"ฉันว่าเราขับออกมาผิดทางแล้วแหละ!" คาเทียร์หันกลับไปมองก็เห็นว่ามีรถยนต์ขับตามมาอีกหลายคันบนถนนสายหลักที่ขับมุ่งหน้าออกสู่นอกเมืองยามดึกดื่นเช่นนี้ ทว่าเธอต้องแปลกใจมากกว่าเมื่อเห็นมีผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ที่เบาะหลังด้วย
"แต่ว่าพี่ต้องไปรายงานภารกิจที่ฐานก่อน พี่ต้องเอาหลักฐานไปไว้ในที่ปลอดภัยก่อน"
"หมายถึงผู้หญิงสองคนนี้หรอคะ?"
"ใช่!" เซนตอบเสียงเข้ม
"ถ้าเรารอดจากเงื้อมมือพวกมันนะ ดูมันตั้งหน้าตั้งตาเหยียบคันเร่งจะชนเราซะให้ได้" หญิงสาวพยายามตั้งสติจากการถูกไล่ล่า โชคดีที่เซนเป็นหนึ่งในตำรวจสากลที่ช่ำชองหลายๆเรื่องในเวลาเดียวกัน เธอจึงรู้สึกวางใจขึ้นมาเล็กน้อย
"พี่ไม่น่าดึงคาเทียร์ที่ให้ลงมายุ่งกับงานนี้เลย"
"ฉันเต็มใจช่วย แต่ไม่ได้ช่วยแค่พี่เซนนะ ฉันเต็มใจช่วยผู้หญิงพวกนั้นที่กำลังจะถูกส่งออกไปขายโดยที่ไม่รู้ต่างหาก"
"แล้วตอนนี้เห็นหรือยังว่ามันอันตรายแค่ไหน หยิบปืนในนั้นออกมาแล้วก็พกติดตัวไว้" เซนพเยิดหน้าไปยังลิ้นชักหน้ารถ
"และนี่แหละคือเหตุผลที่ฉันไปเรียนยิงปืนบ่อยๆ" หญิงสาวหยิบปืนออกมาและเหน็บไว้ที่หัวเกงเกงด้านหลังของตน
"อย่ายิงจนกว่าพี่จะสั่ง" เขาบอกในขณะที่เหยียบคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วขึ้นอีก
"คนพวกนี้ทำงานผิดกฎหมายและอยู่เหนือกฎหมาย มันไม่ปล่อยเราง่ายๆแน่"
"งั้นเอาอย่างนี้ไหมคะ พี่จะต้องกลับไปรายงานภารกิจที่ฐาน พี่ปล่อยให้ฉันลงที่นี่เพื่อล่อพวกมันไว้ แล้วพี่ค่อยหาทางกลับมาช่วยฉัน"
"พูดอะไรแบบนั้น พวกมันเป็นมาเฟีย มันคงจะปล่อยให้คาเทียร์รอพี่กลับมาช่วยหรอกนะ"
"ฉันไปรู้ความลับของพวกมันมาหลายอย่าง ฉันจะใช้เป็นข้อต่อรอง"
"พี่รู้ว่าคาเทียร์เป็นคนฉลาดและก็เตรียมพร้อมที่จะเป็นตำรวจ แต่ว่าคาเทียร์มีงานเดินแบบในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ จะทำยังไงถ้าพี่ไปช่วยออกมาไม่ทันงาน"
"ยังไงก็ต้องทันค่ะ ตอนนี้หลักฐานที่เราจะเอาไปขยายผลการจับกุมสำคัญกว่างงานเดินแบบนะคะ" เซนส่ายหน้าไปมาด้วยรู้ความรู้สึกหนักใจ
"ระวังตัวให้มาก พี่ใส่เครื่องติดตามตัวไว้ในกระเป๋าเสื้อนะ อย่าถอดเสื้อเด็ดขาด!" เซนตัดสินใจจอดรถให้คาเทียร์ลง หญิงสาวแกล้งทำนาฬิกาข้อมือของตนเองหล่นไว้ในรถก่อนที่จะเปิดประตูลงจากรถ
รถยนต์หลายคันของกลุ่มมาเฟียที่ขับตามมาวิ่งเข้าหาจอดตรงบริเวณที่คาเทียร์ยืนอยู่ หญิงสาวยอมให้กลุ่มมาเฟียลากตัวขึ้นรถไปโดยไม่ขัดขืนเพราะรู้ดีว่าขัดขืนไปก็ไม่มีประโนชน์
ร่างบางถูกผลักเข้าไปในรถจนเสียหลักล้มลง ใบหน้าสวยคมชนเข้ากับต้นแขนของใครคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในนั้น
"เอ่อ..." คาเทียร์เบิกตากว้างเมื่อเห็นบุรุษรูปร่างสูงกำยำท่าทางน่ายำเกรง ใบหน้าของเขาหล่อคมคายราวรูปปั้นที่ถูกรังสรรค์มาอย่างละเอียด เรือนผมสีทองเข้มรับกับดวงตาสีเขียวมรกตจนเห็นได้ชัดเจนแม้จะอยู่ในความมืด เขาจ้องมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยอาฆาตแค้น
รังดอกไม้มาเฟีย
คาเทียร์ถูกบอดี้การ์ดของมาเฟียหนุ่มที่จับตัวเธอมาประกบทั้งสี่ทิศทางระหว่างเดินเข้าสู่คฤหาสน์หลังงาม เธอกวาดสายตามองไปบริเวณรอบๆคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยสวนดอกไม้นานาพันธุ์ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณหน้าบ้านพอสมควร หญิงพอจะดูออกว่าด้านหลังของคฤหาสน์หลังนี้น่าจะกว้างยาวออกไปอีกไกลโพ้น
"กลิ่นแปลกๆ..." คาเทียร์พึมพำออกมาเมื่อกลิ่นมวลดอกไม้อบอวลโชยมาเตะจมูกเข้าจนรู้สึกเวียนหัวอย่างบอกไม่ถูก
"เอามันเป็นล่ามโซ่ไว้ในโรงซ่อมรถ เดี๋ยวกูจะตามเข้าไป!" โคลินหันมาออกคำสั่งกับบอดี้ก่อนที่เขาจะเดินตรงเข้าไปในบ้าน
"ปล่อยฉันนะ!" คาเทียร์ถูกบอดี้การ์ดคนหนึ่งจับแขนทั้งสองข้างของตนล่ามโซ่ที่ห้อยลงมาจากหลังคา เท้าของหญิงสาวเกือบจะแตะไม่ถึงพื้น
"ทำไมมีปืน?" มอริสค้นตัวหญิงสาวก็เห็นว่ามีปืนกระบอกหนึ่งที่เหน็บอยู่ข้างหลัง เขาจึงดึงออกมาและเก็บเอาไว้
"ฉันขโมยมา" คาเทียร์ตอบไปเช่นนั้น จากนั้นบอดี้การ์ดหนุ่มจึงล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนต์ของหญิงสาว
"เดี๋ยว! อย่าเพิ่งเอาโทรศัพท์มือถือของฉันไป"
"ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอขอด้วย?" มอริสเหยียดยิ้มมุมปาก
"เพราะฉันรู้ความลับของเจ้านายคุณหลายอย่าง รวมทั้งฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกเจ้านายคุณด้วย"
"หึ! เด็กเลี้ยงแกะ หน้าอย่างเธอหรอที่จะมีทั้งความลับของนายและยังจะเรื่องสำคัญบ้าบออะไรนั่นอีก"
"นี่!" ยังไม่ทันที่คาเทียร์จะได้พูดอะไรอีก ร่างสูงกำยำของโคลินก็เดินตรงเข้ามา วินาทีนี้หญิงสาวได้เห็นใบหน้าชัดเจนของมาเฟียหนุ่มจึงได้รู้ว่าเขามีใบหน้าที่หล่อเหลาเพียงใด ในขณะที่เขาเองก็จ้องมองเรือนร่างงดงามของเธอไม่วางตาเช่นเดียวกัน
"ใครเป็นคนสั่งให้มาช่วยผู้หญิงพวกนั้นออกไป?" โคลินถามเสียงดุดันและยังจ้องมองคาเทียร์ด้วยแววตาดั่งพญามัจจุราชที่พร้อมจะปลิดชีพเธอเสียตอนนี้
"ไม่มี! ฉันบังเอิญไปเห็นผู้หญิงพวกนั้นกำลังจะถูกขาย ฉันรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายฉันก็เลยหาทางปล่อยพวกเขาไป"
"แล้วเธอรู้ไหมว่าการกระทำโง่ๆของเธอมันทำให้ธุรกิจของฉันเสียหายเป็นสิบๆล้าน!"
"แบบนี้เขาเรียกว่าธุรกิจหรอ? ทำเรื่องผิดกฏหมายแล้วยังผิดศีลธรรมอีก พวกคุณมาอยู่ในประเทศของฉันแล้วยังมาค้าขายผู้หญิงในประเทศฉันอีก ไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือไง" หญิงสาวต่อว่ามาเฟียหนุ่มออกไปอย่างไม่เกรงกลัว
"บัดซบ! คิดว่าตัวเองเป็นคนดีมากนักหรือยังไง แส่ไม่เข้าเรื่อง" โคลินเดินเข้ามาใกล้ เขายกมือขึ้นมาบีบคางมนจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บ ร่างบางดิ้นพล่านจนข้อมือที่ถูกมัดไว้ด้วยโซ่ถลอกและมีเลือดซึมออกมา
"คนเลวๆอย่างคุณไม่มีทางตายดีแน่!"
"ใช่! ฉันมันเป็นคนเลว ไม่มีศีลธรรม แล้วเธอรู้มั้ยว่าคนที่ไม่มีศีลธรรม ทันทำอะไรเลวๆได้อีกบ้าง" โคลินจ้องมองใบหน้าสวยคมด้วยสีหน้าเหยียดหยัน เขาดันลิ้นแตะกระพุ้งแก้มด้วยท่าทางยั่วยวนกวนประสาท จากนั้นจึงขยับมือลงมาตามลำคอระหงจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าอกอวบอิ่ม
"แกจะทำอะไร?" ดวงตากลมโตสั่นระริกเมื่อเห็นแววตาร้ายกาจของมาเฟียหนุ่ม
"ทำแบบคนไม่มีศีลธรรมไง!" โคลินพูดเท่านั้นก็กระชากเสื้อเชิ๊ตของคาเทียร์ออก กระดุมเสื้อหลุดกระเด็นไปคนละทิศทาง เผยให้เห็บราเซียตัวสวยที่ห่อหุ้มเต้านมอวบไว้
"อึก! ไอ้คนเลว! ถอยออกไปนะ"