Ep.2

1747 Words
2 ราชันย์มาถึงเวลาเริ่มงานประมาณสิบนาที เขาจึงยืนรออยู่หน้าห้องทำงานส่วนตัวของสิงหาเงียบ ๆ เพราะไม่กล้าถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเอง รอนาน ๆ ก็อาจจะบั่นทอนหัวใจ ราชันย์จึงบิดร่างกายเป็นการออกกำลังกายไปในตัวระหว่างรอ “อะไรวะ…นี่มันเก้าโมงแล้วนะ” ดูเวลาพลางถอนหายใจแล้วหันมองซ้ายมองขวา “กำชับเราว่าให้ตรงเวลา แต่ตัวเองดันสายซะเอง ไม่ได้เรื่อง” “กำลังบ่นสิงห์อยู่เหรอครับ” ประตูห้องทำงานถูกเปิดจากด้านในโดยเจ้าของห้องที่มารอราชันย์ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน “อ้ะ!” ราชันย์เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มเจื่อน “ได้ยินด้วยเหรอครับ” “ได้ยินแค่คำว่าไม่ได้เรื่องน่ะครับ” สิงหาคลี่ยิ้มไม่ทุกข์ร้อนกับการโดนลูกน้องนินทา “ไปหาลูกค้ากันเถอะครับ” “คุณสิงห์!” ราชันย์เรียกร่างกำยำที่กำลังผละไปไว้ทันที “โกรธผมรึเปล่าครับ” “สิงห์จะโกรธพี่ทำไมครับ พี่แค่บ่นเพราะเข้าใจสิงห์ผิด” นั่นมันน่าโกรธสุดแล้วล่ะครับคุณสิงหา “แต่คุณเป็นเจ้านาย” “อยากให้โกรธเหรอครับ” สิงหายิ้มบางก่อนหันหลังให้ “สิงห์ชอบดื่มอเมริกาโนนะครับ” อีกฝ่ายเดินลงบันไดไปแล้ว ราชันย์จึงไม่รอช้ารีบวิ่งตามไปทำหน้าที่คนขับรถให้ทันที ถึงร้านกาแฟที่นัดลูกค้าไว้ ราชันย์ก็ดึงเก้าอี้ให้สิงหานั่งก่อนตัวเองจะเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่ม “อเมริกาโนที่คุณสิงห์ชอบครับ” เขาต้องการเน้นย้ำในคำบอกเล่านั้น อีกฝ่ายจะได้รู้ว่าตนใส่ใจแค่ไหน “ของพี่ล่ะครับ” สิงหาถามพลางเหล่สายตาดูแก้วในมือลูกน้อง ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มเอ็นดู “เหมาะกับพี่ดีนะครับ” “หือ? ” ชมหรือหลอกกระแนะแหนกันแน่วะ สมูทตี้โยเกิร์ตเนี่ยนะเหมาะกับคิงส์คนนี้ พาลให้นึกถึงเวลาที่ภานุเห็น คน ๆ นั้นเอาแล้วค่อนขอดว่ามันไม่เหมาะกับรูปลักษณ์ของเขา “ไม่โอเคกับคำพูดสิงห์เหรอครับ” “เปล่าหรอกครับ แค่ไม่รู้ว่า…” “เหมาะในที่นี้เป็นไปในทิศทางที่ดีครับ” ดวงหน้าคมคายเสหลบจากคนตัวสูงข้างตัว หันไปให้ความสนใจกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนโต๊ะกาแฟแทน เปิดตรวจทานงานอีกรอบเพราะใกล้ได้เวลาลูกค้าคนสำคัญจะมา “ให้ผมช่วยทำอะไรนอกจากยืนดูดสมูทตี้สักหน่อยมั้ยครับ” “ไม่เป็นไรครับ วันนี้เป็นการทำงานวันแรกของพี่ อย่าเพิ่งกดดันตัวเองเลยครับ” “ครับ” เป็นเจ้านายที่ดีจริง ๆ เลยนะคุณสิงห์ ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนี้ ก็ยังมีพวกโลภมากจ้องจะทำลาย ความรัก โลภ โกรธ หลงของมนุษย์นี่ช่างน่ากลัว “สวัสดีครับคุณสิงหา” ชายรูปร่างสูงโปร่งดูภูมิฐานก้าวเข้ามาพร้อมเลขาสาวนั่งตรงข้ามสิงหา ทั้งสองจับมือเป็นการทักทายแล้วจึงคุยงานกันในทันที “คุณวรันต์สามารถดูสินค้าที่ทางเรากำลังนำเข้าได้จากอีเมล์ที่ผมส่งให้ได้เลยนะครับ หากว่าถูกใจตัวไหน ผมมีราคาพิเศษให้” “ถ้าสนใจคนตรงหน้าล่ะครับ มีราคาพิเศษให้รึเปล่า” ราชันย์ลดแก้วในมือไพล่หลังไว้ พลันความคิดในหัวก็ดังขึ้น เอาละไงไอ้เวรหน้าตี๋นี่ เงี่ย-ไม่รู้จักกาลเทศะ “แน่นอนสิครับ สำหรับคุณวรันต์น่ะ พิเศษกว่านี้ยังได้” นี่ก็ยังไง ยังมีหน้าไปเล่นกับเขาอีก “คำตอบถูกใจผมมากเลยครับ” วรันต์ฉีกยิ้มกว้างแล้วเอื้อมมือวางใกล้ฝ่ามือหนาของสิงหา “สินค้าล็อตนี้มีกี่ตัวก็เอามาเลยครับ ผมซื้อหมดเลย” หน้าใหญ่ใจป๋าซะเหลือเกินนะไอ้ตี๋ “ขอบคุณครับ” ราชันย์ไม่สงวนท่าที เขาเหลือบตามองบนใส่คนทั้งคู่ แม้ไม่เห็นว่าเจ้านายมีสีหน้าอย่างไรในตอนนี้ แต่ก็อดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้ “อย่าลืมนะครับ วันไหนที่คุณสิงหามีเวลามากพอ” วรันต์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ยืนเต็มความสูงแล้วโน้มตัวไปกระซิบข้างหูอีกฝ่ายด้วยแววตากรุ้มกริ่ม “เราไปกิน…ข้าวกัน” “ยินดีครับ” วรันต์เดินออกไปแล้ว สิงหาจึงพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก “พี่คิงส์มานั่งด้วยกันสิครับ กินข้าวเสร็จเราค่อยเข้าบริษัทกัน” คนถูกเรียกโยกศีรษะยียวน ลงนั่งตรงข้ามพลันกระตุกยิ้ม “จะไปกินข้าวกับไอ้ตี๋นั่นจริง ๆ เหรอครับ” “สุภาพกับลูกค้าหน่อยสิครับ เขาเอาเงินมาให้เรานะ” สิงหาขำขันกับท่าทางไม่ชอบใจในตัวลูกค้าคนสำคัญของราชันย์ซะเหลือเกิน “สิงห์ก็คงทำอย่างทุกทีนั่นแหละครับ…ไม่ว่าง” “ดีครับ หมอนี่ดูท่าทางไม่น่าไว้ใจเอาซะเลย เสร็จงานก็อย่าไปใกล้มันอีกนะครับ” ว่าพลางเหล่สายตามองตามรถวรันต์ที่เคลื่อนตัวออกไป หนำซ้ำยังทำท่าฟึดฟัดอีกด้วย คนโดนเป็นห่วงไล่สายตามองราชันย์ตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงรอยสักที่โผล่พ้นเสื้อนั้นแล้วส่ายหัวน้อย ๆ ทั้งยังยิ้มบาง เอ็นดูในความห่วงเจ้านายของคนผู้นี้เสียเหลือเกิน “อะไรล่ะครับ ผมแค่ชอบสัก แต่ภายในจิตใจของผมน่ะ บริสุทธิ์ยิ่งกว่าทารกยังไม่ตัดสายสะดือซะอีกนะครับ” “ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ กินข้าวกันเถอะนะ” สิงหาหันไปสั่งอาหารให้แก่ทั้งเขาและคนตรงข้าม ไม่นานอาหารจานด่วนก็ถูกวางเบื้องหน้าคนทั้งคู่ “พี่คิงส์ยังไม่หิวเหรอครับ” ถามอย่างนั้นเพราะเห็นว่าราชันย์ยังไม่ยอมแตะแม้แต่ช้อนส้อม “คุณสิงห์ก็เป็นพวกมองคนที่ภายนอกงั้นเหรอครับ” คนถูกถามขมวดคิ้วมุ่น เพิ่งตระหนักได้ว่าตนคงแสดงท่าทีไม่ดีออกไป จนทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ชอบใจ “เอ่อ…ขอโทษครับ” สิงหาจ้องนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจริงจัง “สิงห์คงมีท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ยังไงพี่คิงส์ช่วยตักเตือนด้วยนะครับ” แววตาขุ่นมัวสั่นระริกเมื่อเห็นว่า เจ้านายยอมยกมือขอโทษขี้ข้าอย่างเขา “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ครับ จริง ๆ แล้วเรื่องแบบนี้ใช่ว่าไม่เคยเกิดกับผมหรอก ที่ถามเพราะแค่อยากรู้ ถ้าเกิดคุณสิงห์เป็นแบบนั้นผมจะได้รับมือถูก” “ถ้าเกิดสิงห์เป็นพวกมองคนที่ภายนอก คงปฏิเสธให้พี่เข้าพบตั้งแต่วันแรกแล้วครับ” “ถ้าอย่างนั้น” ราชันย์โน้มตัวจ้องดวงตาคมของสิงหาไม่วางตา “สายตากับรอยยิ้มเมื่อครู่มันคืออะไรล่ะครับ” “…” ก็แค่เอ็นดูท่าทางเหมือนเด็กน้อยเวลาไม่พอใจของชายวัยใกล้เลขสามก็เท่านั้น แต่สิงหาจะบอกไปแบบนั้นได้ยังไง มันน่าอายจะตายไป “โอเคครับ ผมเข้าใจแล้ว” เลขาหนุ่มยักไหล่แสร้งว่าไม่ใส่ใจ ทั้งที่ในใจกลับรู้สึกไม่สบอารมณ์ ทั้งที่แสดงออกว่าเป็นคนใจดีซะขนาดนั้น แต่กลับยิ้มเยาะเพราะเรื่องรอยสัก ย้อนแย้งชะมัดเลยไอ้คุณสิงห์ “ถ้าพี่จะเข้าใจอะไรไปเองแบบผิด ๆ สู้ถามสิงห์ออกมาดีกว่านะครับ” “คุณลืมอะไรไปรึเปล่าครับ” “…?” “ผมถามไปแล้ว และคุณไม่มีคำตอบให้ นั่นก็เท่ากับว่า สิ่งที่ผมเข้าใจมันถูกต้อง” ราชันย์ก้มหน้าก้มตากินข้าว ไม่สนใจอาการเหนื่อยหน่ายของคนตรงหน้าอีกต่อไป อยากแก้ตัวอะไรก็เชิญ ไม่ฟังอะไรทั้งนั้นแหละเว้ย! กระทั่งทั้งสองขึ้นรถ สิงหาก็ยังคงเงียบกริบ เป็นแบบมันยิ่งทำให้ราชันย์หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม ไม่คิดจะแก้ต่างให้ตัวเองสักหน่อยรึไงวะ บ้าชิบ! อารมณ์คุกรุ่นของราชันย์ถูกระบายด้วยฝ่าเท้าแทน เขากดแรงเหยียบคันเร่งให้รถพุ่งไปด้วยความเร็วสูง เจอมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ขับขวางหูขวางตาก็ด่าแหลก “ไอ้ควาย!” “ขับรถโง่ ๆ!” สิงหาได้แต่ทำตาปริบ ๆ แม้ในความคิดจะคาดเดาไว้แล้วว่าเลขาคนใหม่ของเขาต้องเป็นคนที่เกรี้ยวกราดพอสมควร แต่ไม่คิดว่าจะเผยธาตุแท้ได้เร็วขนาดนี้ “ขอโทษทีนะครับ ผมเป็นพวกไม่ชอบเก็บอารมณ์” ขอโทษเป็นมารยาทแล้วเหยียบคันเร่งจนจม สิงหาลอบกลืนน้ำลายจนในโพรงปากแห้งเหือด สองแขนพาดเบาะแล้วจิกมือฝังกับพนักพิงไว้แน่น “พี่…ใจเย็น ๆ หน่อยครับ” “…” ไม่ใจยงใจเย็นมันแล้วเว้ย! มันเดือดไปแล้ว! “สิงห์ขอโทษครับ” “ขอโทษทำไมครับ!” ราชันย์กระโชกถาม ไม่ว่าอะไรก็ดูจะไม่เข้าหูเข้าตาคนเลือดร้อนไปซะหมด “ที่ทำหน้าอย่างนั้น สิงห์ไม่ได้ดูถูกพี่นะครับ” “หึ!” ยอมแก้ตัวออกมาแล้วสินะ ต้องให้เล่นบทโหดก่อนรึไงถึงจะยอมเอ่ยออกมา “สิงห์แค่…” “อะไรล่ะครับ จะบอกว่าแค่สมเพชในรูปลักษณ์เหมือนขี้ยาของผม สมเพชในคำพูดไม่เจียมตัวของผมอย่างนั้นสินะครับ” “เปล่าครับ!” “ผมแค่อยากทำหน้าที่ในส่วนของผม ผมต้องปกป้องเจ้านายเมื่อเห็นสิ่งไม่ชอบมาพากล” มือที่กำลังจับพวงมาลัยบีบแน่นจนเส้นเลือดปูดเป็นริ้ว “ถ้าคุณชอบที่ไอ้ตี๋นั่นมันทำผมก็จะไม่ขัดขวาง บอกผมมาตรง ๆ ก็ได้ ดีกว่ามาทำสีหน้าแบบนั้นใส่กัน ผมไม่ชอบ!” “ไม่ครับ สิงห์ไม่ได้ชอบเขา แค่ต้องการผลประโยชน์เท่านั้น” สิงหาเข้าใจแล้วว่า ราชันย์กำลังคิดเรื่องนั้นจริง ๆ แถมยังคิดไปเองเป็นตุเป็นตะอีกด้วย “และที่ทำหน้าแบบนั้นเพราะ…” บ้าเอ๊ย! พอถึงเวลาดันพูดไม่ออก “เลิกอึกอักสักทีครับ” “สิงห์เอ็นดูพี่ครับ!” บอกทั้งหลับตาปี๋ หายใจหอบกระชั้น เสมือนว่าการเปล่งวาจานี้ ต้องใช้เรี่ยวแรงประหนึ่งวิ่งรอบสนามฟุตบอล เอี๊ยด! เบรกถูกเหยียบอย่างแรงจนสิงหาตัวพุ่งมาเสียบระหว่างเบาะผู้โดยสารด้านหน้า “โอ๊ยพี่!” “ข…ขอโทษครับ” สรุปแล้วที่เขาเป็นบ้าเป็นบออยู่นี่เพราะแค่อีกฝ่ายเอ็นดูน่ะเหรอ “ผมขอโทษ” พังหมดแล้วแผนที่วางไว้ เพราะความใจร้อนของตัวเองแท้ ๆ ไอ้ควายคิงส์เอ๊ย!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD