ตอนเย็น
“กลับแล้วนะ”
ตอนเย็นหลังเลิกงาน ฉันก็ต้องติดรถปอร์เช่กลับ และกว่าเด็กนี่จะเปิดเทอม คงอยู่กัดกับฉันไปอีกนาน
“อันนา ”
ในระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินตามปอร์เช่ไปขึ้นรถ
ก็มีเสียงคุ้นหูเรียกเอาไว้ ขาฉันหยุดเดินอัตโนมัติ มันเป็นเสียงที่ฉันจำได้ดี
“พี่ราเมศ มาทำไม ”
ฉันถามเสียงห้วน มองหน้าเขาแค่แวบเดียว แล้วรีบมองไปอีกทาง
“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย เราคุยกันหน่อยมั้ย ”
น้ำเสียงที่อบอุ่นและคุ้นเคยนั้น ทำฉันจุกจนพูดไม่ออก ถ้าฉันไม่เห็นว่าเขานอกใจ ป่านนี้คงวิ่งเข้าไปกอด หอมแก้ม และบอกคิดถึงมากนะคะ
“แต่อันนาไม่มีอะไรจะคุยกับพี่ และก็ไม่ต้องมาหาอันนาที่นี่อีก ”
ฉันพูดเสียงสั่น รีบหันหลังให้พี่ราเมศ และเดินตามปอร์เช่ไป
“อันนา!!ฟังพี่อธิบายก่อน ”
เสียงพี่ราเมศยังดังตามมาไม่หยุด
“แฟนมารับแล้วหนิ ทำไมไม่ไปกับแฟน ”
ปอร์เช่หันกลับมา พร้อมถามฉันเหมือนกำลังประชด
“ไม่ยุ่งซักเรื่องแล้วมันจะตายมั้ย ”
ฉันพูดขึ้นอย่างหัวเสีย แล้วรีบเปิดประตูขึ้นรถ
ปัง~
และรีบปิดอย่างแรง พยายามไม่มองดูพี่ราเมศที่กำลังเดินตามมา
“เฮ้ย!!เบาหน่อยสิ นี่มันรถผมนะ ”
และไม่สนใจเจ้าของรถที่กำลังโวยวายด้วยซ้ำ
เพราะตอนนี้น้ำตามันไหลอีกแล้ว
“ฮึก…ฮึก…ฮึก…”
-ปอร์เช่-
ที่แท้ก็ทะเลาะกับแฟนนี่เอง แฟนมาง้อก็ไม่ยอมไป แล้วก็มานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งแบบนี้ มีประโยชน์อะไรวะ ทะเลาะกันแต่ดึงผมเข้าไปเกี่ยวเนี่ยนะ คิดอะไรของเธออยู่ ที่จริงแฟนอันนาก็หล่อนะ แต่ดูแล้วก็น้อยกว่าผมแหละ
“มีเรื่องไม่เข้าใจกัน ทำไมไม่คุยกันดีๆ หนีปัญหาแบบนี้ดูไม่เป็นผู้ใหญ่เลยนะ ”
ผมพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ ที่จริงไม่เงียบหรอก มีเสียงร้องไห้ของอันนานั่นแหละ
“ที่จริงถ้าทะเลาะกัน คุณไม่ควรดึงคนอื่นเข้าไปเกี่ยว ”
“…”
ไม่ตอบ ร้องไห้อย่างเดียวเลย ผมหยิบผ้าเช็ดหน้าแล้วยื่นให้เธอ อันนารับไปแล้วเช็ดน้ำตาออกแรงๆ และเช็ดซ้ำๆอยู่แบบนั้น
“จะคุยกับเขาป่ะละ เดี๋ยวพาไปส่ง ”
“ไม่…”
ตามใจเธอแล้วกัน ที่จริงก็ไม่เกี่ยวกับผมหรอก
ขอแค่อย่าดึงผมไปเกียวก็พอ อันนาร้องไห้มาตลอดทางจนมาถึงคอนโด แล้วก็หายเข้าห้องไปเลย
ครืด~ครืด~
“ว่าไง”
พอผมเข้ามาในห้อง ไอ้วาคิม เพื่อนผมก็โทรมาพอดี คงไม่พ้นชวนผมไปดื่มอีกตามเคย ถามว่าจะไปมั้ย ก็ไปสิ ผมเคยพลาดที่ไหนละ
{เจอกันที่ผับนะ วันนี้พวกไอ้ภูก็มา }
“อืม ”
ผมรับปากเพื่อน และรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปผับ
แอ้ด~/แอ้ด~
แต่เชื่อไหมว่าความบังเอิญมันมีจริงๆ ผมเปิดประตูออกมา แล้วเจออันนาพอดี เธอเองก็แต่งตัวสวยเซ็กซี่ โชว์เนื้อหนังมังสา หน้าอกนี่ขาวโบ๊ะ ล้นขึ้นมาจนเกือบจุกโผล่
“มองอะไร”
“ใครมอง ”
ผมตอบแค่นั้นแล้วรีบเดินหนี ใครอยากมองหน้าอกเธอกันละ ถึงจะเคยสัมผัสมาทุกส่วนแล้วก็เหอะ
ติ้ง~
พอประตูลิฟต์เปิดออก อันนาก็ยังตามเข้ามาอีก
เราต่างก็มองไปอีกฝั่ง และไม่ได้คุยอะไรกันอีก
ผมไม่สนใจด้วยว่าเธอจะไปไหน
ผับเวลาต่อมา พอมาถึง ยังไม่มีใครมาด้วยซ้ำ ผมก็เลยนั่งดื่มรอเพื่อนไป แต่สายตาก็ดันมองไปเห็นอันนาที่กำลังนั่งดื่มที่เคาน์เตอร์บาร์
“มาหาเหยื่ออีกละสิท่า ”
-อันนา-
“วิสกี้แก้วนึงค่ะ ”
“ได้ครับผม ”
ฉันเครียดมาก อยากดื่ม อยากเมา อยากลืมพี่ราเมศให้ได้ซักที
อึก~
“อีกแก้วค่ะ ”
“ได้ครับคุณลูกค้า ว่าแต่มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ
เล่าให้ผมฟังได้นะครับ ”
บาร์เทนเนอร์เอ่ยขึ้น ฉันยกยิ้มมุมปาก ก่อนระบายสิ่งที่อัดอั้นให้คนแปลกหน้าฟัง
“ฉันถูกแฟนนอกใจค่ะ ฉันเสียใจมากๆ ใจฉันมันพังไปหมดแล้วตอนนี้ ฉันร้องไห้รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ มันเจ็บ…ฮึก…”
อึก~
ฉันกระดกเหล้าย้อมใจ ทั้งยังน้ำตาไหล
“โห…แย่เลยนะครับแบบนี้ แต่คุณสวยขนาดนี้
ผมเชื่อว่ายังไงก็ต้องเจอคนดีๆ ”
“ ฉันคิดว่าคงไม่เจอแล้วค่ะ ขนาดคนนี้ฉันคิดว่าเค้าดีมากแล้ว แต่เขาก็ยังนอกใจเลยค่ะ แล้วฉันต้องดูยังไงคะว่าใครที่เป็นคนดี ”
ฉันนั่งปรับทุกข์อยู่แบบนั้น บาร์เทนเนอร์ที่นี่ก็ดีเนอะ มีอะไรก็คุย มีอะไรก็ระบายได้ เค้ารับฟังและคอยให้กำลังใจมากเลย
-ปอร์เช่-
“มึงมองอะไรนักหนาวะ หรือว่าเล็งสาวเอาไว้ ”
พอเห็นผมมองดูด้านล่างบ่อยๆ เพื่อนผมมันก็ถามอย่างสงสัย
“เปล่า แค่เจอคนรู้จัก ”
ผมตอบเพื่อนทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากอันนา เพราะดูแล้วเธอน่าจะเมามากแล้ว คุยกับบาร์เทนเนอร์ที่เป็นผู้ชาย ดูสนิทสนมจนเกินไป คงไม่คิดจะเอาบาร์เทนเนอร์ประชดแฟนอีกคนหรอกนะ
“เฮ้อ!!”
ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วทำไมผมต้องสนใจเธอด้วยวะ เธอจะเอาใครมาประชดใครมันก็ไม่เกี่ยวกับผม
“คนรู้จักจริงเหรอ มองขนาดนั้น ไม่แค่รู้จักแล้วมั้ง ”
ไอ้ภูพูดขึ้น จนผมต้องมองหน้ามันนิ่ง นี่แหละนิสัยมัน เสือกไปซะทุกเรื่อง
“กูก็แค่ถาม มึงจริงจังอะไรวะสัสปอร์เช่ ”
“เฮ้ย!!มาผ่อนคลาย ทะเลาะอะไรกันสัส ”
ไอ้ธีร์พูดขึ้น หลังจากนั้นไอ้ภูก็ไม่พูดอะไรอีก
ผมก็หันกลับไปมองอันนาเหมือนเดิม แต่เธอไม่ได้นั่งตรงนั้นแล้ว
“หายไปไหนวะ ”
ผมพึมพำเบาๆ และมองดูรอบๆแต่ก็ไม่เจอ
“เห้ย!!เชี้ยปอร์เช่ มึงจะไปไหนว่ะ กูแซวแค่นี้มึงโกรธเหรอ ”
ผมรีบลุกขึ้น กะว่าจะไปดูซักหน่อยว่าอันนาไปไหน
เห็นแก่ที่เธอเป็นเพื่อนพี่พิพิมหรอกนะ อย่าคิดไปไกล
“กูกลับละ พรุ่งนี้ก็ต้องเข้าบริษัท ”
ผมรีบเดินตรงไปยังห้องน้ำ เผื่ออันนาจะไปที่นั่น