13
ราชันย์บิดข้อมือแล้วฟันศอกเข้าหน้า แย่งปืนมาถือไว้แล้วล็อกตัวลากเข้าร้านข้าว “คุณสิงห์!”
ไม่มีทั้งสิงหาและข้าวแช่ เหลือเพียงป้าคนขายที่นั่งตัวสั่นหลบอยู่ใต้โต๊ะ
“ป้าครับ เจ้านายผม…”
“ป…ป้าเห็นคนชุดดำหลายคนเข้ามาลากตัวพวกเขาไปแล้ว”
“ขอบคุณครับ ขอโทษด้วยครับป้า วันหลังผมจะมาอุดหนุนเป็นการไถ่โทษนะครับ” กล่าวทิ้งท้ายแล้วลากตัวมือปืนออกไป
“ไม่ต้องมาแล้วลูก” ป้าเอ่ยพึมพำเสียงสั่น
“พวกมึงพานายกูไปไหน!” กระทืบไปเค้นถามไปจนอีกฝ่ายสะบักสะบอมพอสมควร “บอกมา ก่อนกูจะจับมึงฉีกปาก”
“ท…ท่าเรือส่งสินค้า” บอกทั้งใช้มือรองเลือดที่กำลังหยดจากโพรงปาก
ราชันย์ไม่รอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ ตัดสินใจวิ่งไปขึ้นรถและปล่อยมือสังหารให้นอนกองอยู่ที่เดิม การกระทำอุกอาจเช่นการฆ่าคนในเวลากลางวันอย่างนี้รังแต่จะนำความวุ่นวายมาให้
ในขณะที่เร่งไปช่วยเหลือผู้เป็นนาย ราชันย์ก็คิดไปด้วยว่า คนที่ทำอะไรแบบนี้ได้ก็มีเพียงแต่แกงค์ เรดส์ดราก้อน ของภานุเท่านั้น
ซึ่งราชันย์ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำไมภานุถึงเลือกจะทำอย่างนี้ ในเมื่อกำชับนักกำชับหนาว่าให้รอเวลา
“อาการนายกำเริบอีกแล้วเหรอ”
8 ปีก่อน
ราชันย์ในวัย 20 กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น หล่อมีเสน่ห์และเป็นที่คลั่งไคล้ของเพื่อนร่วมสถาบัน ในทุก ๆ กิจกรรมของมหาวิทยาลัย เด็กปีสามอย่างเขามักได้เข้าร่วมตลอด เพื่อเป็นหน้าเป็นตาแก่สถานศึกษา
และเพราะมีเสน่ห์ขนาดนั้น ก็ไม่แปลกที่จะมีคนเข้าหา แฟนคนแรกที่ราชันย์ตัดสินใจคบคือเพื่อนร่วมรุ่นในคณะเดียวกัน
การคบหาราบรื่นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งภานุรู้เรื่องเข้า แม้ว่าทั้งสองยังไม่มีความสัมพันธ์ทางกายกัน แต่ภานุก็มีความหึงหวงในตัวราชันย์มาก ทำร้ายทุกคนที่แสดงความสนิทสนมจนเกินไป
ไม่เว้นแม้กระทั่งคนในบ้าน
ภานุให้คนขับรถขับตามรถของคนรักราชันย์ไปเงียบ ๆ เมื่อเห็นรถเลี้ยวเข้าโรงแรม ภานุจึงกุมกระเป๋านักเรียนของตนไว้ มือจับสิ่งที่แอบซ่อนอยู่ข้างในไว้แน่น
“พี่รออยู่ข้างหน้านี่แหละครับ” บอกคนขับรถแล้วลงไปหาคนที่กำลังไขประตูห้องพัก “พี่คิงส์!”
“เฮ้ย!” ราชันย์รีบขวางตัวคนรักไว้ทันที “นายกลับไปก่อนนะภานุ ค่อยไปคุยกันที่บ้าน”
“เด็กที่คิงส์เคยเล่าให้ฟังใช่มั้ย ลูกเจ้านายนั่น”
“เข้าห้องไปเร็ว ๆ เลย” สั่งคนรักแล้วหันไปตะล่อมเด็กวัย 15 ต่อ “นะภานุ กลับบ้านนะ”
“หุบปาก!” ตวาดเสียงกร้าว “มึงออกมานี่”
“หึ! เป็นเด็กปัญญาอ่อนนี่เอง” ราชันย์ดึงตัวคนที่กำลังเดินไปหาภานุ แต่กลับถูกสะบัดทิ้ง “คิงส์เข้าไปรอในห้อง เดี๋ยวเราเคลียร์เอง”
“อย่า!” ไม่ทันกล่าวจบประโยค คนรักของเขาก็ถูกเด็กไร้ความคิดจ้วงแทงซ้ำ ๆ จนร่างทรุด “เอิร์ธ! ภานุ!” ร้องเสียงลั่นวิ่งไปประคองร่างคนรักพาขึ้นรถเพื่อไปโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทันการณ์
คนรักของเขาขาดใจตายก่อนจะถึงโรงพยาบาลแค่ 5 นาที
เรื่องนี้ถูกพ่อของภานุใช้เงินปิดปากทุกคนที่รู้เรื่อง และหากมีคนคิดปฏิเสธรับเงินก้อนนั้น การถูกทำให้หายตัวอย่างไร้ร่องรอยคือหนทางสุดท้าย
หลังจากเหตุการณ์นั้นตัวราชันย์เอง สภาพจิตใจของเขาก็ย่ำแย่พอ ๆ กับร่างกายที่บอบช้ำเพราะถูกคุณท่านทารุณ เพียงแค่ตัวเขาปฏิเสธจะเชื่อฟังลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
“แค่ตามใจลูกฉันแกก็จะได้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันเหมือนเดิม อย่าทำเรื่องให้มันยุ่งยาก”
“ผม…” แค่อยากได้อิสระทางจิตใจบ้าง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งเดียวที่คนในบ้านนี้ควบคุมเขาไม่ได้
“หัดใช้ความอดทนให้มากกว่านี้ไม่ได้รึไง รออีกไม่กี่ปี ภานุเขาก็มีครอบครัวแล้ว ตอนนั้นก็คงเลิกควบคุมแกไปเอง”
“…” ไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ ถ้าขืนยังตามใจกันแบบผิด ๆ ต่อไป ราชันย์คงได้เป็นบ้าตามไปด้วยอีกคน
“ลืมไปแล้วเหรอ ฉันเลี้ยงแกเพื่อให้เป็นคนรับใช้ของภานุ ดังนั้น แกไม่มีสิทธิ์มีเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น”
“ครับ ผมยอม” เพราะเจ็บกายจนทนไม่ไหว จึงตอบรับคำสั่งนั้น อีกไม่นานภานุก็จะมีครอบครัวแล้ว อดทนหน่อยนะคิงส์
ทว่า เมื่อยอมให้ภานุควบคุมในทุกการกระทำ จิตใจมนุษย์ธรรมดาก็ย่อมต้องเกิดอาการอึดอัด และหาทางออกแบบผิด ๆ ด้วยการมีสัมพันธ์แบบฉาบฉวยกับคนที่แทบไม่ต้องทำความรู้จักกันด้วยซ้ำ
และอิสระหนึ่งเดียวที่ราชันย์มีได้คือช่วงเวลาตอนเรียน หอในของมหาวิทยาลัยคือสถานที่ ที่ปลอดภัยกับการร่วมรักที่สุด
ราชันย์ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกแล้ว
3 ปีผ่านไป ราชันย์เรียนจบแล้วและทำงานให้บ้านภานุเต็มตัว คอยดูแล หว่านล้อมว่าที่บอสแกงค์ เรดส์ดราก้อน ให้เข้าพบจิตแพทย์จนอาการคลั่งในตัวราชันย์อย่างผิดปกติเริ่มหายดี
อาจเป็นเพราะราชันย์ทำตัวเชื่องกับอีกฝ่ายอย่างดีด้วย เชื่อฟังยิ่งกว่าสุนัขพันธุ์โกลเด้นเสียอีก
ไม่นาน ความใกล้ชิดก็เริ่มทำหน้าที่ของมัน ทั้งสองกระทำการร่วมสัมพันธ์กันในตอนภานุอายุแค่ 18 ด้วยความยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ถึงรู้ว่าผิดทั้งในด้านศีลธรรมและกฎหมาย แต่อารมณ์มักอยู่เหนือความถูกต้องเสมอ
ราชันย์ทั้งหวาดหวั่นและกังวลในเรื่องนี้ แต่แล้ว จิตใจที่โหยหาใครสักคนก็เป็นฝ่ายอยู่เหนือกว่า รู้ตัวอีกที ราชันย์ผู้เคยตัดใจในเรื่องความรัก ก็น้ำตาตกเมื่อเห็นภานุเข้าพิธีแต่งงาน
แม้ว่าเด็กคนนั้นจะมีครอบครัวไปแล้ว แต่ความสัมพันธ์สวาทก็ยังมีอยู่เรื่อย ๆ เพราะไม่ห้ามใจ และไม่ยอมรับความจริง
ปัจจุบัน
ถึงท่าเรือสินค้า ราชันย์ก็วิ่งหาตัวเจ้านายไปทั่ว ทั้งตะโกนเรียกและใช้สายตามองหา แต่กลับเงียบกริบ
“ช่วยด้วย!” เสียงผู้หญิงเรียกความสนใจจากราชันย์ในทันที เขาวิ่งไปยังต้นเสียงก็พบว่า ข้าวแช่กำลังถูกปิดตา มัดอยู่กับเสากลางโกดังเก็บสินค้า “ฮือ…ช่วยฉันด้วย!”
ไม่ทันเกิดความสงสัยว่าทำไมรอบข้างไม่มีใคร รีบเข้าไปหาแล้วแก้มัดให้ทันที “คุณสิงห์ล่ะครับ”
“ใคร?” ผ้าปิดตาถูกปลดออก “คุณราชันย์! ฮือ~” โผเข้ากอดด้วยอาการหวาดผวา
“คุณพอจะติดต่อคนที่บ้านให้มารับได้มั้ยครับ ผมขอหาตัวคุณสิงห์ก่อน”
“ด…ได้ค่ะ” เธอรีบติดต่อคนขับรถให้เร่งมา “ฉันไม่รู้ว่าคุณสิงห์ถูกจับตัวไปไหน เราโดนจับแยกกันขึ้นรถคนละคันค่ะ ฉันโดนปิดตาตั้งแต่รถออกจากร้านเลยค่ะ”
“ครับ ๆ ถ้าอย่างนั้นคุณไปรอในรถก่อนนะครับ” พาตัวคู่หมั้นเจ้านายส่งขึ้นรถ ใจอยากจะรีบไปดูสิงหาก่อน แต่ก็ทิ้งผู้หญิงตัวคนเดียวไว้ไม่ได้
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ คุณไปช่วยคุณสิงหาก่อนเถอะค่ะ”
“อันตรายนะครับ”
“เดี๋ยวฉันล็อกรถแล้วรอจนกว่าคนขับรถจะมาถึงค่ะ ไปเถอะ”
ราชันย์พยักหน้าแล้วกำลังออกวิ่ง แต่ก็วิ่งกลับมาเพราะนึกอะไรขึ้นได้ “คุณข้าวแช่ อย่ายกเลิกงานแต่งนะครับ” เพราะเกรงว่าเธอจะกลัวจนเตลิด จึงต้องกลับมาขอร้อง
“ค่ะ ช่วยคุณสิงหาให้ได้นะคะ”
ราชันย์เบาใจ อย่างน้อยหล่อนก็เป็นคนเข้าใจอะไรง่าย ๆ นั่นเท่ากับว่า ไม่เป็นการยากที่จะเข้ากับเจ้านายของเขาได้
สองขาเริ่มอ่อนแรง หยุดกุมท้องปวดจุก หายใจกระชั้นเหนื่อยหอบ
“อยู่ไหนนะคุณสิงห์” เหลือบตาขึ้นมองท้องฟ้าแล้วปาดเหงื่อ นี่ก็จะมืดแล้ว ยังไม่มีวี่แววเจ้านายของเขา
“พี่หาเจ้านายอยู่เหรอครับ” ราชันย์หันกลับหลัง ภานุกำลังเดินมาหาเขาพร้อมลูกน้องที่คุ้นหน้ากันดีอีกกลุ่มใหญ่
แววตาใสซื่อที่ราชันย์เคยชอบมองบัดนี้เปลี่ยนไปแล้ว ภานุกำลังเป็นเหมือนตอนนั้น ตอนที่ทำร้ายคนรักของเขา
“ภานุ ฉันบอกแล้วไงว่าให้ใจเย็น ๆ” เหลือบมองเบื้องหลังภานุ นั่นคือสิงหาที่กำลังถูกพันธนาการร่างกาย ทั้งตัวเต็มไปด้วยบาดแผลฟกช้ำ “ทำร้ายเขาทำไม!”
“คุณพ่อก็บอกผมอย่างนี้เหมือนกัน และตัวผมเองก็มีความคิดที่จะรอ แต่ว่า…เพราะมันปากเสียเอง” ภานุแสยะยิ้ม เข้ามากอดร่างสันทัดที่กำลังสั่นเพราะความโกรธแล้วเอ่ยเสียงแผ่ว “กลับบ้านเรากันเถอะครับ”
“นายกำลังทำให้คุณท่านเจอปัญหา”
“ไม่สนครับ” เดินอ้อมไปเบื้องหลังราชันย์ กอดเอวแกร่งเบา ๆ “ยังไงพี่ก็ต้องกลับไปกับผม”
“ไม่ได้!” ทันทีที่ตะโกนเสียงดังลั่น ท้องสิงหาก็ถูกหมัดหนัก ๆ ชกเข้าเต็มแรง
“อยากตายรึไงวะ!” ราชันย์กำลังจะก้าวไปหา แต่ร่างก็ถูกดึงกลับ
“ถ้าพี่ไป มันตายแน่”
“อย่าทำอย่างนั้นนะภานุ”
“ก็ยอมกลับไปกับผมซะ”
ราชันย์ถอนหายใจหนักหน่วง กำมือแน่น กล่าวเสียงแข็ง “ก็ได้ภานุ” หมุนตัวกลับหลัง ผลักภานุออกห่างแล้วหมุนตัววิ่งเข้าใส่คนใกล้ตัวสิงหาก่อนใคร
ทั้งหมัดและเท้าถูกกระหน่ำใส่ศัตรูโดยไม่สนใจแม้จะเคยพูดคุยกัน
คนที่ราชันย์สนใจตอนนี้ มีเพียงสิงหา คนที่เขาต้องปกป้องมีคนเดียวเท่านั้น
มีดถูกชักขึ้นมาขู่ ร่างสันทัดโอบมือกลับหลัง กระชับร่างเจ้านายมากขึ้น
ค่อย ๆ ถอยห่างจากคมมีดช้า ๆ เมื่อได้ระยะจึงเตะข้อมือแข็งแรงนั้นแล้วแย่งมีดมาตัดเชือกที่รัดตัวสิงหาทันที “หนีไปครับ”
“ไม่!”
“อย่าเพิ่งดื้อตอนนี้ครับ ไปเร็ว!” ออกแรงผลักร่างกำยำ แล้วหันมาจัดการพวกที่เหลือต่อ ถึงไม่ชนะ อย่างน้อยก็คงถ่วงเวลาได้พอสมควร
“พี่! สิงห์มีปืน”
“กลับมาทำไมครับ!” สิงหากำลังทำให้ราชันย์ประสาทกิน
เขาเองก็มีปืน แต่ไม่อยากใช้เพราะเห็นแก่ภานุ
“เล่นกันพอรึยังครับ” ภานุโบกมือไล่คนที่รุมล้อมคนทั้งสองให้แยกตัวออก “รีบกลับบ้านเราเถอะพี่คิงส์ ผมหิวข้าวแล้ว”
“ขอโทษด้วย ฉันคงกลับไปไม่ได้”
“หมายความว่าไง” ใบหน้าสวยเริ่มขมวด
“ฉัน…เลือกอยู่ข้างคุณสิงห์”
สิงหาเบิ่งตา จ้องเสี้ยวใบหน้าราชันย์แล้วยิ้มบาง คนสนิทเลือกเขาจริง ๆ ไม่ใช่แค่พูดลอย ๆ เพื่อเอาตัวรอด “พี่…”
“ค่อยปลื้มใจทีหลังครับ เอาตัวให้รอดก่อน”
“พอ ๆ ผมไม่ฟังอะไรอีกแล้ว” ภานุชักปืนออกจากเข็มขัดด้านหลัง ปลดเซฟชักรางส่งกระสุนเข้าหาตัว “พวกมึงดึงตัวพี่คิงส์ออก”
ราชันย์ถีบเข้าใบหน้าชายฉกรรจ์ผู้เคยร่วมวงเหล้าเต็มแรง หมุนตัวเตะก้านคออีกคนที่เคยยื่นไฟจุดบุหรี่ให้กัน
สิงหาพอมีเรี่ยวแรงขึ้นแล้ว จึงร่วมมือกับคนสนิทอีกแรง แต่เขาแตกต่างจากอีกคน เพราะไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน จึงไม่จำเป็นต้องประนีประนอม
วัตถุอันตรายส่งกระสุนเจาะทะลุร่างกายคนที่กำลังเข้ามาถึงตัวทั้งคู่ กระนั้นมันก็ยังไม่พอต่อจำนวนศัตรู
“ลดปืนลงซะภานุ! ไม่เห็นเหรอว่าลูกน้องนายเป็นยังไง” แม้ไม่ตาย แต่ก็นอนกระดิกตัวไม่ได้ เลือดรินไหลท่วมนองพื้น
“ช่างสิ พี่ก็รู้ว่าผมสนใจแค่พี่คนเดียว”
“นายใจดำเกินไปแล้วนะ”
“พี่ก็กลับมาหาผมสิ” ภานุถอนหายใจ และคิดว่าคงจะพูดกันไม่รู้เรื่อง จึงหาจังหวะที่สิงหาออกห่างจากราชันย์ ลั่นกระสุนใส่ไม่ยั้ง
“อึก!” มือหนากุมบาดแผลช่วงท้อง จ้องหน้าคนลั่นกระสุนสายตาดุดัน “แม่ง!”