Ep.4

1933 Words
4 ได้เวลาเลิกงาน “คุณสิงห์อยากกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนมั้ยครับ” สวมเสื้อสูทให้เจ้านายแล้วราชันย์จึงถามขึ้น เพราะกลิ่นน้ำมันนวดยังคงอยู่ “กลิ่นแรงมากเลยเหรอครับ” ด้านเขาไม่ได้กลิ่น อาจเพราะจมูกมันชินไปแล้ว ราชันย์โน้มใบหน้าใกล้บริเวณต้นคอหนาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก “แรงใช้ได้ครับ” “…” ดวงหน้าคมคายเบี่ยงหนี แล้วจึงกระแอมเล็กน้อย “ไปอาบน้ำก่อนก็ได้ครับ” ราชันย์กระตุกยิ้มรวดเร็ว ก่อนเดินไปเปิดประตูห้องทำงานให้ รอจนเจ้านายเดินนำเขาไปสามก้าวจึงก้าวเท้าตามไป “คุณสิงห์นัดใครไว้เหรอครับ” ถามพลางดูเส้นทางจราจรในโทรศัพท์ไปด้วย “คู่หมั้นครับ” คนฟังขมวดคิ้วเล็กน้อย เรื่องนี้เขาไม่เคยรับรู้ “แฟนเหรอครับ คบกันนานรึยัง” “สิงห์ไม่เคยเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ รู้แค่ว่าชื่ออะไร มาจากตระกูลไหน” ตอบไปพลางทิ้งสายตามองข้างทางเรื่อย ๆ “ผู้ใหญ่จัดการให้สินะครับ” “คุณพ่อระบุในพินัยกรรมไว้ครับ ถ้าแต่งงานกับเธอ สิงห์จะได้อิสระ” “การแต่งงานไม่ใช่หมายถึงการถูกผูกมัดหรือไงครับ” อิสระอะไรกัน การมีครอบครัวน่ะ ยิ่งกว่าถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนเสียอีก “คุณพ่อบอกว่า ถ้ายอมแต่งงานกับเธอ สิงห์จะมีสิทธิ์เต็มที่ในแกงค์ แทนที่ผู้อาวุโสครับ” “…” ผู้อาวุโสที่ว่าคือผู้ดูแลแกงค์ชั่วคราว แทนนายใหญ่ที่เสียไปเมื่อช่วงปีก่อน “ถ้าได้ปกครองแกงค์อย่างเต็มตัวจริง ๆ คุณจะทำยังไงกับมัน” “ทลายมันด้วยมือตัวเอง” สิงหาต้องเจ็บปวดเพราะมันมามากพอแล้ว และเขาไม่ต้องการให้คนรักในอนาคตต้องมาเจ็บปวดซ้ำรอยอีก “…” เรื่องนี้เขาควรบอกภานุดีกว่า ยังไงไม่ช้าไม่นาน สิงหาต้องทำลายแกงค์ตัวเองอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องอยู่เพื่อรอโดนกำจัดเป็นรายต่อไป “พี่คิงส์มีลูกรึเปล่าครับ” “ไม่ครับ” และไม่มีทางมีด้วย นอกเสียจากโลกจะมีวิวัฒนาการให้อสุจิผสมกับลำไส้ใหญ่แล้วเกิดเป็นตัวอ่อนได้น่ะ “แล้วพี่รักภรรยาพี่ขนาดไหนครับ” “รักมากพอที่จะยอมทำทุกอย่างที่เขาต้องการครับ” ภรรยาเหรอ? หึ! เมียผมเป็นผัวคนอื่นอยู่แน่ะคุณสิงห์ “ถ้ารัก ทำไมถึงเลือกมาทำงานที่มันเสี่ยงแบบนี้ล่ะครับ ไม่กลัวว่าถ้าเป็นอะไรไปแล้วภรรยาจะโดดเดี่ยวเหรอ” “เขาเข้าใจครับ” ก็มันเองนั่นแหละที่ส่งผมมา “…” สุดท้ายแล้ว คนทุกคนก็เลือกสนใจแต่ความรู้สึกของตัวเอง และคิดเอาเองว่าคนอื่นเข้าใจในความคิดตน เหมือนพ่อของสิงหาไม่มีผิด คิดว่าแม่รับได้ที่เขาต้องทำงานเสี่ยงคุกเสี่ยงลูกปืนจึงไม่ยอมเลิก ห่วงเรื่องรายได้มากกว่าความรู้สึกเมียและลูก ทั้งปีครอบครัวเขามีเวลาอยู่ด้วยกันนับรวม ๆ ยังไม่ถึง 7 วันด้วยซ้ำ ความอดทนของคนเรามีจำกัด ในที่สุดแม่ก็เป็นฝ่ายขอหย่าและหนีไปอยู่ต่างประเทศ ทิ้งให้สิงหาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลว่า อยู่กับพ่อเขาจะมีอนาคตที่ดีกว่า อนาคตที่ว่าคือก้าวเดินไปตามเส้นทางดำมืดที่พ่อเป็นคนขีดให้ อยากเปลี่ยนไปเดินเส้นทางที่สว่างกว่านี้ก็ทำไม่ได้ เพราะหากก้าวหนี ร่างเขาอาจต้องพลัดตกไปในหลุมดำ ไม่มีทางตะเกียกตะกายขึ้นมาได้จนวันตาย “คุณสิงห์ครับ!” ประตูโดยสารด้านหลังถูกเปิดโดยราชันย์พร้อมด้วยเสียงตวาดเรียกเจ้านาย “เหม่ออะไรอยู่ครับ ผมเรียกตั้งนานแน่ะ” “อ๋อ…” แสร้งนวดขมับแสดงอาการว่าปวดหัว “ปวดหัวนิดหน่อยครับ” “เลื่อนนัดดีมั้ยครับ” สีหน้าซีดเผือดนั่นไม่สู้ดีนัก “ไม่ครับ” รีบไปเจอรีบตกลงกันให้จบ ๆ ไปดีกว่า สิงหาจะได้เอาเวลาที่เหลือไปสนใจเรื่องของตัวเองต่อ สิงหาเดินเข้าคฤหาสน์ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ แล้วจึงกลับมาขึ้นรถที่มีราชันย์รออยู่ที่เดิม มาถึงคลับ S ที่มีสิงหาเป็นเจ้าของ ทั้งคู่ก็ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โดยมีการ์ดเดินนำไปยังห้องวีไอพี และเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้ว่าที่นายใหญ่ที่หน้าห้อง “ให้ผมออกไปมั้ยครับ” ราชันย์กล่าวทั้งรินเหล้าใส่แก้วดีไซน์หรูให้ โดยไม่ลืมวางแก้วน้ำดื่มไว้ข้าง ๆ “ไม่เป็นไรครับ สิงห์ไม่ได้มีความลับอะไร” “แต่คุณกับคู่หมั้นควรได้คุยกันส่วนตัว” “สิงห์บอกให้พี่อยู่!” คนถูกตวาดเบิ่งตาเล็กน้อยแล้วจึงเลี่ยงไปยืนข้างโซฟาเงียบ ๆ “ขอโทษครับ ไฟในนี้มันทำให้สิงห์เวียนหัว” “ไม่เป็นไรครับ” ราชันย์เข้าใจแล้ว สิงหาเป็นคนง่าย ๆ ที่ไม่ชอบให้ใครดื้อกับเขาซ้ำ ๆ และราชันย์ก็เป็นประเภทที่เขาไม่ชอบซะด้วยสิ เรื่องเซ้าซี้เป็นที่หนึ่ง ดื้อเป็นที่สอง “พี่คิงส์ไม่ดื่มเหรอครับ” “ไม่ครับ นี่เป็นเวลางาน” ได้รับคำตอบอย่างนั้น คนฟังก็กระตุกยิ้ม “คุยกับเธอเสร็จแล้ว ไปดื่มกันต่อที่บ้านนะครับ” “ถ้าคุณสิงห์อยากดื่ม ก็ได้ครับ” “ก็พี่อยากดื่มไม่ใช่เหรอครับ เห็นว่ามีนัด แต่ต้องมายกเลิกเพราะสิงห์” “นัดนั้นไม่ได้สำคัญอะไรหรอกครับ ไม่ไปก็ไม่มีปัญหา” อันที่จริงราชันย์ยังไม่ทันได้นัดภานุด้วยซ้ำ มันจึงไม่มีปัญหายังไงล่ะ “ถ้าอยากดื่ม สิงห์อนุญาต” กล่าวอย่างใจดีก่อนหันมาให้ความสนใจกับแก้วเหล้าของตนแทน ใจดีแบบนี้ไม่ได้นะคุณสิงห์ เป็นอย่างนี้สักวัน…ผมคงใจร้ายกับคุณไม่ลง “ขอโทษที่สายนะคะ รถติดมากเลย” หญิงสาวผมดัดลอนในชุดแซกสีขาวบริสุทธิ์เปิดประตูพรวดเข้ามานั่งตรงข้ามสิงหา “ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็เพิ่งมาถึง” แก้วน้ำเปล่าใบใหม่ถูกยื่นให้เธอ “คุณข้าวแช่มายังไงครับ” “คนขับรถค่ะ ข้าวเมาได้นะคะ” สิงหาเลิกคิ้วหัวเราะขบขัน “อย่าดื่มเลยครับ มันไม่ดีต่อสุขภาพ” ราชันย์เปลี่ยนสายตาไปจับจ้องบรรยากาศภายในคลับจากบานกระจกแทน แต่หูก็คอยฟังบทสนทนาไปด้วย “เรื่องการหมั้น ผมคิดว่าจะจัดภายในเดือนหน้า คุณข้าวแช่คิดว่ายังไงครับ” “ถึงจะดูเร็วไปหน่อย แต่ข้าวยินดีค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ก็คงเห็นด้วย แล้วเรื่องงานแต่งล่ะคะ” มุมปากราชันย์กระตุกหยัน ไวไปมั้ยหล่อน รีบเสนอตัวเพราะกลัวไม่ได้ขึ้นเตียงขนาดนั้นเลยรึไง “จะจัดหลังจากนั้นอีกสองเดือนครับ” “คืออย่างนี้ค่ะ ทางบ้านข้าวเขาถือเรื่องฤกษ์ยามมากเลย เรื่องงานหมั้นข้าวไม่ซีเรียส ค่อนข้างซีเรียสเรื่องงานแต่งมากกว่าค่ะ ครั้งเดียวในชีวิตลูกผู้หญิงก็อยากให้มันออกมาเพอร์เฟกหน่อย” “เข้าใจครับ หน้าที่หาฤกษ์ยามเป็นของบ้านคุณก็แล้วกัน ผมไม่ค่อยถนัด” “ตามนั้นค่ะ ข้าวรู้สึกประทับใจที่คุณให้ข้าวเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจด้วย ต่อไปชีวิตคู่ของเราคงราบรื่นน่าดูเลยนะคะ” ผู้เป็นส่วนเกินพ่นลมหายใจก่อนโค้งตัวให้เจ้านายแล้วออกจากห้องไป ยัยข้าวบูดนี่ทำตัวเป็นนกแก้วนกขุนทอง จ้อไม่หยุด น่ารำคาญโคตร ๆ ดีนะที่คนฟังคือคุณสิงห์ ถ้าเป็นผมจะด่าให้เช็ดจนหน้าเสียเลยล่ะ ราชันย์พาตัวเองหลีกหนีเสียงหวานแหลมน่ารำคาญเข้ามาในห้องน้ำ หยิบบุหรี่ซองที่เจ้านายซื้อให้ขึ้นมาจุด พ่นควันแล้วพ่นลมหายใจผ่อนคลายลง อยู่ในนี้สักพัก รอจนแน่ใจว่าคุณข้าวบูดออกไปแล้วค่อยกลับเข้าไปแล้วกัน เวลาผ่านไปพอสมควร บุหรี่ตัวแล้วตัวเล่าถูกจุดแทบนับก้นกรองไม่ได้ ราชันย์จึงดูเวลาในโทรศัพท์ก่อนทิ้งบุหรี่ตัวสุดท้าย ใช้ปลายเท้าขยี้หยิบมันทิ้งถังขยะแล้วหันไปจัดแจงผมเผ้าหน้ากระจกอีกรอบ กลับเข้ามาในห้องก็พบเพียงสิงหา ไม่มีเสียงนกเสียงกาให้หงุดหงิดใจอีกต่อไป ลมหายใจโล่งอกถูกพ่นแล้วเดินมายืนในตำแหน่งเดิม “ไปไหนมาครับ” เสียงทุ้มกดต่ำเอ่ยทั้งทิ้งสายตามองแก้วเหล้า “สูบบุหรี่ครับ คุณข้าว…แช่เขากลับไปนานรึยังครับ” “พอพี่ออกไป สิงห์ก็ให้เขากลับ” “งั้นเหรอครับ” ราชันย์กระหยิ่ม รู้งี้น่าจะออกไปตั้งนานแล้ว ทนอึดอัดอยู่ได้นะไอ้คิงส์ “พี่คิงส์จะดื้อกับสิงห์ไปถึงเมื่อไหร่ครับ” “ครับ?” เขาไปดื้อใส่เจ้านายตอนไหนอีก “สิงห์บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้พี่อยู่” สิงหากระดกเหล้าในแก้วจนหมดแล้วผุดลุกขึ้นช้า ๆ “ทำไมถึงดื้อล่ะครับ สิงห์เป็นเจ้านายพี่ ทำไมถึงไม่เคารพกันบ้าง” “เอ่อ…ผมแค่อยากสูบบุหรี่เท่านั้น เห็นว่าคุณติดธุระคุยกันอยู่เลยไม่ได้บอก ขอโทษจริง ๆ ครับ” ราชันย์ก้มหน้างุด สิงหาเดินมาหยุดตรงหน้าลูกน้อง แล้วเหวี่ยงแก้วในมือลงพื้นอย่างแรง เพล้ง! “พี่…” ลมหายใจกระชั้นแสดงถึงโทสะ “ไม่ใช่ว่าผมไม่เคารพคุณนะครับ” “พี่คิงส์…เชื่อฟังสิงห์สักคนไม่ได้เหรอครับ” น้ำเสียงอ่อนลงทำให้ราชันย์ต้องเงยหน้าขึ้น คนตรงหน้ากำลังหายใจหนักหน่วง ยันมือกับผนังห้องกักกันเขาไปด้วย “สิงห์คือว่าที่ผู้นำแกงค์ แบล็คไลออน สิงห์…อยากให้มีสักคนที่ฟังคำสั่ง” “คุณ…” ฝ่ามือหนาประกบใบหน้าแดงโร่ของเจ้านายแล้วลูบเบา ๆ “เมามากแล้วนะครับ กลับเถอะ” “รับปากมาสิครับ ว่าพี่คิงส์จะไม่ดื้อกับสิงห์อีก แค่พี่คิงส์เท่านั้นที่อยากให้เชื่อฟัง” “ทำไมล่ะครับ” ลูกน้องคนอื่นไม่เชื่อฟังเขาหรือยังไง แต่ดูแล้วก็นอบน้อมต่อสิงหากันดี ไม่มีทีท่ากระด้างกระเดื่องให้เห็น “ทุกคนเอาแต่ไปประจบประแจงผู้อาวุโสกันหมด สิงห์…เป็นแค่หมาหัวเน่า ไม่มีลูกน้องคนไหนเคารพด้วยใจจริงเลยสักคน” ดวงตาคมน้ำตาคลอหน่วย เอียงใบหน้าถูไถกับฝ่ามือสากของราชันย์เบา ๆ “สิงห์มีพี่เป็นคนสนิทแค่คนเดียว สิงห์…อยากให้พี่ตามใจ อยากให้พี่รักสิงห์” “เด็กน้อยเอ๊ย พอเมาก็พูดหมดเลยแฮะ” “พี่คิงส์สัญญาได้มั้ยครับ ถ้าพี่อยากได้เงินเดือนหลักแสนสิงห์ก็จะให้ สิงห์ขอแค่นี้” สิงหาน้ำตาริน เอียงหน้าจุมพิตฝ่ามือที่ประกบแก้มไว้แผ่วเบา บ้าเอ๊ย! ทำแบบนี้ใจคนโดนมันจะเต้นแรงนะเว้ย! “สัญญาครับ ผมจะไม่ดื้อกับคุณสิงห์อีก จะทำตามทุกอย่าง” ดวงตาบอบช้ำช้อนมองคนตรงหน้าแล้วเคลื่อนเข้าใกล้ ราชันย์สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าว “กลับบ้านเถอะครับ” “ไม่ สิงห์ไม่กลับ” บอกไม่ให้คนอื่นดื้อ แต่ตัวเองกำลังดื้ออยู่ไม่ใช่รึไง “คุณเมามากแล้วนะครับ กลับเถอะนะ” มือหนาผละจากการยันกำแพงคว้าคางมนเรียวของราชันย์ไว้ทันที จ้องนัยน์ตาสะท้อนแสงไฟหลากสีแล้วยิ้มกระหยิ่ม “สิงห์ไม่เมาซะหน่อย ยังเห็นหน้าสวย ๆ ของพี่อยู่เลย” เมาแล้วจู่โจมเก่งฉิบคุณสิงห์ ตัวก็ใหญ่ แรงก็เยอะ โถ่เว้ย!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD