บทที่ 1

1094 Words
"แม่คะ" "หรือแกอยากเห็นแม่ตายตรงนี้" "แต่ผู้หญิงที่เขาจะแนะนำในคืนนั้นไม่ใช่โมนาสักหน่อย" "แกก็ทำให้มันใช่ซะสิ" "แล้วฝ่ายนั้นเขาจะคิดยังไงล่ะคะ" "ไหนๆ ก็เปิดตัวไปแล้ว จะคิดยังไงก็ช่างปะไร สังคมรู้กันหมดแล้วว่าลูกชายของท่านพลเอกเกษมราษฎร์ กำลังจะแต่งงานกับลูกสาวคนสวยของแม่" "ชื่อเขาโมนาก็ยังไม่รู้ ชื่อของโมนาเขาก็ยังไม่รู้" "พี่เขาชื่อกองทัพหรือผู้พันกองทัพ อนาคตคงยืนอยู่ตำแหน่งเดียวกับพ่อ แกจับไว้ให้แน่นอย่าปล่อยมือเด็ดขาด" แพรวพราวคนเป็นแม่หมายถึงอนาคตของผู้พันกองทัพคงได้เป็นถึงพลเอก ย้อนกลับไปในวันที่เปิดตัว.. วันนั้นกองทัพคิดจะแนะนำเมขลาในฐานะผู้หญิงคนที่เขาเลือกจะแต่งงานด้วย ซึ่งมีบิดาคนเดียวกับมโนราห์หรือโมนา แต่แพรวพราวต้องการให้ลูกสาวได้ผู้ชายคนนี้เป็นสามี ก็เลยจับลูกสาวสวมรอยรีบชิงแนะนำไปก่อน จนทุกคนในงานเข้าใจว่าคนรักของกองทัพก็คือมโนราห์ ฝ่ายชายไม่อยากให้ท่านพลเอกเรวทัตคนที่เป็นพ่อของมโนราห์เสียหน้า ก็เลยเงียบเพราะคิดว่าถ้าจบงานเลี้ยงในคืนนั้นแล้วทุกอย่างคงจบ แต่มันกลับไม่ใช่แบบนั้น พอแพรวพราวหย่าขาดจากพลเอกเรวทัต ก็เลยให้ลูกสาวจับผู้พันกองทัพแทน "ถ้าแกไม่ทำตามที่แม่ต้องการ รอจัดงานศพแม่ได้เลย" "แม่!!" "ฉันไม่ได้ขู่ แกก็รู้ว่าคนที่หมดทางไปทำได้อยู่แล้ว" แพรวพราวคิดว่าจะใช้ลูกสาวนี่แหละเอาคืนคนพวกนั้นให้สาสม หลายวันผ่าน.. "แกทำอะไรอยู่ เรื่องที่แม่บอกไปจัดการหรือยัง" "ค่ะ" "ค่ะ?! ค่ะเนี่ยทำหรือไม่ทำ" "จะให้โมนาทำยังไงล่ะคะ เบอร์โทรเขาโมนาก็ไม่มี บ้านเขาอยู่ที่ไหนก็ยังไม่รู้" "เรื่องนั้นฉันจัดการให้แกแล้ว คืนนี้แค่แต่งตัวให้สวยๆ แล้วไปร่วมงานในการ์ดเชิญใบนี้ก็พอ" แพรวพราวยื่นการ์ดเชิญส่งให้กับลูกสาว "ชื่อหน้าซองยังไม่ใช่ชื่อของเราเลยแม่" มโนราห์เปิดเข้าไปดูข้างในยิ่งน่าตกใจกว่าหน้าซองอีก เพราะมันเป็น.. "งานแต่ง?" ชื่อเจ้าบ่าวไม่น่าตกใจเท่าไร แต่ชื่อเจ้าสาวนี่สิ "หึ! สมน้ำหน้าไอ้แก่นั่น เลิกกับฉันไปคิดว่าผู้หญิงเขาจะเอาล่ะสิ เขาหนีไปหาผัวใหม่ที่ดีกว่าอีก" "ไอ้แก่ที่แม่พูดนั่นพ่อโมนานะ" "พ่อแกไม่ใช่พ่อฉันสักหน่อย คืนนี้แกต้องไปร่วมงานนี้" ใช่แล้วงานนี้คืองานแต่งงานระหว่างท่านพลเอกเกษมราษฎร์และคุณพุดตาล "แม่ไปเอาการ์ดเชิญใครมาเนี่ย" "ของใครก็ช่าง แค่มีการ์ดเชิญก็เข้างานได้แล้ว" "ค่ะ" "ฉันจะติดตามผลแบบใกล้ชิด" แล้วเธอมีทางเลือกไหนได้อีก นอกจากทำตาม [โรงแรมหรูที่ใช้จัดงานแต่ง] มโนราห์ลูกสาวคนเล็กของท่านพลเอกเรวทัต ตอนสาวๆ แม่ของเธอมีดีกรีเป็นถึงนางเอกละครทีวี ความสวยของมโนราห์ไม่ต้องพูดถึง ยิ่งเธอแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าโดยช่างที่มีฝีมือ เพื่อจะมางานนี้โดยเฉพาะ ใจหนึ่งก็อยากให้ผู้ชายคนนั้นเป็นประเภทบ้าผู้หญิง เจ้าชู้อะไรประมาณนี้ เธอจะได้เข้าหาได้เร็วหน่อย "เชิญด้านในได้เลยครับ" พอเห็นซองคนที่อยู่หน้างานก็ปล่อยให้มโนราห์เข้ามาได้ เข้ามาถึงในงาน ดวงตางามเอาแต่จับจ้องไปที่โต๊ะหนึ่ง จนลืมสิ่งที่แม่สั่งให้ทำ และโต๊ะที่เธอจ้องมองอยู่มันคือโต๊ะพี่ชายพี่สาวของเธอเอง มโนราห์เพิ่งรู้ว่าเมขลาก็คือพี่สาวอีกคน ตอนที่แม่เล่าให้ฟังว่าใครเป็นใครบ้าง พวกเขาทำไมดูมีความสุขจัง แค่เห็นรอยยิ้มเวลาที่พวกเขาพูดคุยกัน แค่นี้ก็ทำให้คนมองรับรู้ได้แล้ว "ยินดีด้วยนะครับ" ขณะที่มโนราห์กำลังอยู่ในภวังค์ เสียงนี้ดังขึ้นไม่ไกล หญิงสาวรีบหันไปมอง พอรู้ว่าเป็นเสียงใครเธอก็รีบหลบหน้า "ขอบใจมากนะคุณผู้พัน" คือเสียงพุดตาลที่กำลังพูดกับลูกเลี้ยง นั่นก็คือผู้พันกองทัพ "ขอบใจผมทำไมครับ ผมต่างหากที่ต้องฝากคุณน้าดูแลพ่อแทนผมด้วย" เราจะเอายังดี เข้าไปตอนนี้เลยไหม พอคุยกับตัวเองรู้เรื่อง หญิงสาวก็รีบหันกลับไป "อ้าว? ไปไหนแล้ว" มองหาผู้ชายคนเมื่อสักครู่ไม่เจอ เห็นแต่คู่บ่าวสาวที่กำลังเดินขอบคุณแขกในงาน จะอยู่ในนี้นานก็ไม่ได้ กลัวพวกเขาเห็น ถ้าเห็นต้องจำได้แน่เลย เพราะงานเลี้ยงวันนั้นแม่ของเธอเล่นประกาศให้คุณรู้ไปทั่วว่าเธอคือคนที่กำลังจะแต่งงานกับผู้พันกองทัพ "นั่น? นั่นใช่ลูกสาวคุณแพรวพราวไหม" อย่างที่รู้กันอยู่ว่างานนี้เกษมราษฎร์ปล่อยให้นักข่าวเข้ามาทำข่าวได้ และนักข่าวก็ตาไวอยู่แล้ว "ตายแล้วว" มโนราห์กำลังจะหาทางหลบ แต่ไม่ทันนักข่าวตาไวที่รีบเดินตามเธอไป "คุณมโนราห์จริงด้วย" ที่จริงแต่ก่อนนักข่าวไม่รู้จักมโนราห์หรอก มารู้ก็วันที่แพรวพราวป่าวประกาศว่าเป็นคนที่กำลังจะแต่งงานกับผู้พันกองทัพนั่นแหละ "พวกพี่จำคนผิดแล้วมั้งคะ" "จำไม่ผิดแน่นอน คุณมาร่วมงานนี้ด้วยเหรอคะ" "ถ้าพวกพี่อยากถามอะไรก็ตามออกมาค่ะ" มโนราห์กลัวว่าพวกนั้นจะเห็นเธอก่อน พวกนั้นที่พูดถึงก็คือพี่ชายพี่สาวและคนที่เป็นเจ้าสาวในคืนนี้ นักข่าวได้ทีก็รีบเดินตาม เพราะถ้าได้เขียนข่าวต่างจากสำนักพิมพ์อื่นที่มาทำข่าวแต่งงานมันต้องขายได้หลายตังค์แน่ เราต้องหาทางชิ่งหนี ออกมาถึงข้างนอกก็เริ่มมองหาลู่ทางที่จะหนีแบบให้เนียนที่สุด อย่างเช่นขอไปเข้าห้องน้ำก่อน พอคิดได้แบบนั้นหญิงสาวก็ค่อยๆ หันกลับไปหานักข่าว "พี่คะฉันขอ...ที่รักขาาา" แตจังหวะนั้นเหมือนระฆังช่วย เพราะเธอมองไปทางห้องน้ำก็เห็นผู้ชายคนนั้นเดินออกมาจากห้องน้ำชายพอดี..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD