“แกจะดื่มอะไร” ปิ่นทรายถามไข่มุกที่นั่งหันมองไปรอบตัวอย่างตื่นตา
“อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เหล้า” เธอตอบอย่างไม่คิดมาก เพราะวันนี้เธอคงต้องทำหน้าที่ขับรถให้กับสองเพื่อนสาว
“เอาน้ำผลไม้ปั่นแล้วกัน วันนี้แกไม่ได้ดื่มไม่ต้องหารค่าเหล้ากับพวกฉันหรอก นี่ก็ถือว่าฉันเลี้ยงแล้วกัน ส่วนค่าโต๊ะฉันออกเองไม่ต้องห่วง” ปิ่นทรายผู้ที่มีฐานะมากกว่าใครเอ่ยออกมา
“ไม่ได้ หารกันหมดนี่แหละมาด้วยกัน แกออกตลอดเลย” ไข่มุกไม่อยากเอาเปรียบเพื่อน กระต่ายเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอกล่าว สุดท้ายก็หารค่าเหล้าพร้อมค่าโต๊ะไปสามส่วนเท่า ๆ กัน
ครืด ครืด เสียงสั่นของโทรศัพท์ไข่มุกดังขึ้น เธอเปิดอ่านข้อความในทันที เป็นข้อความของเปรมที่ส่งมาให้เธอ
เปรม : มาหาฉันตอนนี้
คำสั่งที่ได้มองผ่านตัวหนังสือทำให้เธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย
ไข่มุก : พี่อยู่ที่ไหนคะ มีอะไรหรือเปล่า ตอนนี้หนูไม่ว่างค่ะ
เธอตอบกลับหากจะปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยก็กลัวว่าจะเสียมารยาท
เปรม : รีบมา อย่าให้ต้องอารมณ์เสีย
เปรมส่งโลเคชั่นสถานที่มาให้เธอ
ไข่มุก : พี่มีเรื่องด่วนอะไรคะ
เธอมิวายที่จะถามหาเหตุผลที่เปรมต้องการเจอเธอในเวลานี้ คงไม่ใช่ว่าไปค้างค่าเหล้าเขาเอาไว้อีกหรอกนะ ถึงให้เธอไปเจอในสถานที่แห่งนี้ พอมองดูแล้วสถานที่ที่เปรมส่งโลเคชั่นมาให้ กลับเป็นสถานที่ที่เธออยู่ในตอนนี้!
ไข่มุกเดินขึ้นมาด้านบนซึ่งเป็นโซนของห้องวีไอพีที่เธอเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อมองหมายเลขห้องแน่ใจแล้วว่าเป็นห้องนี้ไม่ผิดจึงเคาะประตูห้องแล้วผลักเข้าไปด้านใน ตอนนี้ในห้องเต็มไปด้วยควันบุหรี่และผู้ชายอีกห้าหกคนที่กำลังสวมกอดผู้หญิงข้างกาย
“ยืนบื้ออะไรรีบมาสิ” เปรมที่เห็นน้องสาวต่างสายเลือดเอ่ยขึ้น ไข่มุกไม่กล้าขยับเดินเพราะมองเห็นสายตาของผู้ชายหลายคนที่จับจ้องมาทางเธอ “หูหนวกเหรอ?”
“พี่เรียกหนูมามีอะไรคะ”
“ไม่เห็นที่ฉันส่งไปหรือไง” เปรมพยักหน้าให้เธออ่านข้อความ ‘เอาบัตรเครดิตมาให้ฉันยืมก่อน’
“หนูไม่ได้เอามาค่ะ หนูเอาเงินสดมาแค่ไม่กี่บาทเองค่ะ” เธอพิมพ์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวกูมานะ” เปรมลุกขึ้นก่อนลากดึงให้ไข่มุกเดินออกมาจากห้อง เดินมาที่หน้าห้องน้ำที่ปลอดคน “ทำไม ยืมหน่อยไม่ได้หรือไง แค่นี้เองเดี๋ยวฉันคืนให้”
“หนูไม่ได้เอามาจริง ๆ นะคะ พี่จะดูกระเป๋าหนูก็ได้” ไข่มุกเป็นคนซื่อยื่นกระเป๋าสตางค์ของตนเองให้เขาดู เปรมรีบดึงไปจากมือของเธอทันที
“ไม่ได้เรื่อง ฉันพึ่งพาอะไรเธอไม่ได้จริง ๆ สินะ” เขาดันลิ้นเข้ากระพุ้งแก้ม “เงินในบัญชีก็ไม่มีเลยเหรอ” เขาหันหน้ามาถาม
“คือ…” หญิงสาวอ้ำอึ้ง ก่อนที่เธอนั้นจะถูกแย่งโทรศัพท์ของตนเองไปจากมือ “พี่เปรม ไม่ได้หรอกค่ะ พรุ่งนี้หนูต้องใช้เงินนี้ไปซื้อตั๋วเครื่องบินนะคะ” เธอรีบแย่งโทรศัพท์คืนแต่กลับคว้าได้เพียงลม
“จะมาซื้อตั๋วเครื่องบินอะไรตอนนี้ ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้สถานการณ์ทางบ้านเป็นยังไง” เปรมเอ่ยก่อนที่จะให้ไข่มุกปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์
“แต่หนูต้องไปต่างประเทศนะคะ หนูต้องไปดูสถานที่เรียนต่อ ไม่ไปไม่ได้หนูทำเรื่องทุกอย่างเอาไว้แล้ว” ไข่มุกไม่รู้ว่าสิ่งที่เปรมพูดเป็นความจริงหรือไม่
“บอกให้ปลดล็อกหน้าจอไง อยากให้ฉันลงไม้ลงมือหรือไง เงินของเธอทุกบาททุกสตางค์ก็มาจากครอบครัวของฉันทั้งนั้น ฉันจะใช้เงินตัวเองมันผิดหรือไงห๊ะ!!” เปรมมีสีหน้าดุดันทำให้ไข่มุกกลัวจนตัวสั่น
สุดท้ายเธอก็ยอมให้เปรมนำเงินในบัญชีไปด้วยความกลัวจับใจ ในบัญชีเหลือยอดเงินเพียงหลักร้อยน้ำตาของเธอแทบร่วงไม่รู้จะทำเช่นไร หากจะขอมารดาก็ย่อมขอได้ แต่เธอบอกกับแม่แล้วว่าค่าใช้จ่ายทุกอย่างเธอจะเป็นคนจัดการเอง
“ฮึก ฮื้อ” เสียงร้องไห้ของไข่มุกดังขึ้น เธอทรุดตัวลงนั่งยองกอดเข่าของตนเอง หมดสิ้นแล้วเงินที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบมาสี่ปี ไม่คิดว่าจะหายวับไปกับตาเพียงไม่กี่นาที
“จะร้องไห้ก็ไปร้องที่อื่น อย่ามาขวางทาง” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น
ปลายรองเท้าสีดำมันวาวบ่งบอกได้ว่าเจ้าของดูแลรักษามันดีมากเพียงใด หญิงสาวเงยหน้ามองก่อนที่เธอนั้นจะยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ก่อนจะรีบเช็ดมันแล้วลุกขึ้นยืน
“คุณอีกแล้ว”
“หลีกไป” เขาจ้องมองใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา
“คุณก็มาเที่ยวเหมือนกันเหรอคะ” ไข่มุกหลีกทางให้เขาแต่ก็ยังถามคนตรงหน้า เพราะไม่คิดว่าตนเองจะมีวาสนาได้เจอกับเขาอีกครั้ง
“......”