DEEP LOVE : 14

1389 Words
ผมพาร่างกึ่งไร้สติออกมาจากห้องนั่นและตรงไปยังซูเปอร์คาร์ที่จอดไว้ด้านหน้า พลางลอบมองคุณหนูลลิลเป็นระยะ “กินอะไรขนาดนี้วะ” ผมอดที่จะบ่นให้คนในอ้อมแขนไม่ได้ "ไม่เอา ไม่กลับ" และเหมือนเธอได้สติขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งดิ้นทั้งโวยวายไม่หยุด ผมทำได้แค่เร่งฝีเท้าให้ถึงรถเร็วที่สุด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี เธอก็ยังคงเป็นเธอ เป็นคุณหนูลลิล คนที่ไม่เคยเผยด้านอ่อนแอให้ใครเห็น แม้กระทั่งตอนเมา บางคนบอกว่าเวลาเมาคนเราจะแสดงด้านที่ถูกเก็บซ้อนไว้ในห้วงลึกของความรู้สึกหรือด้านที่ไม่อยากให้ใครเห็นออกมา แต่สำหรับคุณหนูลลิล ไม่ว่าจะเมาหรือไม่เมา ก็ยังคงด้านเข้มแข็งของตัวเองไว้ได้เสมอ นั่นคงเป็นเพราะเธอเมาแค่ร่างกาย ขนาดเหล้ายังทลายกำแพงเข้าไปถึงความรู้สึกเธอไม่ได้เลย… “ไปไหน” เสียงยืดยานเอ่ยถามในตอนที่ผมวางเธอลงบนเบาะหนัง “กลับบ้าน” ผมตอบพลางเอื้อมดึงเบลล์มาคาดให้เธอ “ไม่กลับ ไม่ๆๆๆ” ผมไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอพูด ก่อนจะปิดประตูและอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง เพราะตอนนี้ดูเหมือนแรงที่มีเหลือน้อยนิดค่อยๆ หมดลงเรื่อยๆ ไม่งั้นเธอคงพาตัวเองลงจากรถไปแล้ว ไม่นั่งโวยวายอยู่แบบนี้หรอก อย่างน้อยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก็ช่วยทำให้ร่างกายเธออ่อนแรงลงได้ล่ะวะ และผมก็ไม่คิดจะพาเธอไปส่งบ้านสภาพแบบนี้แน่ พอรถเคลื่อนออกมาสักพักทุกอย่างก็เงียบลงเหมือนปิดสวิตช์ ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่หันไปมองคนข้างๆ ผู้หญิงอย่างคุณหนูลลิล ใครจะปราบพยศเธอได้ ถ้าไม่ใช่ผม… ดีที่คอนโดใหม่ไม่ได้ไกลจากผับไอ้ดินเท่าไหร่ ใช้เวลาขับรถไม่ถึงยี่สิบนาที คนเมากลับมาได้สติอีกครั้งในตอนที่ผมช้อนร่างเธอขึ้นจากเบาะและเดินขึ้นห้อง “อื้อออ…ไม่เอา ไม่กลับ” “ไม่กลับอะไรล่ะ ถึงแล้ว” ผมค่อยๆ วางร่างบางที่ยังพอมีสติหลงเหลือลงบนเตียงขนาดใหญ่กลางห้องนอน ก่อนจะเอื้อมไปเปิดไฟหัวเตียง นั่งลงบนเตียงข้างเธอและมองสำรวจไปรอบๆ ห้อง ความจริงผมก็เพิ่งได้เข้ามาที่นี่หลังจากที่เพิ่งตกแต่งเสร็จไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ตรงตามบรีฟอยู่นะ…แต่ก็ไม่ได้ว้าวอะไร เพราะผมตั้งใจแต่งไว้ให้ยัยคุณหนูเอาแต่ใจเนี่ยแหละ หมับบบ เธอคว้าข้อมือผมในตอนที่ผมลุกขึ้นและกำลังจะเดินออกจากห้อง นั่นเลยทำให้ผมนั่งลงที่เดิมอีกครั้ง คนเมาลืมตามองผมด้วยแววตาหวานเยิ้ม แน่นอนว่าผมไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะนั่นเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือดึงเสื้อผมเข้าหา เธอแทบไม่ได้ออกแรง เป็นผมเองนี่แหละที่โน้มตัวเข้าหาเธออย่างจงใจ สองแขนเล็กเปลี่ยนเป็นโอบรอบต้นคอผมและกระชับขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีช่องว่างเหลือระหว่างปลายจมูก เราจ้องตากัน ก่อนที่ผมจะเลื่อนสายตาลงมาที่ริมฝีปากบางเรียวและอดไม่ได้ที่...จะจูบเธอ ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยในตอนที่ผมกดริมฝีปากแนบลงไป ทุกอย่างเหมือนถูกจับวาง ทั้งบรรยากาศและโอกาสมันมาได้ถูกจังหวะไปหมด ผมเป็นผู้ชายนะ…ใครจะทนไหว ผมกัดกลีบปากล่างเบาๆ ส่งผลให้คุณหนูคนสวยเผยอปากเล็กน้อยและนั่นทำให้ผมส่งลิ้นเข้าฉกชิมความหวานในโพรงปากเล็กได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะลืมตาขึ้นมองคนใต้ร่างที่เปลือกตาเธอก็ไม่ได้ปิดสนิทดีและเธอกำลังมองผม วูบหนึ่งผมรู้สึกว่ามีอะไรแปลกไป ใจผมเริ่มสั่นแบบไม่รู้สาเหตุ จุดพีคคือผมเคยรู้สึกแบบนี้…แต่นั่นมันเกือบแปดปีได้แล้วนะ หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยมีอาการแบบนี้อีกเลย ไม่ว่ากับผู้หญิงคนไหน จนกระทั่งวันนี้… ผมผละออกจากร่างบางและเดินออกนอกห้องทันที .... .... และนั่นคือสาเหตุที่ไอ้หมอมันบอกว่าการ์ดผมตก… ผมเองก็ไม่คิดว่าจะพลาดเหมือนกัน ผมได้จูบเธอ แต่ผมกลับเป็นคนทิ้งให้ทุกอย่างมันค้างคาเสียเอง แล้วผมก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ด้วย “เออ เฮีย ค่าเสียหายเมื่อคืนอ่ะ” เสียงไอ้ดินทำให้ผมพาตัวเองกลับมาอยู่ในช่วงเวลาปัจจุบัน “แค่นี้ทำเป็นทวง ไอ้ห่า” ผมล้วงบัตรเครดิตมาหนึ่งใบและยื่นให้ไอ้เจ้าผับหน้าเลือดที่ทวงแม้กระทั่งเพื่อนฝูง “ใบนี้วงเงินเท่าไหร่ ผมกลัวไม่พอ” “ไม่พอเหี้ยไร ใบนี้วงเงินเป็นแสน เอาไรมาไม่พอ” “ก็ยอดทั้งหมดมันแสนห้า” พรวดดด “ห๊ะ!!!” อันนี่เสียงผม ส่วนไอ้ที่เหล้าพุ่งออกปากนั่นอะ ไอ้หมอ ทุกคนตาค้าง ผมตกใจสุดเพราะเป็นคนจ่ายเงิน ไอ้เหี้ยดินมันต้องล้อผมเล่นแน่ๆ “มึงว่าเท่าไหร่นะ” ผมถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “แสน…ห้า ครับ คุณลูกค้า จะดูบิลไหม” มันตอบกลับแบบเน้นย้ำราคาให้ได้ยินชัด “ค...ย” คำเดียวสั้นๆ เน้นๆ ที่ผมจะให้มัน ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าที่อยู่ใกล้มือขึ้นดกจนหมด “เอ้า ไอ้สัส เหล้ากู” ไอ้วาโยว่า แต่ไม่ทันแหละ ผมส่งแก้วที่มีแต่น้ำแข็งคืนให้มัน ได้ยินจำนวนเงินแล้วรู้สึกคอแห้งขึ้นมาเลย “ว่าที่เจ้าสาวมึงสั่งอะไรมากินวะ” ไอ้วาโยรับแก้วพร้อมกลับถามขึ้นด้วยรอยยิ้มที่น่าโดนส้นตีนสุด “สั่งฉลามวาฬมาแดกมั่งไอ้เหี้ย ไปไกลๆ ตีนกูเลย” ผมพูดพลางยกเท้าจะถีบมัน ดีที่มันดีดตัวลุกไปก่อน คนยิ่งอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ แพงแค่ไหนผมก็มีปัญญาจ่ายได้นะ แต่มันก็ไม่ได้จำเป็นต้องมาเสียเยอะขนาดนี้เปล่าวะ ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังแดกเหล้ากันไม่เคยเกินห้าหมื่นสักที เกินไปอยู่นะ… “ค่าเหล้า ค่าห้อง ค่าอาหาร รวมกันยังไม่ถึงห้าหมื่นเลย” ไอ้เจ้าของผับพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปสักพัก “แล้วที่เหลือค่าอะไรวะ” ผมถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ “ตามกูมา” พูดจบมันก็ลุกเดินออกไปจากห้องและตามด้วยพวกผมทั้งหมด ความจริงมันควรมีผมแค่คนเดียว แต่ไอ้พวกเหี้ยทั้งหลายเนี่ย…เสือกอยากรู้ด้วย ไอ้ดินเปิดเข้าไปในห้อง VIP02 ก่อนจะเดินไปเปิดไฟ เท่านั้นแหละ…ผมนี่ยกมือกุมขมับเลย อย่างแสบ แม่งเอ้ย… “เชี่ยยย” ไอ้ยูตะอุทานออกมาคนแรก “เอาเรื่องของจริง” ไอ้ธามพูดพร้อมกับมองหน้าผม “ค่าเสียหาย กูก็บอกเฮียแล้วว่าค่าเสียหาย” ไอ้ดินว่า เออ…ก็จริงอย่างที่มันพูดเพราะมันบอกผมว่าเรื่องค่าเสียหายเมื่อคืน ยัยคุณหนูเล่นซะยับเลย โฮมเธียเตอร์สุดหรูพับยับแทบหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ก็ยังแตกอีก “กูเคยบอกแล้วไงอย่าเอาชุดหรูๆ มาไว้ในห้องที่มีแต่คนเมา” ไอ้วาโยพูดในตอนที่เดินสำรวจร่องรอยความพังพินาศ “แต่กูว่าเธอตั้งใจ เด็กกูบอกว่าเธอถามตั้งแต่เดินเข้าห้อง ว่าอะไรแพงที่สุดในห้อง” “ชัดเลย เธอกะเล่นมึงเต็มๆ” ผมตวัดตามองไอ้เหี้ยหมอ จะย้ำทำห่าอะไร…รู้ตั้งแต่เห็นสภาพห้องละ “ถ้ามีเมียแดกเหล้า คืนละเป็นแสนก็หนักอยู่นะ” “ทีงี้ละพูดยาวได้นะมึง” ผมหันไปว่าไอ้ฟิวส์ที่ร้อยวันพันปีไม่เห็นค่อยพูดอะไร แต่เวลาตอกย้ำกูนี่…พูดได้พูดดี ถ้ายัยคุณหนูจะเล่นกับผมแบบนี้มีหวังผมหมดตัวก่อนจะได้ในสิ่งที่ต้องการแน่ มันคุ้มไหมวะเนี่ย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD