Rrrrrrrrrrr
“ฮัลโหลค่ะคุณแม่ อยู่บ้านน้ำมนต์ค่ะ ได้ค่ะ”
“แกฉันต้องกลับแล้วอะ ฉันลืมเลยว่าต้องไปงานกับคุณแม่”พิมพ์ดาวเอ่ยบอกทุกคน
“ได้สิ”
“นั้นพวกฉันกลับก่อนเหมือนกันใกล้มืดละ วันนี้สนุกมาก ขอบคุณนะคะพ่อสำหรับอาหารแล้วก็เรื่องดวง”
“จ๊ะ กลับกันดีๆนะลูก”เธอเดินออกมาส่งเพื่อนๆหน้าบ้าน สายตาของเธอได้หันไปมองบ้านข้างๆ
เวรละนี่ค่ำแล้วเหรอ ไอ้ปีศาจต้องกลับมาแล้วแน่ๆทำไงดีอะ ตายๆ หญิงสาวคิดในใจ เธอลืมเวลาไปได้ไง หรือค่อยกลับไปพรุ่งนี้เช้าเลย แต่ถ้ามันตามมาถึงบ้านละ ตอนนี้ความคิดเธอมันตีกันไปหมด
“นี่แก น้ำมนต์ น้ำมนต์”
“หะ หะ ว่าไง”เธอตื่นจากความคิดเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนเรียก
“เป็นอะไรของแก พวกเราไปแล้วนะ ไว้เจอกัน”สามสาวกล่าวลาก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป
“เอาไงดี คิดสิยัยน้ำมนต์”
“เอาว่ะ เผื่อไอ้ปีศาจยังไม่กลับ”เธอค่อยๆเดินไปยังบ้านหลังใหญ่ข้างบ้าน หญิงสาวหันมองซ้ายมองขวา เธอเห็นรถที่ชายหนุ่มนั่งไปทำงานเมื่อเช้าจอดอยู่
“ตายแน่ไอ้น้ำมนต์เอ๋ย”
“หาอะไรอยู่น้ำมนต์”
“พี่เวหา เปล่าคะ”หญิงสาวตกใจเมื่อเวหาทักเธอที่ก้มๆเงยๆอยู่หน้าบ้าน
“ใครวะไอ้เวหา นี่ใช่คนที่อยู่ข้างบ้านรึเปล่า”
“ใช่ นี่น้ำมนต์ เธอเป็นแม่บ้านคนใหม่”
“น้ำมนต์นี่มาติน”
“สวัสดีค่ะพี่มาติน”
“หายไปไหนมาละเรา นายเรียกหาลั่นบ้านเชียว”
“จริงเหรอคะ”ตายแน่เธอต้องตายแน่ เอาไงดีไปต่อหรือหนีกลับบ้านดีเธอคิดไม่ตก
“เข้าไปสินายรออยู่”
“เออคือ.....”หญิงสาวคิดไม่ตกเธอได้แต่ทำหน้ากังวล สุดท้ายเธอก็ต้องทำใจเดินเข้าไปในบ้าน
“ไปไหนมา”เสียงเข้มดังขึ้นทันทีเมื่อเธอก้าวเท้าเข้าบ้าน
“บ้านค่ะ พอดีฉันกลับไปช่วยงานพ่อที่บ้านมา”เธอตอบแบบตะกุกตะกักเพราะน้ำเสียงและสายตาที่เขาส่งมามันทำให้เธอรู้สึกเย็นวาบน่ากลัวมาก
“เธอทำความสะอาดได้แย่มากฉันยังเห็นฝุ่นเต็มไปหมด”
“ไหนของนายฉันว่าก่อนออกไปมันก็สะอาดเอี่ยมนะ”
“แต่ฉันว่ามันยังไม่สะอาด เธอต้องทำใหม่”
“ไม่ ฉันลาออกดีกว่าถ้านายจะแกล้งกันแบบนี้”หญิงสาวกำลังจะหันหน้าเดินออกจากบ้าน
“ใครให้เธอออกไม่ทราบ”
“แต่ก็เอาเถอะเธอมันอ่อนหัดอยู่แล้ว”
“นี่ไอ้ปีศาจ”หญิงสาวยืนประจันหน้ากับชายหนุ่มตรงหน้าเขากล้าดียังไงมาว่าเธออ่อนหัด
“แล้วอีกอย่างถ้าเธอออกฉันจะแฉให้หมดว่าพ่อเธอลวงโลก สำนักนั่นก็แค่ที่ต้มตุ๋นของเธอกับพ่อ”
“มันจะมากไปแล้วนะไอ้ปีศาจ”
“ก็ได้ ฉันทำความสะอาดให้นายใหม่ก็ได้”หญิงสาวกำลังจะเดินออกไปจากตรงนั้น
“เดี๋ยว ฉันหิวไปทำอะไรให้ฉันกินหน่อย”แปลกเหมือนกันที่เขาอยากกลับมากินข้าวบ้านปกติเขาจะกินมาจากข้างนอกตลอด
“ฉันไม่หิวค่ะเจ้านาย”
“ยัยหนู”คาร์ลอลส์ได้แต่กดเสียงต่ำเรียกเธอ นี่เธอต้องต่อปากต่อคำกับเขาทุกประโยคเลยรึไง
“ก็ได้ค่ะ รอแป๊บ”เธอตัดสินตอบรับเพราะน้ำเสียงขอเขามันน่ากลัว ถ้าเธอไม่ทำเขาจะฆ่าเธอรึเปล่า คิดแล้วหญิงสาวก็ขนลุกด้วยความกลัว
“เสร็จแล้วค่ะเจ้านาย”หญิงสาวทำอาหารให้เขาสองอย่าง
“แล้วนี่ก็น้ำส้มค่ะ อภินันทนาการพิเศษจากฉัน”
ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยสายตาคมดุจเหยี่ยว เขาคิดว่าหญิงสาวต้องคิดไม่ซื่อกับเขาแน่ๆ อภินันทนาการเนี่ยนะ น้ำส้มนี่มันต้องมีอะไรอยู่ข้างในอย่างไม่ต้องสงสัย
“ฉันไม่ชอบกินน้ำส้ม เธอเอาไปกินเลย”
“แต่ฉันอุตส่าห์คั่นให้นายสดๆกับมือเลยนะ”หญิงสาวแสดงสีหน้าที่บ่งบอกถึงความตั้งใจพร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้เขา
“งั้นมากินด้วยกันสิ ฉันกินไม่หมดหรอก”
“นายกินเลย ฉันทำมาให้นายหนิ”
ชายหนุ่มกระชากแขนหญิงสาวเข้ามาหาตัวทำให้ตอนนี้เธอนั่งอยู่บนตักเขาเป็นที่เรียบร้อย เขารั้งเอวหญิงสาวไว้แน่นจนทำให้เธอไม่สามารถลุกไปจากตักเขาได้
“ไอ้ปีศาจปล่อยฉันนะ”
“นั่งนิ่งๆยัยหนู ยิ่งเธอดิ้นมันยิ่งอันตรายนะ”
“นายก็ปล่อยให้ฉันลุกสิ”เธอบอกเขาเสียงแข็ง ไอ้บ้าผีตนไหนเข้าเขาอีกเนี่ยถึงได้ดึงเธอมานั่งกอดอยู่อย่างนี้
“ปล่อยนะปล่อยแน่ เธอกินน้ำส้มที่เธอคั้นมาก่อนสิ”
“แต่....”
“ฉันคั้นมาให้นายนะ นายกินเหอะไม่ตายหรอกนะ”
“นั้นเธอก็กินให้ฉันดูสิ”
“...........”หญิงสาวได้แต่นั่งอ้ำอึ้ง ใครจะกล้ากินละเธอเล่นใส่เกลือไปหมดกระปุก ถ้าเธอกินมีหวังได้ไตวายกันพอดี
“หรือเธออยากนั่งตักฉันนานๆ ก็ได้นะฉันไม่ถือ”ชายหนุ่มแสดงสีหน้าเจ้าเลห์ส่งไปให้เธอ
อึก อึก อึก
หญิงสาวตัดสินใจดื่มน้ำส้มเข้าไป เธอพยายามแสดงสีหน้าที่ปกติที่สุดเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มจับสังเกตเห็น
“เห็นมั้ย นายคิดมาก ฉันไม่ฆ่านายหรอกน่าาา”
“อืม”
“ปล่อยฉันได้ยัง”
ชายหนุ่มยอมปล่อยเธอแต่โดยดี เขาจับแก้วน้ำส้มขึ้นมาแล้วยกดื่ม หญิงสาวที่ยืนอมยิ้มอยู่ เธอกลั้นขำแทบจะไม่ไหว
พรูดดด แหย๊ะ
“ยัยหนู”เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดสุดๆ
หญิงสาวรีบวิ่งออกจากตรงนั้น เธอกลั้นขำไม่ไหวแล้ว หน้าตาของเขามันตลกเกินกว่าเธอจะทนยืนดูต่อได้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”สมน้ำหน้าอยากมาแกล้งเธอดีหนัก ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใครไอ้ปีศาจ หญิงสาวรีบวิ่งมาหลบในครัวอย่างไว
“ฝากไว้ก่อนนะยัยหนู”ชายหนุ่มรีบทานข้าวที่หญิงสาวทำมาให้ วันนี้เป็นวันส่งอาวุธล๊อตแรกของเขา เขาจะไปคุมด้วยตัวเอง
“ออกไปไหนของเขา ดึกดื่น”หญิงสาวพูดขึ้นเมื่อเห็นขบวนรถของชายหนุ่มขับออกไป