-อันนา-
ตึก~ตึก~ตึก~
ฉันเดินมาเข้าห้องน้ำ หลังจากนั่งดื่มอยู่พักใหญ่ๆ แต่เชื่อไหมว่าฉันเห็นพี่ราเมศ ควงแขนมากับเลขาคนสนิทของเขานั่นแหละ
“ไหนบอกว่าอยากอธิบายอะไรไง ”
ฉันแอบเดินตามไปยังอีกฝั่งของผับ ก็ไม่รู้จะเดินตามมาทำไมนะ มาตอกย้ำตัวเอง มาเห็นอีกครั้งให้สะใจ พี่ราเมศกับเลขาเดินเข้าไปในห้องVVIP ฉันเดินตามมาจนถึงหน้าห้อง ตอนแรกว่าจะเดินกลับ แต่ด้วยความอยากรู้ จึงแอบแง้มประตูเข้าไป
“คนที่คุณบอกว่าจะส่งเข้าไปทำลายระบบบริษัทไอ้ปกป้อง ตอนนี้เข้าไปรึยัง ”
“เข้าไปแล้วครับท่าน แต่ตอนนี้ติดปัญหานิดหน่อย ผมกำลังเร่งจัดการ ”
“ดี…อย่าให้พลาดหละ ไม่งั้นตำแหน่งผู้บริหารของคุณ อาจจะอยู่ได้ไม่นาน ”
ฉันถึงกับต้องรีบเอามือปิดปาก แล้วรีบถอยออกจากประตู ทำลายระบบงั้นเหรอ
ปัง!!
“เสียงใคร ไปดูซิ ”
แย่แล้ว ฉันเผลอทำประตูปิดเสียงดัง จนต้องรีบวิ่งหนีออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด
ตึก~ตึก~ตึก~
ปึก
“ว้าย!!”
แต่ในจังหวะเร่งรีบ ฉันก็ชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครบางคน จนฉันต้องร้องขึ้นด้วยความตกใจ เพราะฉันกำลังจะล้ม ดีที่เขากอดไว้ทัน แต่กลิ่นหอมนี่มันคุ้นๆแฮะ ฉันรีบเงยหน้าขึ้นมองก่อนเห็นว่าเป็นใคร
“ปอร์เช่”
“ซุ่มซ่ามจริงๆ ”
ฉันไม่เสียงบ่นพร้อมหน้าดุๆนั่นซักนิด สนแค่ชายชุดดำกำลังเดินรีบๆตามมา
“อย่าพึ่งพูดอะไร ช่วยกอดฉันที ”
“อะไรของคุณว่ะ ”
“บอกให้กอดก็กอดสิ!!!”
ฉันพูดขึ้นเสียงดัง ปอร์เช่ถอนหายใจแต่ก็ยอมกอด ฉันยืนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดน้องชายเพื่อนอยู่พักใหญ่ๆ ทั้งตกใจทั้งช็อกกับสิ่งที่ได้ยินมา คนที่จะส่งเข้าไปในบริษัทพ่อปกป้องที่พี่ราเมศกับบุคคลนิรนามพูดถึง คงไม่ได้หมายถึงฉันหรอกนะ ฉันสับสนไปหมดแล้วบอกตรงๆ
-ปอร์เช่-
“พวกมันไปแล้ว ”
ผมรีบปล่อยกอด เมื่อเห็นว่าชายชุดดำไปแล้ว
“ขอบใจ”
อันนาพูดเสียงเบา และดูนิ่งไป
“แล้วไปทำอะไรมา ถึงได้มีคนตามแบบนี้ ”
หมับ~
“อยู่เฉยๆ ”
อันนาไม่ตอบ แต่กอดผมอีกรอบ พร้อมบอกผมให้อยู่เฉยๆ ตั้งแต่รู้จักกับยัยนี่ผมเปลืองตัวชิบหาย หมดแล้วสิ่งที่ผมหวงแหนมาตลอดชีวิต22ปีของผม อันนากอดผมแน่น และมองไปยังหน้าห้องVVIPของผับเฮียไดม่อน ผมพอเข้าใจละ ที่แท้ก็แอบตามมาดูแฟนนี่เองผมจำได้ แต่แฟนอันนาเดินควงกับสาวสวยอีกคน น่าจะรักสามเศร้ารึเปล่าไม่แน่ใจ
“รักเขาขนาดนั้น ทำไมไม่ปรับความเข้าใจกันว่ะ
จะแอบตามมาดูทำไม โคตรน้ำเน่าเลย ”
ถ้าเป็นพี่สาวผมนะ ผมจะจับตีก้นลายเลย โทษฐานทำตัวไม่มีค่า
“นายอย่าพึ่งบ่นได้มั้ย…ฮึก…”
ร้องอีกแล้ว แล้วจะร้องทำซากอะไรว่ะเนี่ย
ผมต้องมาพบมาเจอกับอะไรที่มันน่าเบื่อแบบนี้ว่ะ
“จะกลับด้วยกันเลยมั้ยละ ผมก็จะกลับแล้ว ”
เห็นว่าพักอยู่คอนโดเดียวกันหรอกนะ ไม่ได้อยากให้ไปด้วยอะไรหรอก แค่ลองๆชวนดู
“อืม..”
อันนาปล่อยกอดผม แล้วเดินนำหน้าออกไป
คิดอยากจะกอดก็กอด คิดอยากจะปล่อยก็ปล่อย ช่างไม่มีมารยาทเอาซะเลย
บนรถ
อันนายังคงนั่งร้องไห้เงียบๆ เสียใจอะไรขนาดนั้นว่ะ หล่อได้ซักครึ่งนึงของผมจะไม่ว่าอะไรเธอเลย ถ้าอกหักจากผมอ่ะนะ ผมว่ายัยนี่คิดสั้นแน่เลย ความหล่อมันคนละระดับกัน
“จอดรถ…ฮึก..”
เอี้ยด….
ผมรีบกระทืบเบรค และจอดรถข้างทาง
“จอดทำไม ”
ผมถามด้วยความสงสัย มองดูอันนากำลังเปิดประตูลงจากรถเหมือนมีอะไรเร่งด่วน
“นายกลับไปก่อนเลย ฉันยังไม่อยากกลับ ”
ปัง…
“อะไรอีกว่ะ ”
อันนาเดินลงรถ และตรงไปยังร้านเหล้าที่อยู่ริมทาง สภาพ…เอาตัวเองไม่รอดแล้วยังอยากดื่ม
ผมถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก ในที่สุดก็ทิ้งเธอไว้คนเดียวไม่ลง ก็เลยต้องตามเธอลงไปนั่นแหละ
“เหล้าเข้มๆหนึ่งแก้วค่ะ ”
“2ครับ ผมด้วย ”
ผมตามมาติดๆ แล้วนั่งลงข้างๆ ร้านนี้เล่นดนตรีสดซะด้วย ผมคงได้ดูคนร้องไห้ขี้มูกโป่งอีกแหงๆ
“นายตามมาทำไม กลับไปเลยสิ ฉันดื่มเสร็จเดี๋ยวก็กลับ ไม่ต้องเป็นห่วง ”
“ใครเป็นห่วง ผมโทรบอกพี่พิพิม แล้วพี่พิพิมบอกให้รอรับกลับด้วย ผมขี้เกียจโดนพี่สาวบ่น
ไม่ได้เป็นห่วงซักหน่อย ”
ยัยนี่หลงตัวเองชะมัด คิดว่าผมเป็นห่วง คำว่าห่วงไม่เคยมีในหัวผมนะบอกเลย
“นั่นนะสินะ ใครจะมาเป็นห่วงฉันกันละ เอาเหล้ามาอีก…”
แล้วอันนาก็ดื่มอีกหลายแก้ว และพอเริ่มดึก นักดนตรีก็เล่นแต่เพลงเศร้าด้วย
“ถูกแฟนนอกใจเหรอ ”
ผมลองถามดู แต่คิดว่าแบบนั้นนะ
“จะถามทำไม…ฮึก…ฮึก…ฮือ…”
ไอ้เชี้ยซวยละ ผมทำเธอร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก
“เงียบก่อน…คนมองใหญ่แล้ว…”
ร้านนี้เป็นร้านนั่งชิลล์ เสียงไม่ได้ดังมาก พออันนาร้องไห้โฮแบบนี้ คนก็หันมามองกันใหญ่เลย
“ฮือ…ไม่เงียบมันแล้ว…ไอ้คนเลว….นอกใจได้แม้กระทั่งคนที่รักและซื่อสัตย์ ฉันจริงจังกับความรักครั้งนี้มากนะ ฮือ…”
เอาแล้วไง ร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก
“เป็นผู้ชายแบบไหนกันเนี่ย แฟนก็ออกจะสวย
ทำไมถึงนอกใจ ”
“นั่นนะสิ ทำแฟนร้องไห้ขนาดนี้แล้วยังไม่สำนึกอีก หน้าตาก็หล่ออยู่หรอก แต่ใจดำอำมหิตเกิน ”
ตอนนี้โต๊ะข้างๆเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว