พบกันครั้งแรก
" หา!? "
"..."
" เขาบอกให้ไปเย็นนี้เหรอคะ? ทำไมจู่ ๆ ถึงรีบร้อนอย่างนี้ล่ะ? "
แล้วดูฉัน...
ลู่ถิงถิงก้มลงสำรวจตัวเอง วันทำงานเธอแต่งตัวสบาย ๆ ด้วยเสื้อยืดสตรีทแบรนด์ กับกางเกงยีน ตามด้วยรองเท้าผ้าใบที่วัยรุ่นกำลังนิยม ราคาไม่มากไม่น้อย โดยรวมดูดีแต่ก็ไม่ใช่ชุดที่จะไปพบปะผู้ใหญ่ระดับคุณนายตระกูลจางแน่ ๆ กว่าจะเลิกงานก็เกือบหนึ่งทุ่มทุกวัน เธอจะเอาเวลาที่ไหนไปแปลงโฉมทันก่อนดินเนอร์! ผู้อำนวยการจางคนนั้นเป็นบ้าไปแล้วเหรอ! เพิ่งจะติดตามเวยปั๋วกันได้หนึ่งคืนเท่านั้นเอง หรือนี่คือนานแล้วสำหรับผู้ชายอย่างเขา
" เอ่อ...เธอกลับไปช่วงบ่ายเลยก็แล้วกัน บอกทุกคนไปว่าเธอรู้สึกไม่สบาย ฉันจะจัดการเรื่องลาให้เอง "
" ก็ต้องอย่างนั้น แต่นี่...เขาบอกอีกหนึ่งปีถึงจะแต่งงานกัน ตอนนี้รู้จักกันแค่คืนเดียวก็จะพาไปพบแม่เขาแล้ว! "
ซ่งจางหมิ่นยิ้มแห้ง เขาไม่มีข้อแก้ตัวอะไรเลยจริง ๆ อยู่ดี ๆ เด็กบ้านั่นก็มีคำสั่งฟ้าผ่าให้จองภัตตาคารดังขึ้นชื่อริมแม่น้ำหลิวหยาง พร้อมระบุเมนูโปรดของคุณนายจางมาเป็นชุด ๆ ตอนแรกเขาก็คิดว่าเป็นดินเนอร์ครอบครัวธรรมดา จนกระทั่งจบท้ายด้วยการสั่งให้ลู่ถิงถิงไปร่วมสังสรรค์กับครอบครัวพร้อมกัน ก่อนจะตัดสายไปดื้อ ๆ นี่แหละ
" เอาน่า นึกถึงรถคันใหม่ของเธอเข้าไว้ "
" ฉันต้องแต่งตัวแบบไหนก็ไม่รู้ แม่เขาชอบแบบไหนกัน เห้อ! "
หญิงสาวทิ้งตัวลงบนโซฟารับแขกในห้องผู้จัดการฝ่ายอย่างอ่อนแรง ใช่ว่าเธอจะไม่เคยไปพบปะครอบครัวฝ่ายชายในตอนที่มีแฟน แต่นั่นมันก็ผ่านมาหลายปีมากแล้ว แถมยังกังวลไปหมด โชคดีที่แฟนคนเก่าคอยอยู่เคียงข้าง ช่วยเลือกเสื้อผ้าเครื่องประดับ แนะนำนิสัยใจคอครอบครัวมาก่อนเบื้องต้น
แต่นี่ไม่มีข้อมูลอะไรเลยสักอย่าง!
" ฉันเคยเจอครั้งหนึ่ง คุณนายจางแต่งตัวเรียบง่าย ดูหรูหราโดยที่ไม่เว่อร์จนเกินไป เคยได้ยินว่าเวลาอยู่บ้านก็ชอบทำอาหารมาก "
ผู้หญิงเรียบร้อยที่หรูหราและชอบทำอาหาร ไม่เลวเลย ช่างเป็นแม่สามีในฝันโดยแท้ ถ้านิสัยดีด้วยก็จะยิ่งดีมาก ๆ ถ้าอย่างนั้นเธอจะได้เลือกชุดที่สีสันไม่สะดุดตา เป็นเดรสคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์ดัง มีสร้อยเงินและจี้เล็ก ๆ สักเส้นก็คงพอได้ ปิดท้ายรองเท้าส้นสูงสีน้ำตาลอ่อนที่ซื้อมาใหม่
" ลุกขึ้นได้แล้ว เธอมาอู้ที่ห้องฉันนานเกินไปแล้ว "
" อะไรกันเล่า ฉันก็มาลาป่วยไงคะ "
ผู้จัดการหนุ่มส่ายหน้า ครั้งนี้เขาจะหลับตาข้างหนึ่งที่ผู้อำนวยการจางรบกวนลูกน้องของเขาในเวลางาน แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีกล่ะก็ ซ่งจางหมิ่นจะต้องปรามเจ้านายของเขาอย่างเด็ดขาดแน่ ๆ ตั้งแต่ทำงานมาลู่ถิงถิงไม่เคยลางาน หรือลาป่วยสักครั้ง แต่จางป๋อเหวินกำลังทำให้เธอมีประวัติการทำงานที่ด่างพร้อย!
หลังจากขอลางานช่วงบ่ายออกมากลางคัน ลู่ถิงถิงพบว่านี่มันน่าปวดหัวกว่าที่คิด...เพื่อนร่วมงานต่างพากันส่งข้อความทางแชทมาไม่ขาดสาย ทุกคนล้วนเป็นกังวล เนื่องจากเธอไม่เคยลาป่วยมาก่อน อาเจียวและอาเว่ยถึงขั้นจะอาสามาทำข้าวเย็นและอยู่เป็นเพื่อนที่ห้องหลังเลิกงานเลยทีเดียว เธอจึงจำใจต้องโกหกเรื่องน่าอายว่าแค่เธอปวดท้องประจำเดือนเท่านั้น ทุกคนถึงได้วางใจและปล่อยให้เธอได้พักผ่อน
โดยไม่รู้ว่าอันที่จริงนั้น เธอกำลังจะไปดินเนอร์กับเจ้าของบริษัท..
' ไม่ต้องขับรถมาเอง '
' ส่งโลเคชั่นของคุณมาก่อนห้าโมง '
ข้อความจากแฟนหนุ่มปลอม ๆ ชั่วข้ามคืนปรากฏขึ้น เขาและเธอเพิ่งจะมีเบอร์โทรศัพท์ของกันและกันเมื่อชั่วโมงก่อน จากการประสานงานของซ่งจางหมิ่น ช่วยไม่ได้ที่พวกเราต่างจำเป็นต้องเล่นให้สมบทบาท ลู่ถิงถิงจึงบันทึกชื่อของเขาไว้ว่า ที่รัก แม้จะรู้สึกขนลุกสักหน่อย
' ผมกำลังออกไป '
ไม่มีเวลามาคิดฟุ้งซ่าน..เธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนใจร้อนด่วนได้จริง ๆนั่นแหละ! เขาบอกให้ส่งโลเคชั่นไปก่อนห้าโมง แต่นี่เพิ่งจะสี่โมงเขาก็บอกว่ากำลังมา ลู่ถิงถิงรีบรวบผมลอนยาวอย่างเรียบง่าย ม้วนผมเป็นมวยไว้ตรงหลังต้นคอ ใบหน้าไม่แต่งแต้มอะไรมาก นอกจากลงรองพื้นและแป้งบาง ๆ ตามด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อน สวมใส่เดรสสั้นสีครีม คลุมด้วยเสื้อเบลเซอร์แขนกุด และรองเท้าส้นสูงเท่านั้น โดยรวมจึงดูเรียบร้อย หรูหรานิดหน่อยพอประมาณ
' รออยู่ข้างล่าง '
ไม่ถึงสิบนาทีหลังจากที่เขาบอกว่าจะออกมารับ ลู่ถิงถิงก็มานั่งเกร็งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ อยู่บนรถสปอร์ตคาร์สีแดงสดคันละหลายสิบล้านหยวน ในประเทศนี้คงจะมีคนมีฐานะพอจะขับรถรุ่นลิมิเต็ดนี้ได้อยู่ไม่กี่คัน จางป๋อเหวินอยู่ในชุดสูทสีดำเรียบง่าย ด้านในสวมเสื้อยืดสีเทาคอกว้างสบาย ๆ แทนเสื้อเชิ้ต ดูผ่อนคลายไม่เป็นทางการมากนัก ยิ่งผมสีอ่อนของเขาที่ถูกเซตเปิดหน้าผากยิ่งทำให้เขาดูหล่ออย่างร้ายกาจกว่าปกติไปอีกสองเท่า
" ผมอยากให้คุณรีบสนิทสนมกับแม่ผมหน่อย "
"..."
" ช่วงนี้เธอค่อนข้างโทรตามผมบ่อยเกินไป "
" ค่ะ "
ก็ถ้าพวกเธอเข้ากันได้ดีน่ะนะ! ยังไม่ทันเคยเจอกันเลยแท้ ๆ ลู่ถิงถิงไม่พูดอะไรอีกจนกระทั่งรถยนต์หรูจอดสนิทที่หน้าภัตตาคารอาหารจีนริมน้ำ เขาแสดงความเป็นสุภาพบุรุษโดยการลงมาเปิดประตูรถให้เธอ พร้อมทั้งใช้วงแขนประคองเอวเล็กไว้หลวม ๆ เพื่อนำทางพาเดินเข้าไปด้านใน หญิงสาวไม่ได้ตกใจหรือขัดขืนเพราะเข้าใจดีว่าพวกเราต้องเล่นไปตามบทบาท ในที่สุดก็มาถึงโต้ะภายในห้องกระจกวีไอพีที่มีคุณนายจางนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
" ตายจริง หนูก็ชอบทำอาหารเหมือนกันเหรอจ๊ะ "
มื้ออาหารดำเนินไปอย่างราบรื่น สายตาคุณนายจางพึงพอใจหญิงสาวในชุดเรียบง่ายดูดี แต่ก็ไม่ได้เรียบร้อยจนเกินไป อีกทั้งยังคุยกันเรื่องรสชาติอาหารอย่างออกรส ในขณะที่ลูกชายตัวดีของคุณนายจางก็ยังคงเล่นละครได้อย่างแนบเนียน ทั้งตักอาหารให้ถิงถิงเป็นระยะ รวมถึงใช้กระดาษทิชชูคอยซับที่มุมปากให้ แถมยังจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ชวนให้ร้อน ๆ หนาว ๆ อย่างต่อเนื่อง
" ถิงถิงทำอาหารเก่งมากครับแม่ พวกอาหารสุขภาพ "
" ก็นั่นน่ะสิ..หนูหุ่นดีมากเลยจ๊ะ "
ใบหน้าหวานยิ้มรับ เธอรู้สึกถูกใจคุณนายจางเข้าแล้ว นอกจากจะไม่ถือตัวยังคอยชมเธอด้วยความเอ็นดูอยู่ตลอด ทั้งหมดนี้ช่วยให้เธอคลายความกังวลและตื่นเต้นไปได้มาก จากที่กลัวว่าครอบครัวของเขาจะไม่ชอบ กลายเป็นว่าเธอกล้าตักปลานึ่งบ๊วยวางลงบนจานคุณนายจางได้อย่างเป็นธรรมชาติ
" แบบนี้แม่ก็หายห่วงเลยจ้ะ เจ้าลูกชายจะได้อยู่กับบ้านกับช่องสักที "
" เธอน่ารักขนาดนี้แล้วผมจะไปไหนล่ะครับ? ใช่ไหมถิงถิง "
อย่าพูดเหมือนพวกเรากำลังอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันแบบนั้นได้ไหม!เผื่อจะลืมไปว่าเพิ่งรู้จักกันเมื่อวานน่ะนะ!
ริมฝีปากสวยฉีกยิ้มไม่กล้าปฏิเสธคำพูดของเขาต่อหน้าผู้ใหญ่ ยิ่งจางป๋อเหวินขยับเข้ามาใกล้กันจนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ยิ่งทำให้เธอจำต้องเล่นตามน้ำไปกันใหญ่
" ตายจริงทั้งสองคน.. "
" แม่จะมาโทรหาผมบ่อย ๆ ทุกคืนไม่ได้แล้วนะครับ เกิดว่าผมอยู่กับถิงถิง..."
" แหม! เด็ก ๆ สมัยนี้ล่ะก็! แม่จะไม่โทรเซ้าซี้ก็ได้แต่ห้ามรังแกถิงถิงเชียวนะ! "
" ผมอ่อนโยนจะตายไป "
ไม่พูดเปล่า เขายังใช้มือข้างหนึ่งโอบไหล่ของเธอไว้เอาไว้ ก่อนจะก้มลงมาสบตากับเธอในระยะประชิด ใบหน้าของพวกเราอยู่ห่างกันแค่คืบจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนที่กระทบลงบนผิวแก้ม ไม่รู้ว่าเขาแสดงละครเก่งสมกับเป็นผู้อำนวยการบริษัทโปรดักชั่นขนาดนี้ได้ยังไง ดวงตาพราวระยับนั่นถึงทำให้หญิงสาวใจเต้นแรงเสียได้ คุณนายจางที่นั่งฝั่งตรงข้ามลอบอมยิ้มก่อนจะใช้ช้อนส้อมเคาะเรียกสติที่ศีรษะลูกชายเบา ๆ เขาจึงยอมขยับตัวออกไปนั่งดี ๆอีกครั้ง
" รู้แล้วว่าถิงถิงน่ารัก รีบทานข้าวให้เรียบร้อยแล้วก็พาไปส่งบ้านด้วยล่ะ "
" แน่นอนอยู่แล้ว "
"..."
" ไว้ผมจะส่งเข้านอนด้วยเลย "