ดิเชร์ เสนีต์ หรือเชร์อายุยี่สองปี เรียนอยู่ปีสี่และตอนนี้อยู่ในช่วงฝึกงานในบริษัทของพ่อเขาแต่ทว่าเขาไม่ได้ใช้นามสกุลพ่อ ดิเชร์เลือกใช้นามสกุลดูบัวส์ ซึ่งเป็นนามสกุลเดิมของแม่
เพื่อไม่ให้พนักงานในบริษัทรู้ว่าเขาคือใคร ดิเชร์เป็นนักแข่งดาวรุ่งมาแรงภายใต้ชื่อ ลีออง ชื่อเสียงของเขาเริ่มโด่งดัง เมื่อเขาคว้าแชมป์รางวัลที่หนึ่งด้วยสถิติใหม่ของวงการแข่งในถนนพื้นผิวเรียบที่มีความยาวของถนนหกจุดสองเจ็ดหกในต่างประเทศเมื่อปีที่แล้วและยังเป็นนักแข่งที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลนี้
"ลงไปได้แล้ว" เสียงทุ้มนุ่มละมุนหูดังขึ้นอย่างแผ่วเบาเพราะเขาไม่อยากให้เธอเสียหน้าต่อเพื่อนๆของเขาและเพื่อนๆของเธอ
หญิงสาวทำตามอย่างว่าง่ายพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆส่งกลับไปให้ดิเชร์ เป็นไปอย่างคำร่ำลือว่านักแข่งลีออง เป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติกับทุกคนเสมอและนี้เลยเป็นที่มาในหมู่สาวๆ ที่อยากจะถึงเนื้อถึงตัว แย่งชิงกันเป็นเจ้าของหัวใจของเขา
‘ฉันอยากได้เขา’ หญิงสาวคิดในใจแล้วกลับไปนั่งที่เดิมของตัวเองที่มีรอยส์นั่งอยู่เหมือนเดิม
ภายในห้องพิท ดิเชร์และกลุ่มเพื่อนๆนั่งคุยกันอยู่ไม่นานมากนัก ทั้งหมดก็ออกไปจากห้องเพื่อเตรียมตัวไปนั่งอยู่ข้างๆ แท่นพิธี
“ทำไมวันนี้พี่ๆเขาไม่มาว่ะ” คลาวด์ถามเมื่อเขาพึ่งสังเกตว่าไม่เห็นบอดี้การด์ของดิเชร์ในบริเวณงาน
“กูบอกพี่เขาไม่ต้องมา ให้ไปรอที่ผับเลย” ดิเชร์ตอบพลางมองขึ้นไปยังบนเวที ที่ตอนนี้พิธีกรสาวในชุดสีแดงกำลังพูดเกี่ยวกับกิจกรรมที่จัดขึ้นในงานวันนี้
“อ้าวมึงจะไปผับต่อเลยเหรอว่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” ก้อนเมฆถามด้วยสีหน้าปนสงสัยและเป็นห่วง
“พ่อให้ไปจัดการคนที่ไม่จ่ายหนี้น่ะ แล้วก็ดันเอาลูกสาวมาขัดดอก”
ดิเชร์พูดแบบเอือม ๆ ทำไมคนที่มาเล่นการพนันในกาสิโนถึงไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ แล้วพอเป็นหนี้ยังจะเอาลูก เอาเมียมาขัดดอกอีก พวกหน้าไม่อาย น่าขายหน้าจะตายพวกผู้ชายเห็นแก่ตัวเห็นแก่ประโยชน์ของตนเอง ดิเชร์ก่นบ่นภายในใจ และเพื่อนๆของเขาก็รู้ดีว่าดิเชร์คิดอะไร เป็นคนยังไงและเมื่อได้เห็นท่าทางที่นิ่งไป รอยส์จึงเป็นคนพูดขึ้นมาก่อนใคร
“เอ่อๆ เสร็จงานนี้ก็แยกย้าย แล้วค่อยนัดเจอกันวันที่หยุดก็แล้วกัน” รอยส์พูดเสริมและเพื่อนๆอีกสามคนต่างก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
พิธีเปิดสนามแข่งเป็นไปด้วยดี เสียงพิธีกรสาวกล่าวปิดจบงาน พร้อมกับเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นโพเดียม หรือบริเวณขอบสนามในส่วนที่อนุญาตให้แฟนๆของนักแข่งที่มาร่วมงานแสดงความยินดีกับความสำเร็จในอีกหนึ่งขั้น
“ขอบคุณมากนะคะพี่ใบบัว ถ้ามีงานอะไรหรือขาดคนเรียกดรีมได้ตลอดเลยนะคะ...แต่ถ้าจะให้ดีดรีมขอเป็นวันหยุดนะคะพี่ใบบัว” ดรีมพูดขึ้นเมื่อเธอเดินลงมาจากเวทีแล้วเจอกับใบบัวที่กำลังยืนรอเธออยู่ด้านหลังของเวที
ใบบัวเป็นออร์แกไนเซอร์ที่ดีกับดรีมเสมอมา นับตั้งแต่ใบบัวเริ่มชักชวนดรีมให้มาเป็นMCและงานอีเวนต์ต่างๆ และด้วยผลงานในงานแรก ดรีมมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดีเมื่อครั้งหนึ่งมีแขกร่วมงานดื่มเหล้าจนเมาและเกินการควบคุม ได้ขึ้นบนเวทีพร้อมกับโยกย้ายไปมารอบๆตัวเธอไม่ยอมลง ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่กล้าพอที่จะเอาผู้ชายคนนี้ลงได้เพราะเขาเป็นถึงระดับรองประธานของบริษัทที่ได้จัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นมา
ทำให้ดรีมต้องแก้ไขเฉพาะหน้าโดยการส่งสายตาให้คนดูแลเครื่องเสียงให้เปิดเพลงตามที่ได้เตรียมเอาไว้แล้วเธอก็โค้งให้กับผู้ชายที่เมาจนขาดสติเพื่อเป็นการขอเต้นรำก่อนจะรับมือใหญ่ๆเอาไว้แล้วจูงลงไปเต้นต่อที่ด้านล่างเวที แล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดีทำให้ ใบบัวรู้สึกชื่นชมจึงได้ชวนมาร่วมงานกันบ่อยขึ้นนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“ได้สิจ๊ะ แล้วนี้จะไปไหนต่อล่ะงานที่ผับเข้าทุ่มครึ่ง นี่เพิ่งจะบ่ายโมงเอง”
“ว่าจะกลับไปอาบน้ำ จะได้เข้าไปทำความสะอาดห้องด้วยค่ะพี่ใบบัว”
“อ่า...โอเคจ๊ะเอาไว้ถ้ามีงานพี่จะโทรไปหานะ จริงสิดรีมไม่สนใจงานที่พี่บอกเหรอ”
“อ๋อ...ขอดรีมคิดดูก่อนนะคะพี่ใบบัว ความจริงดรีมก็อยากทำอยู่เหมือนกันแต่...เดี๋ยวดรีมให้คำตอบอีกทีดีกว่าคิดๆไปก็เสียดาย ได้ตั้งหลายหมื่น"
"งานนี้พี่หักนายหน้าแค่พันเดียว อีกสามหมื่นเก้าพันเป็นของดรีม"
"พรุ่งนี้ดรีมจะให้คำตอบนะคะ ขอบคุณพี่ใบบัวอีกครั้งค่ะ”
“จ๊ะ ถ้างั้นก็...กลับดีๆล่ะ”
ดรีมยกมือไหว้ขอบคุณใบบัวก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณพิท เธอเดินเข้าไปที่ด้านหลังพิทที่เป็นบริเวณแพดด็อก[1]...ซึ่งจะมีห้องน้ำที่สะอาดที่สุดเท่าที่เธอรู้มาและวันนี้ห้องนี้ไม่ได้เปิดใช้งาน เธอจึงอยากจะเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยเสียก่อน ก่อนจะกลับเข้าห้องพักที่ในตึกแฟลตที่อยู่แถวนี้
มือเล็กผลักประตูกระจกใสเข้าไปด้านในแล้วชะโงกหน้าเข้าไปดูว่ามีคนอยู่หรือเปล่า เมื่อไม่มีใครเธอจึงเดินเข้าไปในห้อง แล้วตรงไปยังที่ห้องน้ำทันที
“มึงเปลี่ยนชุดที่พิทก็ได้จะมาในห้องน้ำห้องแพดด็อกทำไม เดินไกล” คลาวด์บ่นแต่ก็เดินตามดิเชร์มาในแพดด็อก
“พูดมาก”
ติ้ง! เสียงแจ้งเตือนของข้อความดังขึ้นในห้องน้ำริมสุด ทำให้ดิเชร์กับคลาวด์หันไปมองตามเสียงทันที
“โธ่พี่ใบบัว โอนเงินมาทำไมตอนนี้” ดรีมพูดเบาๆกับตัวเองก่อนจะรีบกดปิดโทรศัพท์มือถือ แล้วมองตามเงาที่พื้น ที่กำลังเดินตรงมาที่ห้องน้ำที่เธออยู่
“ใคร นักข่าว แฟนคลับ หรือซาแซง” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนด้านใน ขณะที่ดิเชร์เดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องด้านใน ที่มีห้องน้ำใหญ่ที่สามารถอาบน้ำได้
“เปล่าค่ะ ฉันแค่แอบมาเข้าห้องน้ำค่ะ”
“แล้วทำไมมาเข้าที่นี้ เธอไม่รู้หรือไงว่าห้องแพดด็อกห้ามคนภายนอกเข้า”
“ไม่รู้ค่ะ ขอโทษค่ะฉันจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
“ก็ออกมาสิ”
“คุณช่วยเดินออกจากหน้าห้องก่อนได้ไหมคะ” คลาวด์พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างไม่พอใจนักแต่ก็ยอมทำตามที่เธอขอ
แกร๊ก! เสียงปลดล็อกของประตูห้องน้ำดังขึ้น ร่างเล็กในชุดเดรสสีแดงก็เดินออกมาพร้อมกับก้มหน้ามองพื้นอย่างสำนึกผิด
“ขอโทษนะคะ ฉันคิดว่าเข้าห้องน้ำในนี้ได้” ดรีมรู้ดีว่าสิ่งที่เธอทำมันผิด เธอจึงได้ก้มหน้าก้มตามองที่พื้นไม่กล้าแม้แต่จะแอบมองคนที่ยืนหลบมุมอยู่
'คงเป็นนักแข่งรถที่ดังๆสินะ' ดรีมคิดขึ้นในใจ แล้วอยู่ๆตัวเลขสามหมื่นเก้าพันก็ลอยขึ้นมา 'ไม่ใช่ดรีม ยังไม่ใช่ตอนนี้'
คลาว์หันไปมองหน้าดิเชร์ที่ตอนนี้เปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิมเหมือนตอนที่มาพร้อมกับมีหน้ากากอนามัยปิดหน้าคู่กับแว่นตาดำแล้ว ดิเชร์พยักหน้าเบาๆ เป็นอันรู้กันเพราะเธอคนนี้คือคนที่ทำให้ดิเชร์มองอยู่นานสองนาน
“ไปเถอะ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดแต่ทีหลังจะทำอะไรต้องคิดดูหน่อยก็แล้วกัน เพราะถ้าไม่ใช่ผมเข้ามาแต่เป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาเจอผู้หญิงหน้าตาดี ใส่ชุดวับ ๆแวม ๆอยู่ในห้องที่ไม่มีใครมันจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้น”
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” ดรีมก้มศีรษะขอบคุณอีกครั้งแล้วรีบหันหน้าไปที่ประตูทางออกก่อนจะรีบเดินออกไปแทบจะทันที
“ไง มึงคิดว่าไง”
“อะไร หมายถึงอะไร”
“ก็ที่เธอเข้ามาในนี้ไงล่ะ เผื่อเป็นพวกซาแซงที่ชอบตามแอบถ่ายในที่ที่เราห้ามถ่ายไง คงจะอยากจะเห็นหน้าลีอองชัดๆ” ดิเชร์ที่ได้ยินก็ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับขำเบาๆในลำคอ เพราะสิ่งที่คลาวด์พูดมา มันคงเป็นไปไม่ได้
“นี่ชุดฝากด้วยนะ ไปล่ะ”
“เออ!!”
"เอายังไงดีนะ งานก็ไม่ได้ยากอะไรนี่นาแค่แอบถ่าย แอบตามดูว่าหน้าตาเป็นยังไงก็แค่นั้น...ง่ายออก" ดรีมพูดขึ้นมาระหว่างที่เดินออกจากสนามแข่งรถ พลางหยิบโทรศัพท์มือถือต่อสายหาใบบัว
"ฮัลโหล ว่าไงดรีม"
"พี่ใบบัวคะ ตกลงดรีมจะรับงานนักแข่งลีอองค่ะ"
"ได้สิ เดี๋ยวพี่คอนเฟิร์มทางนั้นให้ งานเสร็จรับเงินนะ"
"ได้ค่ะพี่ใบบัว"
ดิเชร์รีบเดินออกมาก่อนที่เพื่อนสนิทของเขาจะบ่นมากไปกว่านี้ สองเท้าเดินตรงไปที่ลานจอดรถมอเตอร์ไซค์แล้วรีบใส่หมวกกันน็อกแล้วสตาร์ทรถออกไปที่ทางออกประตูใหญ่ ถึงแม้รถจะเยอะแต่การที่เขาเอารถไอ้แก่มาทำให้เขาผ่านไปได้รวดเร็วถึงแม้จะติดบ้างเป็นบางช่วงก็ตาม
ระหว่างที่เขาขี่ไปตามทางท้องถนน สายตาคมก็มองไปด้านหน้าที่ทางเดิน เขาเห็นหญิงสาวชุดแดงที่ตอนนี้มีเสื้อคลุมปิดอยู่ที่ด้านบน มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมา
‘เดี๋ยวนะทำไมเราต้องรู้สึกสบายใจที่เห็นเธอใส่เสื้อคลุมล่ะ’
ดิเชร์ชะงักกับความคิดของเขาก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างที่ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน มือที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนบิดคันเร่งของแฮนด์ให้เร็วกว่าเดิมเพื่อที่จะรีบไปให้ถึงปลายทาง
เสียงของเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ที่เก่าและเสียงท่อที่ดังดูมีเอกลักษณ์ กลิ่นท่อไอเสียลอยไปแตะปลายจมูกของดรีมเข้า ทำให้เธอหันไปมองรถมอเตอร์ไซค์ที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นท่อไอเสียทันที
“ทั้งกลิ่น ทั้งควันดำขนาดนี้ต้องไปซ่อมมั้ย...เอ๊ะ! ใช่คันเมื่อเช้าไหมนะ” ดรีมพูดขึ้นถึงแม้จะคล้ายๆรถคันเมื่อเช้าต่อให้เธอจะวิ่งตามหรือตะโกนเรียก มันคงไม่ทันเสียแล้ว
“เฮ้อ คงได้เอาเงินไปบริจาคอย่างที่คิดเอาไว้ก็แล้วกัน” ดรีมพูดพลางเดินต่อไปไม่กี่เมตรก็ถึงซอยของคอนโดที่เธออาศัยอยู่
แฟลตXX
ตึกแฟลตเก่าในซอยที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินพลุกพล่าน ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า รถเข็นที่มีอาหารขายมีอยู่เต็มสองข้างทาง ถึงซอยจะแคบแค่ไหนแต่การสวนทางของรถยนต์ก็ผ่านไปได้ด้วยความชำนาญและการมีน้ำใจซึ่งกันและกัน แฟลตแห่งนี้ปลูกสร้างมากว่าสามสิบปี มีผู้อยู่อาศัยอยู่เต็มทุกห้องไม่เว้นแม้แต่ห้องใต้บันไดที่อยู่ชั้นล่างสุดที่เป็นห้องของดรีมกับแม่ของเธอ
ดรีมไขกุญแจเข้าห้องไปพร้อมกับแกงถุง ผลไม้และนมหนึ่งแพคที่เธอแวะซื้อที่หน้าปากซอย ทันทีที่เธอเดินเข้าห้องมาก็เห็นว่าแม่ของเธอกำลังแปะสติ๊กเกอร์ที่แม่ของเธอไปรับมาทำที่บ้าน เพื่อช่วยหารายได้เข้าครอบครัว ครอบครัวที่มีเพียงแม่และเธอเท่านั้น