เกือบสิบนาทีที่ชาร์ลียืนจ้อง แม่ง! ทำงานก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เลิกงานยังต้องมาเจอกับเรื่องวุ่นวายนี่อีก
แต่ขณะที่ดวงตาคมกริบไล่ระดับต่ำลงเรื่อยๆ คนที่หลับอยู่ก็เริ่มขยับตัวจนดวงตาคมเข้มคู่นั้นตวัดกลับมามองที่ตาใสๆ ที่ซ่อนความดื้อรั้นนั้นตามเดิม
“พี่ลี…ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ” คนที่ตอนแรกรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันว่าถูกจ้องจึงขยับตัวช้าๆ แต่เปลือกตาดันเปิดขึ้น แต่มันเป็นอะไรที่โชคดีมากเพราะทันทีที่ตื่น คนที่เธอเห็นเป็นคนแรกกลับเป็นคนที่อยากเจอพอดีเลย
“หนูหลับไปเหรอคะเนี่ย ไม่เห็นรู้ตัวเลย” เสียงใสบอกออกมาพร้อมกับฉีกยิ้มจนตายี๋ ร่างเล็กรีบลุกแล้วตรงดิ่งเข้าไปคว้าลำแขนหนามากอดเอาไว้ทันที
“ประชุมทั้งวันเลย หิวไหมคะ เดี๋ยวหนูพาไปกินของอร่อยนะ”
“ไม่ว่าง” เสียงทุ้มตอบกลับและพยายามจะดึงมือเล็กออก แต่เป็นเธอที่เกาะไม่ยอมปล่อย
ชาติที่แล้วเกิดเป็นปลิงเหรอวะ เกาะแน่นฉิบหายเลย!
“แต่นี่มันเป็นเวลาเลิกงานแล้วนะคะ” ต่อให้คนตัวโตจะทำตัวไม่น่ารัก แต่เธอจะใช้ความน่ารักกับเขาเสมอ
“แล้ว?”
“หนูมาคอยพี่ตั้งแต่บ่ายสามพี่รู้หรือเปล่าคะ”
“รู้ แต่งานของฉันสำคัญมากกว่าเธอ” ชาร์ลีจ้องยัยเด็กขี้แยที่จำได้แม่นว่าที่ผ่านมาเธอยอมแพ้ให้กับทุกอย่างในชีวิต ยอมโดนแกล้ง ยอมแม่งกับทุกคน ไม่เคยสู้ แต่กับกูแม่งตื้อฉิบหาย
“แต่เราหมั้นกันแล้วนะ”
“ฉันหมั้นกับเธอเพราะอยากได้หุ้น”
“แต่การที่เราหมั้นกันมันไม่ได้ทำให้พี่ได้แค่นั้น ไม่ใช่แค่หุ้นที่เป็นของพี่ แต่หนูก็เป็นของพี่ในฐานะคู่หมั้นเหมือนกันค่ะ”
ชาร์ลีร้องเหอะเมื่อถูกเธอยัดเยียดในสิ่งที่เขาไม่อยากได้
“เธอเป็นแค่คู่หมั้น ไม่ใช่เมียฉัน”
“แต่ในอนาคตสถานะนั้นมันก็เป็นของหนูอยู่ดี หนูไม่มีวันปล่อยคู่หมั้นแบบพี่ให้หลุดมือ” น้ำอุ่นจ้องตาแข็งกร้าวคู่นั้นที่ปฏิเสธเธอหัวชนฝา ราวกับว่าเธอไม่น่ารักเลยในสายตาเขา เธอไม่น่ารักจริงๆ เหรอ ไม่สวยเลยใช่ไหม ถ้าใช่แล้วทำไมหนุ่มๆ ตามจีบเธอทั้งมหาวิทยาลัย
เมื่อก่อนเธอไม่แพรวพราวขนาดนี้น่ะใช่ เรียบๆ ง่ายๆ คือเธอในอดีต แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนตัวเองแล้ว สลัดคราบยัยน้ำอุ่นหน้าเซ่อตาซื่อที่ยอมคนเป็นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
ตอนนี้ใครร้ายมาเธอจะร้ายกว่า
และสำหรับบางคนที่ในอดีตทำร้ายเธอซ้ำๆ วันนี้เธอจะทำให้คนเหล่านั้นกระอักเลือดจนตาย
“หิวข้าว~ พาไปกินข้าวหน่อยได้ไหมคะ หนูเห็นมีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่”
“ฉันไม่ใช่คนขับรถส่วนตัวของเธอ”
“งั้นกินก๋วยเตี๋ยวก็ได้ค่ะ ก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ตรงซอยทางเข้าบริษัทพี่ หนูเห็นคนนั่งกินกันเยอะเลย”
“ฉัน ไม่ ไป!” ชาร์ลีย้ำช้าๆ ใส่หน้าสวยๆ จนยัยขี้แยหลับตาปี๋ ถึงอย่างนั้นเธอก็ดื้อตื้อเขาต่ออยู่ดี
“งั้นพี่ลีจะไปไหน หนูจะไปด้วย”
“ไม่ใช่ธุระของเธอ” แล้วเขาก็ใช้จังหวะที่เธอเผลอดึงมือเธอออกจากลำแขนแกร่งก่อนที่ขายาวจะก้าวหนีเธอ
“เดี๋ยวค่ะ รอด้วย” มือขาวรั้งกระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาคล้องบ่าก่อนจะวิ่งตามร่างสูงที่กำลังก้าวเข้าไปในลิฟต์ วินาทีนี้เดินอย่างเดียวไม่ได้ต้องวิ่ง เขาขายาวแต่เธอขาสั้น สุดท้ายเธอก็ตามทันและคว้าแขนหนามากอดอีกครั้ง และครั้งนี้เขาสลัดไม่หลุดแน่นอน
“นี่เธอ!” หน้าอกใหญ่ภายใต้เสื้อนักศึกษาเรียบกริบกระแทกกับท่อนแขนแกร่งจนมาเฟียหนุ่มตวัดสายตามาจ้องหน้า ดุเหมือนหมาแล้วใครว่ายัยน้ำอุ่นกลัวกันล่ะ เธอยิ้มจนตายี๋อีกครั้ง อวดลักยิ้มเล็กๆ ข้างแก้ม แล้วอธิบายออกไป
“หนูกลัวผีค่ะ ไม่อยากประกบหลังเป็นคนสุดท้ายเลยรีบไปหน่อย”
“เธอกลัวผี แต่ไม่กลัวฉัน?”
“กลัวผี ไม่กลัวพี่ค่ะ”
“แปลว่าไม่รู้สินะว่าไม่ได้มีแค่ผีที่จับเธอหักคอได้ ฉันก็ทำได้เหมือนกัน”
————————————-
ปากบอกจับยัยน้องหักคอได้ไม่ต่างหากผี อนาคตอย่าให้เห็นว่าอยากกลายร่างเป็นผีซะเองล่ะ ว่าแต่… อย่างพี่ลีคนโหด ควรเป็นผีอะไรดีคะ 😅