หลังจากที่ผมเคลียร์ค่าเสียหายทั้งหมดที่ยัยคุณหนูลลิลก่อไว้กับไอ้ดินเสร็จเรียบร้อยก็รีบบึ่งรถไปยังคฤหาสน์ของเรืองขจรทันที ระหว่างทางก็คิดถึงแต่อนาคตข้างหน้า ถ้าว่าทีภรรยาของผมเล่นผลาญเงินแบบนี้จะเข้ากับว่าที่แม่สามีอย่าง คุณหญิงมาริสา ได้ไหมนะ ผมนี่ปวดหัวรอเลย แค่ที่ผมกับพ่อใช้กันอยู่ทุกวันนี้ยังบ่นเช้า บ่นเย็น ถ้าเพิ่มลูกสะใภ้มาช่วยใช้อีกคนนะ คุณหญิงมาริสาอกแตกแหงๆ
ถึงบ้านผมจะรวยขนาดไหน แม่ ก็ยังเป็นคนคอยควบคุมเรื่องการใช้จ่ายแทบจะทุกอย่างของทั้งที่บ้านและ AJD Group ท่านเป็นเหมือนนักตรวจสอบบัญชีอาวุโสเลยก็ว่าได้ แถมยังมีนิสัยมัธยัสถ์ขั้นสุดอีกด้วย การใช้จ่ายของท่านมักจะต้องเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเสมอ แต่ผมกลับไม่ได้แม่มาเลยสักนิด
ได้มาแต่สิ่งดีๆ ของพ่อที่แฮฟเงินแม่เป็นประจำ ซึ่งผมยกให้พ่อเป็นไอดอลเลยสำหรับเรื่องนี้ เพราะไม่งั้นผมคงไม่มีเงินมาใช้ไร้สาระ กินเหล้าหรือเที่ยวผู้หญิงตั้งแต่สมัยเรียนแบบนี้หรอก พอโดนจับได้ก็ทนหูชาไปสักสองสามวัน หลังจากนั้นก็ทำใหม่ วนลูปไปเรื่อยๆ เพราะผมมึนใส่อยู่แล้ว
แต่ที่หนักใจคือ แม่ไม่ได้เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้สักนิด ผมเป็นคนตัดสินใจเองทั้งหมด แน่นอนว่าท่านรู้เกียรติศัพท์ของว่าที่ลูกสะใภ้เป็นอย่างดี ตั้งแง่รอเรียบร้อย ยังมาเจอการใช้เงินแบบนี้อีกนะ บอกได้คำเดียว ยับ!
“คุณหนูลลิล อยู่ไหม” ผมถามเด็กรับใช้ในบ้านเรืองขจรทันทีที่ลงจากรถ
“อยู่ค่ะ รอสักครู่นะคะ” เธอโค้งตอบและทำท่าจะเข้าไปตามคุณหนูของบ้านแต่ถูกผมห้ามไว้ก่อน
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันเข้าไปเอง”
พูดจบผมก็ปรี่เข้าไปข้างในด้วยความเร่งรีบ ทุกคนที่นี่รู้ว่าผมเป็นว่าที่สามีคุณหนูของบ้าน จึงไม่มีใครทักท้วงอะไร ปล่อยให้ผมเข้าออกได้ตามสบาย ตอนเด็กๆ ผมก็มาที่นี่บ่อยนะ…บ่อยจนรู้ทุกซอกมุมของบ้าน แต่หลังจากที่คุณอาขจร พ่อของคุณหนูลลิลเสียไป ผมก็แทบจะไม่ได้มาอีกเลย มันนานมากจนผมจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ
จนได้กลับเข้ามาอีกครั้งในวันนี้ ความจริงคือทุกอย่างยังเหมือนเดิม การจัดวาง การตกแต่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
คฤหาสน์ ใหญ่โต โอ่งอ่าง แต่มีแค่หญิงชราอยู่คนเดียว ท่านคงเหงา…ถึงได้อยากให้หลานรักอย่างคุณหนูลลิลกลับมาอยู่ด้วย
“อ้าว อาหลานเขยมาหา อาลลิลหรอ”
ฝีเท้าผมหยุดกึกพร้อมกับหันไปตามต้นเสียง ปรากฏร่างหญิงชราในชุดสไตล์จีนประยุกต์สีครีมตัดลายสีทองยาวจนเกือบถึงข้อเท้าเดินจับราวบันไดลงมาทีละขั้นจากชั้นสองด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีครับอาม่า” ผมยกมือไหว้พร้อมกับเดินเข้าไปหาท่านตามมารยาท
“อ่าๆ ตามสบายเลยนะ พอดีอาม่าจะออกไปทำธุระข้างนอกสักเดี๋ยว” เจ้าของบ้านพูดขึ้นในตอนที่ก้าวเท้าลงจากบันไดขั้นสุดท้าย
“ผมเดินไปส่งนะครับ” ผมเสนอเพราะดูเหมือนอาม่าจะไม่ค่อยแข็งแรงด้วยอายุอานามที่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ท่านไม่ยอมที่จะใช้ไม้เท้าพยุงตัวเพราะกลัวว่าคนอื่นจะมองตัวเองเป็นคนเฒ่าคนแก่…มาตั้งแต่สมัยผมเป็นเด็กจนถึงปันจุบัน รู้เลยว่าคุณหนูลลิลดื้อเหมือนใคร
“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง นู่นๆ ไปหาอาลลิลเถอะ” อาม่าบอกปัดก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปทางสวนหลังบ้าน ผมมองตามไปยังจุดที่ท่านบอกก่อนจะหันมายิ้มและโค้งรับอย่างนอบน้อม
ท่านตบไหล่ผมเบาๆ สองทีก่อนจะมีคนสนิทมาพยุงท่านออกไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าประตู
พอรถเคลื่อนตัว ผมก็หันกลับไปทางจุดหมายที่อาม่าบอกไว้ทันที ก้าวฉับๆ ผ่านโถงใหญ่มายังสวนหลังบ้านที่มีสระน้ำขนาดใหญ่ ก่อนจะชะลอฝีเท้าช้าลง เมื่อเห็นร่างบางที่ตามหาในชุดทูพีชสีน้ำเงินเข้มแหวกว่ายอยู่กลางสระ แสงแดดส่องกระทบผิวน้ำเกิดประกายระยิบระยับ เพิ่มความผุดผ่องให้ผิวขาวละเอียดของคนในสระเป็นสองเท่า
ผมเลือกที่จะยังไม่แสดงตัวแต่หยุดยืนกอดอกพิงประตูบานสุดท้ายที่เป็นทางผ่านออกไปยังสวนด้านหลังแทน จากจุดที่ผมยืนไม่ไกลจากสระว่ายน้ำมากนักและพอมองเห็นทุกการกระทำของคนในสระได้อย่างชัดเจน
ทุกท่วงท่า ลีลา เหมือนมีมนต์สะกดทำให้ผมไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้เลยสักวินาที
จังหวะที่ศีรษะเธอโผล่พ้นผิวน้ำเผยให้เห็นใบหน้าที่ไร้การแต่งแต้ม ผมกลับคิดว่าแบบนี้เธอดูสวยกว่าตอนแต่งหน้าจัดจ้านซะอีก คิ้วไม่ได้หนาแต่เข้ารูปสวยบวกกับตาเฉี่ยวชั้นเดียวสไตล์ลูกหลานคนจีน จมูกโด่งคม ปากเรียวบางรูปกระจับที่ยังมีสีระเรื่อถึงแม้จะไม่ผ่านลิปสติกสีสวยๆ
และพอมาถึงตรงนี้ สมองผมกลับดึงภาพเหตุการณ์ที่เราจูบกันเมื่อคืนแทรกเข้ามา
ครืดดด ครืดดดด
ผมสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะลดมือที่เผลอยกขึ้นลูบปลายคางแบบไม่รู้ตัวลง คิ้วหนาขมวดยุ่งพลางล้วงมือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูว่าใครแม่งโทรมาขัดจังหวะตอนนี้ แต่เครื่องที่มีสายเข้ามันดันไม่ใช่ของผม เป็นของผู้หญิงที่อยู่ในสระนั่นต่างหาก
“อุ๊ย!!”
จังหวะที่ผมเงยหน้าขึ้นจากจอมือถือสอดประสานเข้ากับดวงตาคู่คมของเจ้าของมือถือพอดิบพอดี ดูเหมือนเธอจะรู้ตัวแล้วว่ายังมีอีกหนึ่งคนอยู่ในที่แห่งนี้ด้วย