“พ่ออออ”
“พ่อ อย่าไปฟังไอ้ปีศาจนี่มันพูดนะ”สิริมนตราวิ่งมาอย่างกระหืดกระหอบมาหยุดอยู่หน้าคนทั้งสอง
“ห้ามข้าไม่ให้ฟังเรื่องอะไรยัยหนู”
“เอ่อ แล้วไอ้ปีศาจนี่มันฟ้องอะไรพ่อละ”เธอถามบิดาอย่างร้อนตัว
“แล้วเอ็งไปทำอะไรมาละ”
“เอ่อ เอ่อ ก็เปล๊าซะหน่อยพ่อ”
“เปล่าอะไรของเอ็งยัยหนู แล้วที่เอ็งไปเป็นแม่บ้านบ้านโน้นคือยังไง”อาคมเอ่ยถามบุตรสาวเสียงดัง
“โธ่พ่อจ๋าาาา อย่าเสียงดังสิจ๊ะ หนูไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่บอกพ่อจ๋านะ หนูแค่กลัวพ่อจะเป็นห่วงหนูแค่นั้นเอง เนี่ยหนูกะว่าเย็นนี้จะบอกพ่ออยู่แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าไอ้ปีศาจนี้มันจะมาขี้ฟ้องพ่อ คนนิสัยไม่ดี”เธอปรี่เข้ามานั่งกอดบิดาก่อนจะออดอ้อนเอาใจให้บิดานั้นหายโมโหตนเอง เพราะไอ้ปีศาจบ้านั้นคนเดียว มันต้องมาใส่ไฟพ่อเธอไปเยอะแน่ๆถึงได้อารมณ์ขึ้นขนาดนี้
“อย่าโกรธหนูเลยนะจ๊ะพ่อจ๋า”เธอทั้งออดอ้อนทั้งบีบนวดให้บิดานั้นหายโกรธตน
“พอๆยัยหนูข้าไม่เอาไม้เรียวหวดก้นเอ็งแล้ว ส่วนเรื่องไปทำงานบ้านโน้นเอ็งก็ไปเหอะ พ่อคาลส์เขารับรองความปลอดภัยของเอ็งให้ข้าแล้ว อยู่บ้านว่างๆเอ็งก็เหงาเปล่าๆ”
“ที่พ่อยอมให้หนูไปทำงานบ้านโน้นเพราะไอ้ปีศาจนี่เหรอ”เธอถามบิดาด้วยอาการเง้างอน เธอละกลัวพ่อโกรธแทบตายแต่พอไอ้ปีศาจพูดเข้าหน่อยพ่อเธอละยอมเชื่อง่ายๆ
“เออสิวะ ถ้าเขาไม่รับรองว่าแกจะปลอดภัยแกคิดว่าข้าจะยังให้เอ็งไปเป็นแม่บ้านบ้านโน้นอยู่อีกเรอะ”
“แล้วอีกอย่างนะยัยหนูเอ็งเรียกพี่เขาให้มันดีๆหน่อย พี่เขาแก่กว่าเอ็งตั้งกี่ปี ยังไม่เลิกเรียกพี่เขาแบบนั้นอีกมันเสียมารยาทนะ”
“พ่อจ๋า พ่อจะขอหนูเรื่องอะไรก็ได้ แต่ถ้าจะให้หนูเลิกเรียกมันว่าไอ้ปีศาจพ่อก็ต้องบอกให้มันเลิกเรียกหนูว่ายัยหนูก่อนสิ”เธอบอกบิดาแล้วหันหน้าไปมองไอ้ตัวต้นเหตุด้วยหน้าตาแค้นเคือง
“เอ๊ะ ไอ้ลูกคนนี้นี่ชักจะเอาใหญ่แล้วเว้ย งั้นข้าก็ต้องเลิกเรียกเอ็งว่ายัยหนูด้วยสิ หรือเอ็งจะเรียกข้าว่าไอ้ปีศาจด้วยละ”อาคมถามย้อนลูกสาวที่ชักจะเอาใหญ่แล้ว
“โธ่พ่อ มันไม่เหมือนกันหนูยอมเป็นยัยหนูของพ่อแค่คนเดียวส่วนคนอื่นหนูไม่ยอม”
“เอ็งนี่มัน...”
“ลุงๆพอแล้วครับอย่าไปว่าน้องเลย ผมไม่ถือสาความไร้มารยาทของยัยหนูหรอกครับผมชินแล้ว”คาร์ลอสเอ่ยห้ามสองพ่อลูกที่กำลังทะเลาะกันเพราะเขา
“ฮึ พูดเหมือนหวังดีสุดท้ายนายก็ด่าฉันอยู่ดี”ไอ้คนทุเรศ ถึงมันจะห้ามไม่ให้พ่อกับเธอทะเลาะกันแต่มันก็แอบด่าเธออีกอยู่ดี
“เงียบยัยหนู หรือมันไม่จริงของพ่อคาลส์เขาละ”
“เอาละๆข้าขี้เกียจเถียงกะเอ็งแล้ว ไปๆเอ็งจะไปทำไรก็ไปทำซะ ทะเลาะกับเอ็งแล้วข้าปวดหัว”อาคมบอกลูกสาวที่ไม่ยอมลงง่ายๆ
“ก็ได้จ้ะพ่อ ฝากไว้ก่อนนะไอ้ปีศาจขี้ฟ้อง”เธอจ้องหน้าชายหนุ่มตรงหน้าอย่างฝากความแค้น เผลอเมื่อไหร่เธอจะเอาคืนให้เจ็บแสบเลย พูดจบเธอจึงเดินเข้าไปในห้องของตัวเองเพื่อระงับอารมณ์ที่มันกำลังพลุ่งพล่าน
“งั้นผมกลับบ้านแล้วนะลุง ส่วนเรื่องยัยหนูลุงไม่ต้องห่วงผมจะดูแลน้องให้อย่างดีครับ”เขายกมือไหว้ลาผู้สูงวัย
“อืมๆ ขอบใจมากพ่อคาลส์”
Rrrrrrrrrrrrrrrr
“ฮัลโหลยัยน้ำสังข์”เธอกดรับสายวีดีโอคอลจากแก็งเพื่อนสาวที่โทรเข้ามา
“น้ำมนต์ย่ะ”หญิงสาวรีบแกชื่อให้ตัวเองในทันที
“เป็นอะไรของแกทำหน้าอย่างกะโดนหมากัดมา”กีรตาถามขึ้นเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวบึ้งตึง
“ก็ไอ้ปีศาจข้างบ้านนะสิ ขี้ฟ้อง”เธอบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น
“ไอ้ปีศาจใครอะ”พิมพ์ดาวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เอ่อ....”สิริมินตรามีอาการอ้ำอึ้ง เธอลืมคิดไปว่าเพื่อนของเธอไม่รู้เรื่องของชายหนุ่ม
“ว่ายังไงตกลงใครกัน ที่ทำให้คุณน้ำมนต์โกรธเคืองขนาดนี้”
“แต่เมื่อกี้เหมือนเราจะได้ยินว่าอยู่ข้างบ้านน้ำมนต์เหรอ”นภัสสรหญิงสาวผู้เรียบร้อยอมไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“ตอบหน่อยสิ แกจะเงียบทำไม”
“หรือว่า....”
“แฟนเหรอ”
“แกคิดเหมือนฉันเลยพิมพ์”กีรตาเสริมขึ้นเมื่อเห็นว่าพิมพ์ดาวคิดเหมือนเธอ
“แฟนบ้าอะไร ไม่ใช่สักหน่อย”สิริมินตรารีบตอบในทันที
“ใครจะเอาไอ้ปีศาจมาทำแฟน ฉันมีแฟนเป็นกงยูยังจะดีกว่า”
“พอเลย นั้นแกก็ไม่ได้เขาเหมือนกันย่ะ กงยูของฉัน”
“ของฉันต่างหาก”
“เอ่อ ทุกคนนี่ไม่ใช่ศึกแย่งไอดอลมาเป็นแฟนนะคะ เราไปไกลกันแล้ว ถอยกลับมาก่อนค่ะ”นภัสสรบอกเพื่อนสาวที่เธอเห็นว่าทั้งสาวจะไปไกลเกินว่าเรื่องที่เราคุยกันอยู่
“นั้นสิแกทำให้ฉันไขว้เขว ยัยน้ำมนต์บอกมาเลยอย่ามาเฉไฉ ไอ้ปีศาจนี่ใคร”
“แค่คนข้างบ้าน”
“แค่นั้นเหรอ”พิมพ์ดาวยังคงถามอย่างไม่เชื่อคำพูดของสิริมนตรา
“แล้วเขาทำอะไรให้แกโกรธ อย่าบอกนะว่าเขาไม่ใช่คน”
“แกจะบ้ารึไงไอ้พิมพ์”
“ก็แกไม่ยอมบอกมาสักทีฉันก็เดาสุ่มเอาสิ”
“พูดมาหน้าแกมันมีพิรุธ เขาคงจะเป็นมากกว่าคนข้างบ้านใช่ไหม”เพื่อนสาวทั้งสามกดดันให้หญิงสาวพูดออกมา
“เออๆบอกก็ได้เลิกจ้องฉันด้วยสายตาแบบนั้นสักที”
“เขาเป็นผู้ชายข้างบ้านที่ร้ายกาจมากฉันคิดว่าชีวิตนี้เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แต่ฟ้าเหมือนแกล้งฉันไม่รู้จะส่งนายนั้นกลับมาอยู่ที่ข้างบ้านฉันเหมือนเดิมทำไม สงสัยฟ้าจะลงโทษฉันที่ฉันเกิดมาสวยเกินไป”
“แหวะ”
“เอ่อ ฉันพูดไม่ออกเลย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”ทั้งสี่หัวเราะกันอย่างขบขัน
“แล้วเขาทำอะไรให้แก หน้าแกถึงเป็นแบบนี้”
“ก็นายนั้นมาฟ้องพ่อว่าฉันไปเป็นแม่บ้านบ้านมัน”
“ห๊ะ แล้วแกไปเป็นแม่บ้านบ้านเขาทำไม”
“อย่าบอกนะ...”
“หยุด เลิกคิดฉันไม่พิศวาสไอ้ปีศาจนั้นหรอก”
“ตอนแรกฉันก็แค่อยากจะเอาคืนที่มันชอบมาแกล้งฉัน ก็เลยเขาไปทำงานที่บ้านนั้น ฉันจะได้เอาคืนมันได้ง่ายๆ แล้วอีกอย่างฉันก็ว่างงานอยู่ก็เลยทำฆ่าเวลา”
“แน่ใจเหรอว่าแค่นั้น”พิมพ์ดาวอดไม่ได้ที่จะแซวสิริมนตรา
“แค่นั้นย่ะ พวกแกไม่ต้องคิดไกล”
“แล้วเขาหน้าตาดีป่ะ”นภัสสรถามออกมาด้วยหน้าตาล้อเลียน
“ไม่อะ ขี้เหร่มาก”
“หน้าแกตอแหลมากพูดเลย”กีรตาอดที่จะแซะไม่ได้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ฉันจะไปดูด้วยตัวเองดีกว่าว่าแกแค่ไปเอาคืนเขาหรือว่าจะแอบเขาไว้กินคนเดียว”
“จะบ้าเหรอฉันเนี่ยนะจะไปอยากกินมัน มาดูเลยถ้าไม่เชื่อฉัน”สิริมนตราเอ่ยบอก แม้จะมีแวบหนึ่งที่เห็นว่าเขาน่ากินขึ้นมาก็เหอะ
“ได้”สามสาวพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“เดี๋ยวๆพวกแก เห้ยยอย่าเพิ่งวางดิ ฉันพูดเล่น”สิริมนตราพยายามเรียกเพื่อนสาวที่ตอนนี้สายตัดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เอาไงดีเนี่ย ไม่น่าไปท้ายัยพิมพ์เลย ทำไงดีละทีนี้ยัยน้ำมนต์ คิดสิคิด”หญิงสาวเดินไปเดินมาในห้องนอนคิดไม่ตกเธอไม่น่าไปท้าพิมพ์ดาวเลยเธอน่าจะรู้ว่าพิมพ์ดาวเป็นคนไม่ชอบให้ใครท้า
“ช่างมันเหอะคงไม่มีอะไรแย่หรอก”