"ไอ้บ้าเอ้ย! ชุดฉัน!" น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์ สายตาที่เกรี้ยวกราดมองตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์ที่กำลังชะลอตัว
เอี้ยด!! ล้อรถทั้งสองถูกเบรกทันที ขายาววาดผ่านเบาะหนังที่เก่าและขาดเล็กน้อยลงกับพื้นถนนที่มีน้ำเจิ่งนองอยู่ที่เขาจอดรถ พร้อมกับเดินมาหาเธอที่ใส่ชุดกระโปรงสั้นเลยหัวเข่าขึ้นมาเล็กน้อย รอยน้ำที่กระเด็นเปรอะเปื้อนกระจายอยู่ที่ชายกระโปรงและนั้นเป็นสาเหตุที่เธอกำลังทำตาเขียวและมีสีหน้าโกรธสุดขีดใส่เขาอยู่
เขารู้ตัวว่าเขาผิด เขาขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ด้วยความเร็วและชิดริมฟุตบาททำให้น้ำที่ขังอยู่กระเซ็นเปรอะชุดสวยๆของเธอและเธอก็กำลังจะอ้าปากต่อว่าเขาอีกครั้ง แต่กลับต้องหยุดเมื่อเขารีบเอ่ยคำขอโทษอย่างคนสำนึกผิดโดยที่ไม่ได้ถอดหมวกกันน็อก
"ผมขอโทษ ผมรีบจนไม่ได้สังเกตว่ามีน้ำขังอยู่ตรงนี้" ดิเชร์มองใบหน้าสวยและมันทำให้เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยภายใต้หมวกกันน็อก
เธอหายใจเข้าปอดลึกๆเมื่อคนตรงหน้าเอ่ยคำขอโทษด้วยท่าทางที่สุภาพและมันได้ผล เพราะมันทำให้เธอรู้สึกอารมณ์เย็นขึ้น ก่อนจะพูดออกไปอย่างที่ใจนึกด้วยอารมณ์คุกรุ่นที่เหลือเพียงน้อยนิด
"...แต่ฉันต้องไปงานต่อแล้วชุดฉัน" หญิงสาวใช้สายตามองลงที่ชุดของเธอเพื่อบอกเป็นนัยๆ
"ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมขออนุญาตนะครับ"
หญิงสาวทำหน้าแปลกใจนิดหน่อยแต่ก็เข้าใจได้ทันทีที่เห็นคนตรงหน้าเอามือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหลังเพื่อเอากระเป๋าเงินออกมา แล้วหยิบเงินแบงก์เทาหนึ่งใบยื่นให้กับเธอ
"ยังไง?"
หญิงสาวถามขึ้นเพราะว่าเงินที่ถูกยื่นให้มามันเยอะเกินไป เพราะชุดที่เธอใส่มันราคาไม่ถึงห้าร้อยด้วยซ้ำแล้วอีกอย่างเธอชำเลืองเห็นว่าในกระเป๋าเงินนั่นไม่มีเงินเหลืออยู่เลย ถ้าหากเธอรับเงินมา
"เอาไปซื้อชุดเปลี่ยนเอานะครับ...ผมต้องรีบไปแล้ว ขอโทษอีกครั้งนะครับ"
ประโยคแรกเขาพูดในขณะที่ยื่นเงินให้กับหญิงสาว แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่รับไว้ ประโยคถัดมาเขาพูดขึ้นพร้อมๆกับยื่นมือตัวเองไปจับมือเธอแล้วเอาเงินใส่มือแล้วก้มศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อขอโทษก่อนจะรีบเดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตนเองแล้วขี่ออกไปโดยไม่ได้สนใจเสียงเรียกของเธออีกแม้แต่น้อย
"นี่เดี๋ยว...มันเยอะไป" สามคำสุดท้ายแทบจะกลืนหายไปกับเสียงรถที่ขับผ่านไปมาบนท้องถนน
"ทำยังไงดี...นึกออกแล้วเอาเงินที่เหลือโอนไปบริจาคให้กับเด็กๆบนดอยก็แล้วกัน" เธอพูดกับตัวเอง ภายใต้สีหน้าที่มีความกังวลอยู่ไม่ใช่น้อย ก่อนจะรีบเดินไปที่ร้านขายเสื้อผ้าที่อยู่แถวนี้
ความโชคร้ายที่มาก่อนความโชคดี ดีที่ว่าก็คืองานอีเวนต์ของวันนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอ ท้องถนนในท่ามกลางร้านค้าเยอะแยะมากมายทำให้เธอหาซื้อชุดเปลี่ยนได้ง่ายๆ ในใจลึกๆของเธอนั้นนึกสงสารคนที่ให้เงิน เพราะเธอมั่นใจว่าในกระเป๋าเงินของผู้ชายคนนั้นไม่มีแบงก์อื่นอยู่เลยแม้กระทั่งเหรียญ...เธอก็ไม่เห็น
“เช้าวันอาทิตย์ของฉัน ดีจริงๆ”
สนามแข่งรถเสนีต์
สนามแข่งรถที่นี้ได้มาตรฐานที่ผ่านการรับรองจากองค์การระดับสากล มีพื้นผิวสนามที่เหมาะสมไม่ว่าจะความยาวความกว้างของสนามทุกอย่างล้วนได้มาตรฐานทั้งหมด และยังมีแผงกั้นที่ได้มาตรฐานและยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ที่พร้อมใช้งานได้ทุกเมื่อมีเหตุ เป็นเครื่องการันตีว่าสนามแห่งนี้มีความปลอดภัยและสามารถจัดการแข่งขันระดับนานาชาติได้ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาสร้างกว่าหนึ่งปี
“มึงมาเกือบไม่ทันพิธีเปิด”
เป็นคลาวด์ที่พูดขึ้นทันทีที่เห็นดิเชร์จอดรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าพร้อมกับยื่นแว่นดำทันทีที่ดิเชร์ถอดหมวกกันน็อกออก คลาวด์ทำตามที่ดิเชร์บอกเอาไว้ล่วงหน้าได้อย่างดีพร้อมกับชุดสูทที่เตรียมเอาไว้ให้เพื่อไปเปลี่ยนในห้องพัก
“มึงถือสูทมาทำไม” ดิเชร์พูดพลางนึกขำเพื่อนสนิทของตนเอง คลาวด์มักจะดูตื่นเต้นแทนเขาเสมอ
“เอ้า! มึงจะได้เปลี่ยนทันทีที่เข้าห้องพักไง” ดิเชร์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะพูดไปก็ไม่เคยเอาคลาวด์อยู่หรือชนะได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ร่างหนาที่มีมีความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ผมสีเข้มที่มีเหงื่อผุดอยู่ตามกรอบหน้ายิ่งทำให้ดิเชร์มีเสน่ห์มากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ระหว่างที่ทั้งสองคนเดินมาที่ห้องพักในสนาม ทำให้หลายๆคนไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงทุกคนต่างจ้องมองคนทั้งสองอย่างไม่ละสายตา ด้วยความหล่อคมหน้าตาดีราวกับดารา นายแบบก็ไม่ปานแต่สิ่งที่ทำให้คลาวด์พูดทักดิเชร์อีกครั้งเห็นจะเป็นมอเตอร์ไซค์ก่อนหน้านี้
“ทำไมวันนี้มึงขี่ไอ้แก่มา” ที่เรียกไอ้แก่ก็เพราะว่ารถคันนี้เก่ามากๆ เป็นรถที่มีลุงคนหนึ่งขายเพราะต้องการเอาเงินไปดาวน์รถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ให้กับลูกชาย เป็นจังหวะที่ดิเชร์เดินมาเจอป้ายบอกขายด่วน เขาจึงได้ซื้อต่อแถมยังให้เงินเพิ่มจากเดิมอีกนิดหน่อย และดิเชร์ไม่ทำใหม่เพราะเห็นว่าแบบเดิมมันดูคลาสสิคดี
“คันเล็กดี เวลาขี่ตอนรถติดช่วยได้มาก กูก็เลยเอาไอ้แก่มานี่แหละ” จบประโยคดิเชร์ก็เดินเข้าห้องเปลี่ยนชุด ใช้เวลาไม่นานทั้งสองก็เดินไปที่ห้องกระจกเพื่อไปดูว่า เขาต้องทำอะไรบ้างในพิธีเปิดสนามแข่งใหม่
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงของรองเท้าส้นสูงกระทบลงพื้นซีเมนต์ ที่รีบวิ่งไปที่ห้องกระจกเพื่อให้ผู้ว่าจ้างบรีฟงานอีกทีก่อนที่เธอจะขึ้นเป็นพิธีกรดำเนินงานในวันเปิดสนามแข่งรถเสนีต์
“ทางนี้ดรีม” ใบบัวกวักมือเรียกพร้อมกับเรียกชื่อของเธอเสียงดัง จนทำให้คนที่อยู่ภายในห้องบริเวณใกล้ๆกันต่างหันมองเป็นตาเดียวกัน
“ขอโทษนะคะพี่ใบบัว พอดีมีอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ” ดรีมรีบบอกเหตุผลที่เธอมาสายไปเพียงสามนาทีที่ใบบัวได้นัดหมาย เป็นเวลานัดก่อนเริ่มพิธีหนึ่งชั่วโมง
“ไม่เป็นไรยังไม่ได้เวลาพิธีเปิดเสียหน่อย แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ” ใบบัวออร์แกไนเซอร์ถามขึ้นพลางมองไปที่ถุงพลาสติกที่เหมือนจะเห็นเป็นชุดสีขาว
“แค่...ชุดมีปัญหานิดหน่อยค่ะเลยต้องหาที่ซื้อแล้วเปลี่ยนจากร้านค่ะพี่ใบบัวไม่มีอะไรมากค่ะ”
ดรีมในตอนแรกเธอคิดจะเล่าเรื่องมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่ขี่รถเร็วจนทำให้น้ำกระเซ็นเปรอะชุดเธอ แต่ทว่าพอนึกถึงการกระทำในสิ่งที่คนขี่รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นทำให้ มันทำให้เธอเปลี่ยนความคิด
การกระทำของผู้ชายคนนั้นมันทำให้เธอประทับใจจากความโกรธที่กำลังลุกเป็นไฟโหมกระหน่ำ แปรเปลี่ยนเป็นไฟที่ก้านไม้ขีดเล็กๆแทน เมื่อนึกมาถึงตรงนี้มันทำให้เธอยิ้มออกมาบางๆที่ใบหน้าสวย
“ชุดนี้ก็สวยดี อ่ะนี่โพยลำดับงานของวันนี้ นั่งที่เก้าอี้นี้นะ อีกครึ่งชั่วโมงพี่จะพาไปที่เวทีเปิดงาน”
“ค่ะพี่ใบบัว” ดรีมรับใบงานมาอ่านดูว่า หน้าที่ของตนเองต้องพูดอะไร ทำอะไรบ้างในวันนี้
ปลายฝัน ภิญโญหรือดรีมอายุยี่สิบห้าปี เธอรับงานฟรีแลนซ์ตามอีเวนต์ต่างๆ เธอรับงานเฉพาะวันหยุดเสาร์ อาทิตย์และวันสำคัญต่างๆในปฏิทิน อะไรที่เป็นงานที่เธอทำได้และเงินดีเธอรับหมดแม้กระทั่งเป็นเด็กนั่งดริ๊งก์ เพราะเธอต้องเก็บเงินเพื่อเอาไปเป็นค่าผ่าตัดประสาทหูเทียมชนิดฝังก้านสมองให้กับแม่ของเธอ ที่ตอนนี้หูทั้งสองข้างไม่ได้ยินมานานหลายปี
ภายใต้แว่นดำ สายตาคู่คมที่กำลังแอบมองเธออยู่ห่างๆพยายามเอียงหูฟังว่าเธอชื่ออะไรแต่ตรงที่เขายืนอยู่มันเสียงดังจนเกินไป และเขาเพิ่งได้สังเกตเห็นว่า เวลาที่เธอยิ้มสวยแค่ไหนในชุดสีแดง และมันกำลังทำให้เขามองเธอได้นานเท่าที่ควรจนกระทั่งคลาวด์ได้สังเกตว่าเพื่อนสนิทของตนเองกำลังมองผู้หญิงคนหนึ่งอยู่
“กูว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าคุ้นๆ ว่าแต่มึงสนใจ?” คลาวด์พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าดิเชร์เอาแต่มองผู้หญิงที่อยู่ในชุดสีแดงโชว์เนินอก และกำลังนั่งไขว้ห้างอ่านกระดาษที่อยู่ในมืออย่างสนใจ
“เปล่า แล้วอีกสามตัวล่ะไม่เห็นเลย” ดิเชร์ตอบออกไปสั้นๆ แล้วเปลี่ยนเป็นถามถึงเพื่อนอีกสามคน
“พวกมันมาถึงแล้วไปนั่งรอเวลาอยู่ที่พิทชั้นสองน่ะ”
“ไปกันเถอะ” ดิเชร์พูดพร้อมกับเดินนำหน้าไปที่ห้องก่อนจะเดินเข้าไปหาเพื่อนๆที่อยู่ในห้องพักของนักแข่ง
ห้องพักนักแข่ง[Pit]ชั้นสอง
มือหนาผลักประตูกระจกเข้าไปก็ได้ยินเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยที่ดังมาจากก้อนเมฆ รอยส์ มาร์โกและหญิงสาวในชุดเดรสสั้นสีดำที่โชว์เนื้อหนังทั้งบนและล่างอีกสามคน
“ไงมึง เจ้าของสนามตัวจริงมาแล้ว” รอยส์พูดขึ้นในขณะที่สายตามองหญิงสาวคนที่นั่งใกล้ๆกันกับเขา ราวกับว่าบอกเป็นนัยๆ
ดิเชร์ไม่ได้ตอบอะไรเขาเดินไปนั่งที่โซฟาที่ว่างอยู่ ที่นั่งได้แค่คนเดียวแต่ทว่าไม่วาย หญิงสาวที่นั่งกับรอยส์เดินไปนั่งที่หน้าขาแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆภายใต้กางเกงเนื้อดี พลางโอบคอหนาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดด้วยทั้งสองแขนขาว
ดิเชร์ไม่ได้ห้ามหรือปฏิเสธแต่อย่างใด เพราะเขาชินมากกว่าการชอบ สายตาภายใต้แว่นดำของดิเชร์ดูนิ่งเหมือนกับใบหน้าที่ไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆที่เขากำลังรู้สึกอยู่ในขณะนี้
“ทำไมมึงไม่ขึ้นไปบนเวทีเองว่ะ” ก้อนเมฆถามพลางยกแก้วที่เต็มไปด้วยน้ำสีอำพัน กระดกขึ้นดื่มจนหมดแก้ว
“ให้คนของพ่อขึ้นดีแล้ว ไม่อยากแสดงตัวแค่นี้ก็ใช้ชีวิตโคตรลำบาก” ดิเชร์พูดพลางก้มหน้ามองไปที่หญิงสาวที่กำลังใช้มือลูบหน้าอกแกร่งผ่านเสื้อสูทราคาแพง
ดิเชร์ไม่เคยเปิดเผยใบหน้าในชุดแข่งรถ เพราะเขายังไม่อยากใช้ชีวิตที่ยากลำบาก เขายังอยากจะเดินไปไหนมาไหนได้สะดวก โดยที่ไม่มีคนมาสนใจหรือตามถ่ายรูปตามติดจนเกินไป
มันเริ่มตั้งแต่ที่เขาได้รับรางวัล ใบหน้าของดิเชร์ปรากฏตามหน้าอินเตอร์เน็ตเพียงชั่วข้ามคืน ถึงแม้เขาจะใส่แว่นดำแต่มันก็ช่วยได้ไม่เต็มร้อยเพราะมีหลายๆคนเอาภาพของเขาไปวิเคราะห์ว่าถ้าใบหน้าที่ไม่มีแว่นจะเป็นยังไง แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าใบหน้าที่แท้จริงของเขาเป็นยังไง ดิเชร์เป็นนักแข่งที่ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวแม้กระทั่งชื่อจริง นามสกุลจริง ให้รู้แค่ชื่อที่ใช้ในการแข่งขันเท่านั้น ด้วยอำนาจและอิทธิพลของครอบครัวทำให้เขาสามารถทำได้
“แล้วมึงจะใส่สูททำไมว่ะ” มาร์โกถาม
“ก็ใส่ให้เหมือนพวกมึงและก็ตามที่คลาวด์ต้องการไง จบนะ” ดิเชร์พูดพลางยกยิ้มที่มุมปากก่อนเบะปากเป็นเชิงต่อว่าในแบบทีเล่นทีจริงไปยังคลาวด์ที่นั่งยิ้มแป้นให้กับเขาอยู่ที่ฝั่งเยื้องๆกัน
แล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นอีกครั้ง เพราะคลาวด์เป็นเจ้ากี้เจ้าการ จัดแจงให้กับเพื่อนรักแทบจะทุกอย่าง เพราะคลาวด์รู้ดีว่าถ้าไม่เตรียมชุดให้มีหวังดิเชร์คงใส่แค่ชุดลำลองธรรมดาเข้างานแน่ ๆ