บทที่3 คนขี้ฟ้อง..2

1394 Words
“พ่ออออ” “พ่อ อย่าไปฟังไอ้ปีศาจนี่มันพูดนะ”สิริมนตราวิ่งมาอย่างกระหืดกระหอบมาหยุดอยู่หน้าคนทั้งสอง “ห้ามข้าไม่ให้ฟังเรื่องอะไรยัยหนู” “เอ่อ แล้วไอ้ปีศาจนี่มันฟ้องอะไรพ่อละ”เธอถามบิดาอย่างร้อนตัว “แล้วเอ็งไปทำอะไรมาละ” “เอ่อ เอ่อ ก็เปล๊าซะหน่อยพ่อ” “เปล่าอะไรของเอ็งยัยหนู แล้วที่เอ็งไปเป็นแม่บ้านบ้านโน้นคือยังไง”อาคมเอ่ยถามบุตรสาวเสียงดัง “โธ่พ่อจ๋าาาา อย่าเสียงดังสิจ๊ะ หนูไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่บอกพ่อจ๋านะ หนูแค่กลัวพ่อจะเป็นห่วงหนูแค่นั้นเอง เนี่ยหนูกะว่าเย็นนี้จะบอกพ่ออยู่แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าไอ้ปีศาจนี้มันจะมาขี้ฟ้องพ่อ คนนิสัยไม่ดี”เธอปรี่เข้ามานั่งกอดบิดาก่อนจะออดอ้อนเอาใจให้บิดานั้นหายโมโหตนเอง เพราะไอ้ปีศาจบ้านั้นคนเดียว มันต้องมาใส่ไฟพ่อเธอไปเยอะแน่ๆถึงได้อารมณ์ขึ้นขนาดนี้ “อย่าโกรธหนูเลยนะจ๊ะพ่อจ๋า”เธอทั้งออดอ้อนทั้งบีบนวดให้บิดานั้นหายโกรธตน “พอๆยัยหนูข้าไม่เอาไม้เรียวหวดก้นเอ็งแล้ว ส่วนเรื่องไปทำงานบ้านโน้นเอ็งก็ไปเหอะ พ่อคาลส์เขารับรองความปลอดภัยของเอ็งให้ข้าแล้ว อยู่บ้านว่างๆเอ็งก็เหงาเปล่าๆ” “ที่พ่อยอมให้หนูไปทำงานบ้านโน้นเพราะไอ้ปีศาจนี่เหรอ”เธอถามบิดาด้วยอาการเง้างอน เธอละกลัวพ่อโกรธแทบตายแต่พอไอ้ปีศาจพูดเข้าหน่อยพ่อเธอละยอมเชื่อง่ายๆ “เออสิวะ ถ้าเขาไม่รับรองว่าแกจะปลอดภัยแกคิดว่าข้าจะยังให้เอ็งไปเป็นแม่บ้านบ้านโน้นอยู่อีกเรอะ” “แล้วอีกอย่างนะยัยหนูเอ็งเรียกพี่เขาให้มันดีๆหน่อย พี่เขาแก่กว่าเอ็งตั้งกี่ปี ยังไม่เลิกเรียกพี่เขาแบบนั้นอีกมันเสียมารยาทนะ” “พ่อจ๋า พ่อจะขอหนูเรื่องอะไรก็ได้ แต่ถ้าจะให้หนูเลิกเรียกมันว่าไอ้ปีศาจพ่อก็ต้องบอกให้มันเลิกเรียกหนูว่ายัยหนูก่อนสิ”เธอบอกบิดาแล้วหันหน้าไปมองไอ้ตัวต้นเหตุด้วยหน้าตาแค้นเคือง “เอ๊ะ ไอ้ลูกคนนี้นี่ชักจะเอาใหญ่แล้วเว้ย งั้นข้าก็ต้องเลิกเรียกเอ็งว่ายัยหนูด้วยสิ หรือเอ็งจะเรียกข้าว่าไอ้ปีศาจด้วยละ”อาคมถามย้อนลูกสาวที่ชักจะเอาใหญ่แล้ว “โธ่พ่อ มันไม่เหมือนกันหนูยอมเป็นยัยหนูของพ่อแค่คนเดียวส่วนคนอื่นหนูไม่ยอม” “เอ็งนี่มัน...” “ลุงๆพอแล้วครับอย่าไปว่าน้องเลย ผมไม่ถือสาความไร้มารยาทของยัยหนูหรอกครับผมชินแล้ว”คาร์ลอสเอ่ยห้ามสองพ่อลูกที่กำลังทะเลาะกันเพราะเขา “ฮึ พูดเหมือนหวังดีสุดท้ายนายก็ด่าฉันอยู่ดี”ไอ้คนทุเรศ ถึงมันจะห้ามไม่ให้พ่อกับเธอทะเลาะกันแต่มันก็แอบด่าเธออีกอยู่ดี “เงียบยัยหนู หรือมันไม่จริงของพ่อคาลส์เขาละ” “เอาละๆข้าขี้เกียจเถียงกะเอ็งแล้ว ไปๆเอ็งจะไปทำไรก็ไปทำซะ ทะเลาะกับเอ็งแล้วข้าปวดหัว”อาคมบอกลูกสาวที่ไม่ยอมลงง่ายๆ “ก็ได้จ้ะพ่อ ฝากไว้ก่อนนะไอ้ปีศาจขี้ฟ้อง”เธอจ้องหน้าชายหนุ่มตรงหน้าอย่างฝากความแค้น เผลอเมื่อไหร่เธอจะเอาคืนให้เจ็บแสบเลย พูดจบเธอจึงเดินเข้าไปในห้องของตัวเองเพื่อระงับอารมณ์ที่มันกำลังพลุ่งพล่าน “งั้นผมกลับบ้านแล้วนะลุง ส่วนเรื่องยัยหนูลุงไม่ต้องห่วงผมจะดูแลน้องให้อย่างดีครับ”เขายกมือไหว้ลาผู้สูงวัย “อืมๆ ขอบใจมากพ่อคาลส์” Rrrrrrrrrrrrrrrr “ฮัลโหลยัยน้ำสังข์”เธอกดรับสายวีดีโอคอลจากแก็งเพื่อนสาวที่โทรเข้ามา “น้ำมนต์ย่ะ”หญิงสาวรีบแกชื่อให้ตัวเองในทันที “เป็นอะไรของแกทำหน้าอย่างกะโดนหมากัดมา”กีรตาถามขึ้นเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวบึ้งตึง “ก็ไอ้ปีศาจข้างบ้านนะสิ ขี้ฟ้อง”เธอบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “ไอ้ปีศาจใครอะ”พิมพ์ดาวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เอ่อ....”สิริมินตรามีอาการอ้ำอึ้ง เธอลืมคิดไปว่าเพื่อนของเธอไม่รู้เรื่องของชายหนุ่ม “ว่ายังไงตกลงใครกัน ที่ทำให้คุณน้ำมนต์โกรธเคืองขนาดนี้” “แต่เมื่อกี้เหมือนเราจะได้ยินว่าอยู่ข้างบ้านน้ำมนต์เหรอ”นภัสสรหญิงสาวผู้เรียบร้อยอมไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ตอบหน่อยสิ แกจะเงียบทำไม” “หรือว่า....” “แฟนเหรอ” “แกคิดเหมือนฉันเลยพิมพ์”กีรตาเสริมขึ้นเมื่อเห็นว่าพิมพ์ดาวคิดเหมือนเธอ “แฟนบ้าอะไร ไม่ใช่สักหน่อย”สิริมินตรารีบตอบในทันที “ใครจะเอาไอ้ปีศาจมาทำแฟน ฉันมีแฟนเป็นกงยูยังจะดีกว่า” “พอเลย นั้นแกก็ไม่ได้เขาเหมือนกันย่ะ กงยูของฉัน” “ของฉันต่างหาก” “เอ่อ ทุกคนนี่ไม่ใช่ศึกแย่งไอดอลมาเป็นแฟนนะคะ เราไปไกลกันแล้ว ถอยกลับมาก่อนค่ะ”นภัสสรบอกเพื่อนสาวที่เธอเห็นว่าทั้งสาวจะไปไกลเกินว่าเรื่องที่เราคุยกันอยู่ “นั้นสิแกทำให้ฉันไขว้เขว ยัยน้ำมนต์บอกมาเลยอย่ามาเฉไฉ ไอ้ปีศาจนี่ใคร” “แค่คนข้างบ้าน” “แค่นั้นเหรอ”พิมพ์ดาวยังคงถามอย่างไม่เชื่อคำพูดของสิริมนตรา “แล้วเขาทำอะไรให้แกโกรธ อย่าบอกนะว่าเขาไม่ใช่คน” “แกจะบ้ารึไงไอ้พิมพ์” “ก็แกไม่ยอมบอกมาสักทีฉันก็เดาสุ่มเอาสิ” “พูดมาหน้าแกมันมีพิรุธ เขาคงจะเป็นมากกว่าคนข้างบ้านใช่ไหม”เพื่อนสาวทั้งสามกดดันให้หญิงสาวพูดออกมา “เออๆบอกก็ได้เลิกจ้องฉันด้วยสายตาแบบนั้นสักที” “เขาเป็นผู้ชายข้างบ้านที่ร้ายกาจมากฉันคิดว่าชีวิตนี้เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แต่ฟ้าเหมือนแกล้งฉันไม่รู้จะส่งนายนั้นกลับมาอยู่ที่ข้างบ้านฉันเหมือนเดิมทำไม สงสัยฟ้าจะลงโทษฉันที่ฉันเกิดมาสวยเกินไป” “แหวะ” “เอ่อ ฉันพูดไม่ออกเลย” “ฮ่า ฮ่า ฮ่า”ทั้งสี่หัวเราะกันอย่างขบขัน “แล้วเขาทำอะไรให้แก หน้าแกถึงเป็นแบบนี้” “ก็นายนั้นมาฟ้องพ่อว่าฉันไปเป็นแม่บ้านบ้านมัน” “ห๊ะ แล้วแกไปเป็นแม่บ้านบ้านเขาทำไม” “อย่าบอกนะ...” “หยุด เลิกคิดฉันไม่พิศวาสไอ้ปีศาจนั้นหรอก” “ตอนแรกฉันก็แค่อยากจะเอาคืนที่มันชอบมาแกล้งฉัน ก็เลยเขาไปทำงานที่บ้านนั้น ฉันจะได้เอาคืนมันได้ง่ายๆ แล้วอีกอย่างฉันก็ว่างงานอยู่ก็เลยทำฆ่าเวลา” “แน่ใจเหรอว่าแค่นั้น”พิมพ์ดาวอดไม่ได้ที่จะแซวสิริมนตรา “แค่นั้นย่ะ พวกแกไม่ต้องคิดไกล” “แล้วเขาหน้าตาดีป่ะ”นภัสสรถามออกมาด้วยหน้าตาล้อเลียน “ไม่อะ ขี้เหร่มาก” “หน้าแกตอแหลมากพูดเลย”กีรตาอดที่จะแซะไม่ได้ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า” “ฉันจะไปดูด้วยตัวเองดีกว่าว่าแกแค่ไปเอาคืนเขาหรือว่าจะแอบเขาไว้กินคนเดียว” “จะบ้าเหรอฉันเนี่ยนะจะไปอยากกินมัน มาดูเลยถ้าไม่เชื่อฉัน”สิริมนตราเอ่ยบอก แม้จะมีแวบหนึ่งที่เห็นว่าเขาน่ากินขึ้นมาก็เหอะ “ได้”สามสาวพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย “เดี๋ยวๆพวกแก เห้ยยอย่าเพิ่งวางดิ ฉันพูดเล่น”สิริมนตราพยายามเรียกเพื่อนสาวที่ตอนนี้สายตัดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เอาไงดีเนี่ย ไม่น่าไปท้ายัยพิมพ์เลย ทำไงดีละทีนี้ยัยน้ำมนต์ คิดสิคิด”หญิงสาวเดินไปเดินมาในห้องนอนคิดไม่ตกเธอไม่น่าไปท้าพิมพ์ดาวเลยเธอน่าจะรู้ว่าพิมพ์ดาวเป็นคนไม่ชอบให้ใครท้า “ช่างมันเหอะคงไม่มีอะไรแย่หรอก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD