชายหนุ่มไม่ได้ คิดว่าเธอจะเชื่อหรือไงดูท่าทางที่หญิงสาวที่เคยแย่งชุดกับปนัดดาก็รู้แล้วว่าคู่นี้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา
นพคุณไม่ตอบแต่ยิ้มน้อย ๆ เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกเขาก็เดินไปเปิดประตูห้องที่ทั้งชั้นมีอยู่ห้องเดียว ด้านหน้าของลิฟต์ก็ทำเหมือนเป็นห้องรับแขกไปในตัว ความใหญ่โตของห้องบ่งบอกให้รู้เลยว่าราคาห้องนี้คงไม่ธรรมดาแน่นอน
“เชิญทางนี้ครับนายนอนอยู่ที่ชั้นสอง” นพคุณเดินนำหญิงสาวให้ขึ้นไปยังชั้นสองทันที และมาเดินมาหยุดที่หน้าห้อง ๆ หนึ่ง ไม่รอช้าเขาเปิดประตูเข้าไปในห้องที่ปรับอุณหภูมิลงต่ำเพราะเจ้าของห้องบ่นว่าร้อน
“ทำไมเปิดแอร์เย็นขนาดนี้ล่ะคะ” คนที่เดินตามหลังพอเจออากาศที่เย็นกว่าข้างนอกมากนักก็ถามออกมา
“นายบ่นว่าร้อนครับเลยปรับในต่ำลง...นายครับคุณทัดดาวมาแล้วครับ” นพคุณเดินไปเรียกเจ้านายที่นอนอ้าปากน้อย ๆ อยู่บนเตียง
“คุณนพคะ ช่วยปิดแอร์ให้ด้วยแล้วห้องน้ำอยู่ไหนคะ” เห็นทีงานนี้จะไม่ง่ายอย่างที่คิดจริง ๆ เสียแล้ว
“คุณทัดดาวจะเอาอะไรครับเดี๋ยวผมเอามาให้”
“ฉันจะเช็ดตัวคุณวายุน่ะค่ะ แล้วนี่โทรตามหมอหรือยังคะ” ทัดดาวถามพร้อมกับวางกระเป๋าลงบนโซฟาสีขาวที่ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นที่เป็นสีดำ
“โทรตามแล้วครับคิดว่าอีกสักพักคุณหมอก็คงจะมาถึง” นพคุณพูดพร้อมกับเอาอ่างน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูมาให้หญิงสาวได้เช็ดตัวเจ้านาย
ทัดดาวเดินไปยืนมองคนตัวโตที่ดื้อไม่ยอมไปหาหมอทั้งที่อาการหนักขนาดนี้ นี่เหรอคนที่น่ากลัวและโหด เธอขยับขึ้นไปนั่งบนเตียงใหญ่แล้วเช็ดตัวหน้าเช็ดตัวเท่าที่จะทำได้ และตอนนั้นเองคนป่วยก็รู้สึกตัวขึ้นมาแล้วก็เห็นว่ากำลังมีคนเช็ดตัวให้อย่างเบามือ แถมยังหลับตาเช็ดอีกต่างหาก
“หลับตาเช็ดมันจะทั่วเหรอทัดดาว” เสียงแหบดังขึ้นทำให้พยาบาลจำเป็นต้องลืมตาขึ้นมามองหน้าคนป่วย
“ถ้าอยากให้ทั่วก็ต้องไปให้พยาบาลที่เขามีประสบการณ์มาเช็ดให้นะคะ คุณจะเอาแบบนั้นฉันจะได้ให้คุณนพคุณจัดการให้” เธอถามชายหนุ่มนึกอยากต่อว่าชายหนุ่ม คนอุตส่าห์เช็ดตัวให้ยังมาบ่นอีก
“ผมพูดนิดเดียวแต่คุณบ่นยืดยาวเลย” วายุพูดแซวพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
ทัดดาวเห็นท่ากลืนน้ำลายก็ลุกไปรินน้ำอุ่นใส่แก้วพร้อมกับหลอดมาให้ชายหนุ่มได้ดื่ม
“ดื่มน้ำก่อนนะคะ”
วายุค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นพอได้ดื่มน้ำอุ่นก็รู้สึกโล่งคอแม้จะเจ็บอยู่บ้างแต่ก็ทนได้ และตอนที่กำลังขยับตัวนั่งตรง ๆ อยู่ร่างสูงของชายหนุ่มก็เซเทมาทางที่ทัดดาวนั่งอยู่ ไม่รู้ว่าคนป่วยแกล้งหมดแรงหรือหมดแรงจริง ๆ ตอนนี้ใบหน้าคมดุวางอยู่บนหน้าอกของทัดดาวพอดิบพอดี
“ไม่ได้จอแบนนี่หว่า ซ่อนรูปไปเบาเลยนะทัดดาว” วายุคิดในใจ แม้จะป่วยแต่ประสาทสัมผัสอย่างอื่นไม่ได้ป่วยตาม ตอนนี้เขารู้แล้วว่าภายใต้เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิดมีของดีซ่อนอยู่
“คุณวายุไม่ต้องมาเนียนเลยนะ ถ้าคุณยังไม่เอาหน้าออกจากหน้าอกฉัน ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้แหละ” แม้จะอายแต่เธอก็ต้องกัดฟันพูดออกมา เพราะไม่มีแรงที่จะผลักเขาให้ลุกขึ้นได้หรอกตัวใหญ่อย่างหมีควาย
พอได้ยินคำว่ากลับบ้านคนป่วยก็ค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นมานั่งโดยมีทัดดาวช่วยพยุงแล้วเอาหมอนใบโตขึ้นมาวางซ้อนด้านหลังให้
+++++