ไกรสรลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ปาริชาตินั่งอยู่คนเดียวบนโซฟา ความเงียบที่เข้ามาแทนที่กลับยิ่งน่าอึดอัดกว่าตอนที่ไกรสรอยู่เสียอีก ปาริชาตินั่งนิ่งราวกับรูปปั้น เธอใช้มือแตะที่สร้อยทองบนลำคอเบาๆ มันเย็นเฉียบ แต่ความรู้สึกที่ได้ยินเมื่อครู่กลับร้อนระอุไปทั่วทั้งใจ เธอคิดทบทวนคำพูดของไกรสรครั้งแล้วครั้งเล่า พยายามทำความเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ “เป็นเมียฉันไหม” คำพูดนั้นยังคงก้องอยู่ในหัว ปาริชาติส่ายหน้า พยายามจะขับไล่ความคิดที่ฟุ้งซ่านออกไป แต่มันกลับยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เธอรักไกรสร รักเหมือนพ่อคนที่สอง รักเหมือนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา แต่มันไม่ใช่ความรักแบบคู่รัก มันไม่ใช่ความรักที่ผู้หญิงจะมอบให้ผู้ชายที่ต้องการจะครอบครองเธอไปทั้งตัวและหัวใจ แต่แล้วเธอก็นึกถึงสิ่งที่ไกรสรพูด “ถ้าเธอเลือกที่จะปฏิเสธ ก็อย่าคิดว่าเธอจะหลุดพ้นจากฉันได้ง่ายๆ นะ” ปาริชาติร

