บัวสิริน สายใย หรือ แป้ง อายุ 22 ปี เธอเป็นคนผิวขาว ผมยาวดำขลับจนถึงกลางหลัง ใบหน้าสวยหวานชวนมองตกเป็นเป้าสายตาได้ง่าย ๆ เจ้าของร่างบางระหงรีบเดินตรงไปยังท่ารถ ริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอคลี่ยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งรอตรงท่ารถกำลังชะเง้อมองหาเธออยู่
“แป้งเร็ว ๆ รถจะออกแล้ว”
“พี่ปกถามเขาแล้วใช่ไหมว่าไปถึงไร่พิศมัยเลยหรือเปล่า”
“ถามแล้ว ถึงเลย”
พี่ชายตัวโตชื่อ ปกเกล้า สายใย ไม่ได้ทำการทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เล่นดนตรีไลฟ์ผ่านสื่อโซเชียลเป็นหลัก หาเงินจากแฟนเพลงกลุ่มเล็ก ๆ ที่คอยส่งของขวัญให้ ถ้าคิดเป็นเงินก็ 100 บาท 200 บาท บางวันก็หลักสิบ
ส่วนตัวเธอเพิ่งเรียนจบพยาบาล ได้ใบประกอบวิชาชีพมาสด ๆ ร้อน ๆ และต้องมาใช้ทุนตามสัญญาที่ให้ไว้กับย่าพิศ ผู้สนับสนุนทุนการเรียนพยาบาลของเธอ
“พี่ปกโทร.หาตากับยายยัง”
“โทร.แล้ว ตากับยายกินข้าวแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ปกกลับบ้านเถอะ แป้งนั่งรถสองแถวต่อไปเอง ถึงท่ารอรถที่ไร่แล้วเดี๋ยวผู้จัดการไร่มารับ”
“พี่ไปนะ มีอะไรโทร.หาพี่”
“ไปเถอะ”
บ้านของเธอเป็นบ้านสวนอยู่อำเภอถัดไป ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก ตากับยายเลี้ยงดูสองพี่น้องมาตั้งแต่เด็ก ๆ คนพี่หัวไม่ดี ชอบดนตรีมากกว่าเลยเรียนแค่ม.6 แล้วออกไปหางานทำตามร้านอาหารเพราะหวังจะได้เป็นนักร้อง
ส่วนเธอเป็นเด็กเรียนดีมาแต่ไหนแต่ไร พอจบ ม.6 ก็สอบติดพยาบาลและยังได้รับทุนพิศมัยซึ่งเป็นทุนสนับสนุนทั้งค่าเทอม ค่าหอพัก และใช้จ่ายอื่น ๆ จนจบหลักสูตรจากย่าพิสมัย ซึ่งเป็นเจ้าของไร่ที่เธอกำลังจะไป แต่มีข้อแม้ว่าหลังเรียนจบต้องไปใช้ทุนเป็นพยาบาลในสถานประกอบการพยาบาลในไร่เป็นเวลา 1 ปี
รถสองแถวพาผู้โดยสารที่มีอยู่ 4-5 คนแล่นไปตามถนนลาดยางอย่างใจเย็น ผู้โดยสารบนรถทยอยลงทีละ 1-2 คนจนกระทั่งเหลือเธอเป็นคนสุดท้าย อยู่ดี ๆ รถก็หยุด มองซ้ายมองขวาอย่างไรก็ยังไม่ถึงไร่พิศมัยแน่ ๆ
“อีหนู”
โชเฟอร์เดินลงมาสะกิดเรียกจากด้านหลัง
“ค่ะคุณลุง”
“จะไปไร่พิศมัยเรอะ”
“ใช่ค่ะ”
“ลงนี่แหละ”
“ถึงแล้วเหรอคะ”
“ที่นี่แหละ ที่ทำการผู้ใหญ่หมู่ 5 เดี๋ยวรถจากไร่พิศมัยก็มาส่งคนงานรอบสุดท้าย เดี๋ยวค่อยติดรถเขาไป”
“อ้าว ก็ไหนลุงบอกว่าสองแถวคันนี้ไปถึงหน้าไร่พิศมัยไงล่ะคะ”
“ก็นี่แหละ ที่บอกอยู่นี่ไง ลง ๆ ๆ ลุงจะรีบกลับบ้าน”
คนขับรถบอกอย่างรำคาญ จุดรอรถหน้าไร่พิศมัยจริง ๆ มันเลยจุดกลับรถไปไกลมาก เหลือผู้โดยสารคนเดียว ต้องย้อนไปย้อนมา ค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายจะเอาอะไรมาคุ้ม
สรุปโดนเทใช่ไหม ? บัวสิรินรีบหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางลงจากรถทันทีเพราะดูจากใบหน้าบึ้งตึงของโชเฟอร์ คงไม่ไปส่งเธอแน่ ๆ
“เข้าไปรอในที่ทำการเลย ฝนจะตกแล้ว”
ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5
อชิระ ยันต์
88/88 ม.8 ต.น้ำท่วมทุ่ง อ.น้ำท่วมทุ่ง
ป้ายขนาดใหญ่โชว์หราอยู่บนขอบกำแพงไม้ผสมปูนสีขาว คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นนามสกุลเพราะเป็นนามสกุลเดียวกับคุณย่าพิศมัย ก็คงจะเป็นญาติกัน
นาฬิกาที่ข้อมือบอกเวลา 18.00 น. คงหมดเวลาทำการแล้ว ถึงได้ดูเงียบขนาดนี้ ด้านนอกรั้วมีศาลารอรถอยู่ตรงนั้น
ภายในรั้วบ้านมีสำนักงานเล็ก ๆ เป็นที่ทำการสำหรับให้ชาวบ้านมาติดต่อ พอมองเลยเข้าไปพบว่ามีบ้านทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้นหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ ด้านหน้ามีสระบัวซึ่งกำลังออกดอกเบ่งบานหลากหลายสีสันทั่วสระมีสะพานไม้ยื่นลงไปกลางสระด้วย
“สงสัยเมียผู้ใหญ่บ้านจะชอบ” บัวสิรินพึมพำกับตัวเอง
สายตาของเธอมองเห็นด้านข้างกำแพงเป็นโรงจอดรถ มีรถจอดอยู่หลายคันตั้งแต่รถกระบะหลักแสนไปจนถึงรถหรูหลักล้าน เธอหยุดความสนใจไว้แค่นั้น แล้วรีบส่งข้อความไปหาผู้จัดการไร่พิศมัยว่ามาถึงแล้ว
แต่ฝ่ายนั้นยังไม่อ่านและยังไม่ตอบ เธอจึงนั่งรอเงียบ ๆ คอยมองรถของไร่พิศมัยที่จะมาส่งพนักงานรอบสุดท้ายตามที่คนขับสองแถวบอก
แม้ย่าพิศมัยจะย้ำแล้วว่าถ้ามีปัญหาให้รีบโทร.แจ้งท่าน แต่ก็ไม่อยากให้เรื่องแค่นี้กลายเป็นปัญหารบกวนท่าน บัวสิรินจึงเลือกที่จะนั่งรอเงียบ ๆ นั่งมองสภาพแวดล้อมแถบนี้ไปด้วย ถือเป็นการเรียนรู้เส้นทางไปในตัว
@ไร่พิศมัย
ห้องผู้จัดการ
อชิระ ยันต์
พอคนร่างสูงเปิดประตูห้องเข้ามาก็ได้กลิ่นของน้ำหอมราคาแพงลอยกรุ่นอยู่รอบตัว ร่างอวบอัดของเด็กเลี้ยงคนโปรดโผเข้าซบผู้จัดการหนุ่มพร้อมเงยหน้าพรมจูบไปทั่วซอกคอ เขาไม่ปฏิเสธสัมผัสแสนเร่าร้อนแต่ยังตอบรับ ประคองกันไปนัวเนียต่อบนโซฟารับแขกกระทั่งอารมณ์เริ่มเตลิดไปไกลจนยากที่จะควบคุม
“ทีหลังอย่ารุกแรงแบบนี้อีก”
“ก็โบว์คิดถึงผู้ใหญ่นี่คะ ไปหาที่บ้านก็เจอแต่ลูกน้อง”
“เรารีบไปกันเถอะ”
“แน่ใจนะคะว่าไปตอนนี้ได้ ตุงเชียว”
ก็ ‘บุณยวีร์’ เด็กเลี้ยงคนสวยแต่งตัวยั่วเพศมาหาถึงที่นี่จนเขาแทบควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่ได้ จึงต้องปล่อยให้อารมณ์พาไปก่อน มือนุ่มนิ่มก็ป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ ซิปยีนไม่ยอมปล่อยและเขาเองก็ไม่ได้ห้าม กลับชอบเสียด้วยซ้ำไป
“ผมขอเช็กโทรศัพท์ก่อน เผื่อมีงานด่วน”
“ก็เช็กไปสิคะ โบว์ขอเช็กลูกชายผู้ใหญ่หน่อย”
มือหนากดดูโทรศัพท์ก็พบข้อความของพยาบาลใช้ทุนที่ย่าฝากฝังเอาไว้
(คุณผู้จัดการคะ หนูอยู่ตรงนี้ค่ะ กำลังรอรถในไร่มาส่งคนงานเที่ยวสุดท้ายค่ะ)
พร้อมแนบรูปถ่ายที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน
“ก็บ้านกูนี่หว่า” พึมพำกับตัวเองเสร็จก็โทร.หาลูกน้องซึ่งน่าจะสุมหัวกันอยู่ในบ้าน
Rrrrr Rrrrr
(ครับผู้ใหญ่)
“พวกมึงออกไปดูที่ศาลารอรถดิ๊ มีคนอยู่ไหม”
(สักครู่ครับ)
ความเสียวแล่นปราดไปทั่วหัวหน่าวเพราะเด็กเลี้ยงคนสวยใช้ปากหยอกล้อกับเป้ากางเกงจนตึงคับหน้าขาไปหมด
[ผู้ใหญ่ขา โบว์แฉะแล้วนะคะ]
(ผู้ใหญ่ มีคนหนึ่งตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ สวย ๆ สวยมากเลย ผมจีบได้ไหมผู้ใหญ่)
“ถ้าใครแตะ มือขาด น่าจะเป็นเด็กของย่าพิศ ถามดูว่าชื่อบัวสิรินไหม”
ผู้ใหญ่อิฐพูดพลางใช้มือข้างที่ว่างกดหัวเด็กเลี้ยงเบา ๆ
..........
(ใช่ครับ)
“รับมาส่งที่ไร่หน่อย บอกว่าย่าพิศให้มารับ”
(ครับ)
“ห้ามแตะ ห้ามจีบ ห้ามแทะโลม ถ้าใครทำ กูกระทืบ”
(ครับผู้ใหญ่)
ตึ๊ด!
“ฮื่อ… ทำไมต้องออกคำสั่งขนาดนั้นคะ ทีกับโบว์ไม่เห็นหวงแบบนี้เลย”
เด็กเลี้ยงคนสวยกระเง้ากระงอด เลิกทำกิจกรรมเสียวทันที เพราะเธอไม่ชอบที่ผู้ใหญ่อิฐแสดงท่าทีปกป้องผู้หญิงคนอื่น
“พยาบาลฝึกงานของคุณย่าน่ะ ท่านฝากเอาไว้”
“คนอื่นก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ จะฝากใครก็ได้นี่คะ ทำไมต้องเป็นผู้ใหญ่ด้วยล่ะคะ”
“ก็ผมเป็นผู้จัดการที่นี่ไง”
“…”
“อย่าทำให้หมดอารมณ์ได้ไหม”
“โบว์ก็มีเรื่องอยากจะถามค่ะ”
“เรื่อง ?”
“ผู้ใหญ่คะ โบว์ได้ข่าวว่าย่าพิศจะหาผู้หญิงแก้ดวงมาแต่งงานกับผู้ใหญ่จริง ๆ หรือคะ” เสียงถามไถ่แฝงความแง่งอนเอาไว้นิด ๆ ก็เธอได้ยินมาแบบนั้นจริง ๆ
ร่างอวบรีบซุกกายเข้าหาอกอุ่นพลางเงยหน้ามองคางสากหนวดที่เธอชอบที่สุดเวลาเขาลากไล้ไปตามผิวกายของเธอ ริมฝีปากสวยขบเม้มที่ติ่งหูหนาแล้วใช้ลิ้นสะบัดเลียไปมาสลับกับดูดดุน ส่วนมือก็เอื้อมลงไปปลุกท่อนเนื้อไร้กระดูกอีกครั้ง
“อืม…ไม่นี่ ย่าพิศหาให้เจ้าผาต่างหาก ย่าเขามีความเชื่อเรื่องดวงแบบนั้น”
มือหนาลากไล้สะเปะสะปะไปทั่วร่างอวบ อารมณ์ถูกปลุกจนเตลิดไปไกล แต่ก็ยังได้ยินสิ่งที่หญิงสาวถาม จึงเผยอปากตอบเพียงเล็กน้อยเพื่อตัดความรำคาญ
“แล้วผู้ใหญ่จะไม่คัดค้านแทนพี่ผาหน่อยหรือคะ”
“ทำไมต้องคัดค้าน”
“คนเราจะอยู่กินกันฉันผัวเมียก็ต้องมีความรักเป็นส่วนประกอบนี่คะ”
“ฟังดูโบว์เป็นห่วงเจ้าผาจังเลยนะ”