"พี่เหรอ? ก็...ฟังดูก็ไม่ได้แย่ แล้วเรียกทำไมหรือเปลี่ยนใจให้พี่ไปส่ง" ดรีมทวนคำที่ดิเชร์ใช้เรียกเธอพลางหรี่ตามอง ดรีมพยายามอย่างหนักที่จะไม่พูดอะไรที่กวนประสาทหรือเล่นมุกอะไรมากไป
"...พี่ชื่ออะไรเหรอครับ"
"เดี๋ยวนะ! ทำไมถึงได้รู้สึก...เสียงนาย...เสียงนายคุ้นมากเหมือน...เราเคยเจอกันมาก่อนใช่ไหม" น้ำเสียงที่เหมือนจะคุ้นๆทำให้ดรีมถามออกไปอย่างลังเล
"คือ...ความจริงแล้ว เราเคยเจอกันมาก่อน ผมคือคนที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปส่งพี่เมื่อคืนยังไงครับ" ในที่สุดดิเชร์ก็พูดออกไป แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้เล่าทั้งหมดว่าความจริงแล้วเขาและเธอเคยเจอกันมาก่อนเมื่อสามปีที่แล้ว
"จริงด้วย เสียงนี้ใช่เลยแถมยังพูดเพราะแบบนี้ใช่ๆ บังเอิญจริง...พอได้เห็นหน้าชัดๆก็หล่อเหมือนกันนะเราอ่ะ...พี่ชื่อดรีม เอางี้เดี๋ยวตอนเที่ยงรอพี่ที่หน้าห้องอาหารพนักงานนะขอพี่เลี้ยงข้าวราดแกงเรานะ ตอนนี้พี่ต้องเข้าแผนกแล้วเอาไว้เจอกันตอนเที่ยงล่ะ ห้ามเบี้ยวนัดนะเรา"
ดรีมดีใจที่ได้เจอชายหนุ่มอีกครั้งทำให้เธอพูดประโยคที่ยาว คำพูดพรั่งพรูออกจากปากเต็มไปด้วยความดีใจที่ดรีมเองก็ไม่สามารถปิดเอาไว้ได้จนทำให้ดิเชร์รับรู้ถึงความรู้สึกของดรีม 'ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอรู้สึกดีกับเขา'
"ครับ" น้ำเสียงทุ้มตอบสั้นๆแต่ทำเอาดรีมเผลอยิ้มกว้างต่อหน้าดิเชร์ก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปที่แผนกบุคคล
"พูดเก่งจริงๆ" ดิเชร์ส่ายศีรษะไปมาเบาๆ พลางพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มแล้วเอานิ้วกดปุ่มเรียกลิฟต์ เพื่อไปยังที่แผนกที่ตัวเองต้องฝึกงาน
"เอ้า ลืมถามไปเลยว่าชื่ออะไร ไม่เป็นไร...รอตอนเที่ยงก็แล้วกัน" ดรีมพูดขึ้นเมื่อเธอเดินมานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองที่แผนกงานธุรการ
ทันทีที่ดิเชร์เดินออกจากลิฟต์ เขาก็ต่อสายหาคนเป็นพ่อ
"ว่าไงลูกชาย เข้ามาหาพ่อก่อนไหมหรือยังไง"
"ไม่ดีกว่าครับ ผมแค่โทรมาบอกว่าตอนนี้ผมกำลังไปที่แผนกฝึกงานนะครับ แล้วก็ถ้าผมจะขอไปอยู่แฟลต...พ่อโอเคไหมครับ"
"...แน่นอนว่าพ่อโอเค ให้พ่อซื้อเพนต์เฮาส์ให้ดีกว่าไหมเชร์"
"ขอผมจัดการเรื่องห้องเองดีกว่าครับพ่อ แค่นี้นะครับพ่อ"
"...ครับ" น้ำป่าตอบสั้นๆในขณะที่เขากำลังคิดว่าต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำให้ลูกชายคนเดียวของเขาขอออกไปอยู่คอนโด
เมื่อดิเชร์ได้รับคำตอบรับจากพ่อ เขาก็รีบกดปุ่มวางสายทันที เพราะตอนนี้ได้เวลาที่จะต้องไปรายงานตัวที่แผนกฝ่ายพัฒนาโครงการ สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือ หาคนที่ชื่ออดิศักดิ์ เขาจะเป็นคนคอยสอนงานตลอดระยะเวลาที่ดิเชร์ฝึกที่นี้
แผนกฝ่ายพัฒนาโครงการ
"สวัสดีครับ ผมดิเชร์ ดูบัวส์ เป็นนักศึกษาฝึกงานครับ" ร่างสูงใบหน้าคมหล่อแต่งตัวเรียบร้อยยื่นเอกสารวางลงบนโต๊ะทำงานของอดิศักดิ์อย่างนอบน้อม
"มารายงานตัวแต่เช้าเลย ดีแล้วดีแล้ว ไปนั่งที่โต๊ะตัวหลังได้เลย เดี๋ยวสักพักผมจะเอารายละเอียดของงานไปให้คุณอ่านก่อนแล้วผมจะสอนงานให้" อดิศักดิ์ยิ้มให้กับดิเชร์อย่างเป็นมิตร เพราะเขาก็รู้ดีว่าดิเชร์เป็นใครและเขาต้องสอนงานให้ดิเชร์อย่างละเอียดเพราะแผนกนี้เป็นแผนกที่สำคัญสำหรับบริษัทโซแอล และจำเป็นที่ดิเชร์ต้องเริ่มเรียนรู้จากแผนกนี้ก่อน
"ขอบคุณครับ" ดิเชร์ยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณแล้วเดินไปนั่งรอตามที่อดิศักดิ์บอก แล้วล้วงกระเป๋ากางเกงเอาโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อส่งข้อความหาคานโลเรื่องเปลี่ยนหลอดไฟในซอยที่รุ่นพี่สาวอยู่รวมไปถึงห้องพัก
ระหว่างที่พิมพ์คุยดิเชร์รู้สึกว่าโดนแอบมอง และนานพอที่จะทำให้เจ้าตัวรู้สึก ใบหน้าคมดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยเสน่ห์ล้ำลึกจนทำให้สาวๆในแผนกอดที่จะหันไปมองชายหนุ่มไม่ได้ ดิเชร์ยิ้มบางๆแล้วก้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทายและแสดงความเคารพไปในตัว
"นักศึกษาฝึกงานเหรอ ชื่ออะไรอ่ะพี่ชื่อจ้าวนะ" หญิงสาวในชุดเรียบร้อยส่งยิ้มหวานแล้วเอ่ยทักทายด้วยความเป็นมิตร
"ครับ เรียกผมว่าเชร์ได้ครับพี่จ้าว ผมฝากตัวด้วยนะครับ"
"จ๊ะเชร์ ลูกครึ่งเหรอ"
"ครับ ผมลูกครึ่ง"
"หล่อนะเนี่ยอย่างกับดารา มีอะไรสงสัยหรือไม่เข้าใจอะไรตรงไหนถามพี่ได้ตลอดนะไม่ต้องเกรงใจ" จ้าวพูดพร้อมกับเอียงศีรษะไปด้านข้างเล็กน้อยด้วยท่าทางที่น่ารัก
"ขอบคุณครับ" ดิเชร์ตอบรับสั้นๆด้วยท่าทางที่สุภาพเหมือนอย่างที่เขาทำอยู่เสมอและเป็นจังหวะที่อดิศักดิ์เดินมาหาดิเชร์พร้อมกับแฟ้มสีดำเพื่อเตรียมสอนงานและสาระสำคัญต่างๆที่ดิเชร์ควรจะต้องเรียนรู้
อีกด้านของดรีม หญิงสาวเป็นคนที่ทำงานทุกอย่างได้คล่องแคล้วและขยัน มักจะมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าสวยตลอดเวลา จึงเป็นที่มาของหน้าที่การงานในปัจจุบัน เดิมที เธอเป็นแค่พนักงานแผนกงานธุรการธรรมดาที่อยู่โต๊ะหลังสุดจนกระทั่ง ยากุมือซ้ายของน้ำป่าพ่อของดิเชร์ได้เล็งเห็นความสามารถที่เธอมีรวมถึงหน้าตาที่สะสวย เธอเหมาะกับแผนกธุรการฝ่ายขายเป็นอย่างมากเป็นตำแหน่งที่ต้องพบปะผู้คน ทั้งในบริษัทและคนจากบริษัทอื่นหรือบุคคลภายนอกที่มาติดต่องานของบริษัทโซแอล
12.10น.
"รอนานไหม ขอโทษทีพอดีมีงานด่วนเข้ามา..." ดรีมพรูลมหายใจออกมายาวๆ เมื่อได้พูดออกไปจนจบประโยคโดยที่คนตรงหน้าเธอไม่ได้มีความรู้สึกว่าโกรธหรืออะไรเลย
"ไปทานข้าวกันเถอะครับ" ดิเชร์ไม่ได้โกรธดรีมแม้แต่นิดเดียวที่เธอมาช้าตรงกันข้ามเสียอีกเขายิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเธอจนหัวใจของ ดรีมเริ่มเต้นแรงอีกขึ้น เธอพยามยามอย่างหนักที่ไม่แสดงอาการให้ดิเชร์เห็น
แต่ที่จริง...ดิเชร์เดินไปที่แผนกธุรการฝ่ายขายมาแล้ว ดิเชร์เห็นว่าดรีมกำลังยุ่งอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เขาจึงเดินออกมารอที่หน้าห้องอาหารพนักงานตามที่นัดเอาไว้
"อืม!ไปกันเถอะ นายชื่ออะไรแล้วถือถุงอะไรมา"
"ดิเชร์ครับ พี่ดรีมเรียกผมแค่เชร์ก็พอ ส่วนนี่เป็นแซนด์วิชแม่ผมทำมาให้สองชิ้น พี่ดรีมทานกับผมนะครับ"
"จะดีเหรอแม่นายทำมาให้นายนะ"
"แม่ผมคงจะดีใจมากกว่าที่มีคนกินแซนด์วิชที่แม่ทำนอกจากผม"
"งั้นเหรอ ได้สิพี่จะกินให้หมดเลย"
"...พี่ดรีมชอบทานอะไรครับ"
"พี่เป็นคนกินง่ายๆอะไรก็ได้ แล้วเชร์ล่ะอยากกินอะไร มีร้านตามสั่ง ข้าวมันไก่แล้วก็ข้าวราดแกงแต่พี่กินข้าวราดแกง"
"ผมทานเหมือนพี่ดรีมครับ"
"ทำไมเชร์พูดเพราะจัง แล้วเรียนมหาลัยไหนล่ะ"
"...มหาลัยxxxครับ"
"ห๊ะ!! บังเอิญจังพี่ก็จบจากที่นั่นแต่มันก็ผ่านมาแล้วสี่ปี จะว่าไปหน้านายคุ้นๆนะ ไหนจะชื่ออีก"
"ผมคงหน้าโหล ชื่อก็โหล หรือไม่บางทีเราอาจจะเคยเดินผ่านกันก็ได้ครับ" เชร์รีบตอบกลับก่อนที่ดรีมจะพูดถึงเรื่องชื่อเขา 'แย่แล้ว เขาลืมไปเลยเรื่องชื่อ'
"แหม...ม...ถ้าหน้านายโหลป่านนี้ผู้ชายที่อยู่รอบตัวพี่คงหล่อกันหมดทุกคน" ดรีมพูดปนขำเล็กน้อย
"พี่ดรีมพูดตรงๆก็ได้นะครับ ถ้าจะชมว่าผมหล่อ"
"ค่ะ! อันนี้ไม่เถียง หล่อจริงสมกับเป็นลูกครึ่ง"
"พี่รู้ได้ไงว่าผมเป็นลูกครึ่ง"
"แหม่ ท่านก็...ชื่อเอย หน้าเอย จมูกเอยแค่นี้ก็ดูออกแล้วจ๊ะ" ดิเชร์หัวเราะเล็กน้อยกับพูดของดรีม
ดรีมพูดคุยกับดิเชร์ได้อย่างสบายๆ เธอไม่รู้สึกเคอะเขินเหมือนในตอนแรก ดิเชร์ถ้าดูภายนอกเหมือนจะดูหยิ่ง แต่พอได้คุย...ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร การที่เธอได้คุยกับดิเชร์มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและสบายใจเป็นอย่างมาก เป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยมีให้กับใครนับตั้งแต่ที่เธอได้เลิกกับแฟนเก่าไปเมื่อสามปีก่อน
บรรยากาศในช่วงพักเที่ยงพนักงานส่วนใหญ่จะมารับประทานอาหารที่นี้กันเกือบทั้งหมด ด้วยราคาที่ถูกแสนถูก อร่อย สะอาดถูกหลักอนามัยและปริมาณอาหารที่ตักขายค่อนข้างให้เยอะ ดรีมมักจะสั่งแกงใส่ถุงกลับบ้านอยู่เป็นประจำ
"ป้าคะ เอาแกงนี้ กับอันนี้อย่างละหนึ่งถุงนะคะ" เธอบอกกับป้าขายข้าวแกงหลังจากที่เธอกับดิเชร์สั่งข้าวของตัวเองเสร็จ
"เหมือนเดิมใช่ไหมหนูดรีม" คำว่าเหมือนเดิมก็คือ ป้าขายข้าวแกงจะเอาแกงที่ตักใส่ถุงแล้วเก็บเอาเข้าตู้แช่เย็นที่สำหรับเก็บวัตถุดิบของอาหารเอาไว้ พอหลังเลิกงานดรีมก็จะเดินเข้ามาเอาตามที่ได้เขียนชื่อเอาไว้ที่ถุงหูหิ้ว สิ่งนี้คือสิ่งที่ดรีมทำเป็นประจำมันเป็นการประหยัดแถมยังได้กินกับข้าวอร่อยๆที่ป้ามักจะแถมให้เป็นประจำ
"ค่ะป้า"
ดิเชร์สังเกตทุกอย่างที่ดรีมทำ ดรีมพูด ถึงแม้เขาจะอยากถามแต่ก็ต้องนิ่งเอาไว้ก่อน อะไรที่พี่ดรีมอยากให้เขารู้ พี่ดรีมก็คงจะเล่าเองไม่ต้องถามมันจะทำให้พี่ดรีมอึดอัดเสียเปล่าๆ
"พนักงานใหม่เหรอ หล่อจังอย่างกับดาราแน่ะ"
"ผมเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานครับป้า" ดิเชร์ตอบด้วยประโยคที่สุภาพน้ำเสียงที่ดูนุ่มละมุนทำเอาป้าร้านขายข้าวแกงยิ้มกว้างให้กับดิเชร์ พลางหันมองหน้าของดรีมสลับไปมาภายใต้ความคิดอะไรบางอย่างที่คนอาบน้ำร้อนมาก่อนรู้ดี
ทั้งสองยื่นเงินจ่ายค่าข้าวเสร็จก็มองหาโต๊ะว่าง "ไปนั่งโต๊ะนั้นกัน"
"ครับ"
ดรีมนั่งลงที่เก้าอี้ที่ว่างก่อน ดิเชร์จึงเดินไปหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆกัน ถึงแม้ดรีมอยากจะถามว่าทำไมไม่นั่งฝั่งตรงกันข้ามแต่ในส่วนลึกของหัวใจดรีมกับรู้สึกยินดีที่ดิเชร์เลือกที่จะมานั่งใกล้กันกับเธอ
"วันนี้ตอนเลิกงาน พี่ดรีมกลับพร้อมผมไหมครับ"
"ได้เหรอ จริงดิ ดีจังพี่จะได้กลับถึงห้องไวๆจะได้มีเวลากินข้าวเย็นกับแม่"
"ครับ งั้นผมจะรอหน้าทางออกหน้าประตูนะครับ" ความจริงดิเชร์อยากถามทุกเรื่องที่เกี่ยวกับดรีม แต่มันอาจจะเสียมารยาทหากว่าดรีมยังไม่อยากเล่าให้เขาฟัง แค่รอเวลา...เวลาที่ดรีมจะเล่าเรื่องของตนเองให้เขาฟัง
"อืมได้สิ ขอบใจมากนะเดี๋ยวพี่จะช่วยค่าน้ำมัน"
"ไม่ต้องหรอกครับพี่ดรีม ยังไงก็ทางเดียวกันไม่ต้องคิดมากนะครับ ผมสบายๆ"
เสียงแจ้งเตือนข้อความของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ดรีมจึงรีบเปิดอ่านทันที
[ใบบัว : พี่จองที่นั่งให้แล้วนะ จะมีแข่งเดือนหน้า อ่อไม่ใช่สิ! เอาสัปดาห์หน้าก่อนพี่ได้ยินมาว่ากลุ่มเพื่อนๆของลีอองจะไปฝึกซ้อมที่สนามเสาร์อาทิตย์]
[ดรีม : ได้ค่ะพี่ใบบัว เดี๋ยวดรีมจะจัดการให้เรียบร้อยค่ะ]
[ใบบัว : ส่วนเรื่องตั๋วที่นั่ง วันเสาร์เดี๋ยวพี่เอาไปให้ที่งานมอเตอร์โชว์นะ]
[ดรีม : ได้ค่ะพี่ใบบัว ขอบคุณมากค่ะ]
ดรีมกดปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งข้างกัน กระพุ้งแก้มที่กำลังขยับไปมาพอๆกันกับปากสีชมพูดที่ค่อนข้างแดงดูสวยกว่าตนเองเสียอีก มันน่ามองเสียจนอยากจะเอื้อมมือกับจับแก้มที่กำลังขยับไปมา
"พี่จ้องผมอยู่" ดิเชร์หันหน้ามาทางดรีมกะทันหันจนทำให้ดรีมทำหน้าไม่ถูก จะหันหน้ากลับก็ไม่ทันแล้ว