คืนวันพระจันทร์ดับ
สตรีใบหน้าคมมองพระจันทร์สลับกับอ่างน้ำ สองชั่วยามที่ผ่านมาร่างกายของนางในชาตินี้เริ่มแตกดับเพราะใช้กำลังภายในขับพิษมากมายที่ถูกผูเล่อกรอกใส่โถน้ำชาของนางทุกครั้งที่พบกัน ชาติแรกที่นางตายเป็นเพราะความรักบังตาจึงดื่มชาทุกวันอย่างไม่คิดอะไร ต่างกับยามนี้แม้รู้ว่าแก้ไม่ได้ว่าต้องทานแต่ก็ต้องเลี่ยงบ้าง...ซึ่งแม้จะเลี่ยงไหนเลยจะหยุดชะตากรรมเดิมๆ ได้ นางจึงหาทางเร่งเวลาเพื่อที่ตัวนางจะได้หาตัวแทน ความผิดใหญ่หลวงที่นางกำลังจะกระทำคือโยนเคราะห์กรรมให้ผู้อื่น ถึงรู้แต่นางก็ยังจะกระทำ และบัดนี้เรื่องกำลังจะวนกลับมาเหมือนเดิมเมื่อร่างเนื้อเริ่มสลายหลังจากนี้ภายในสามวันชีวิตนางจะกลับไปยังจุดเริ่มต้น จุดที่กวนผูเล่อตกร่องเขาแล้วนางเข้าไปช่วยเหลือ
“จะทำจริงๆ งั้นรึ?” อี้หยุนมองบุตรสาวของจอมมารเหนือหัว เขาไม่รู้ว่าหากชิงเซียนทำเช่นนี้แล้วผลที่ตามมาจะเกิดอะไรขึ้นแต่เขาก็ไม่อาจห้ามเพราะมันคือทางเลือกของนาง ยามนี้สิ่งที่คิดถึงคงกลายเป็นความสงสารสตรีที่จะมารับโทษแทนผู้นั้นมากกว่า “ถ้าบิดาเจ้ารู้” เขาไม่อยากจะคิด
“ยามนี้ก็คงรู้” หันมองสัตว์เลี้ยงข้างกายที่คอยขัดนางตลอดเวลาตั้งแต่ชาติแรกที่นางเริ่มวิบากกรรม เดิมทีนั้นนางพบอี้หยุนในร่างนกน้อยจนพัฒนาการของมันเริ่มเปลี่ยนไป สัญชาตญาณของคนจากเผ่ามารคือการเรียนรู้และฝึกวรยุทธ์ ยิ่งอี้หยุนเกิดมาจากเส้นขนของบิดาผู้เป็นจอมมาร...อีกฝ่ายก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ยังไม่เทียบเท่านางก็ตาม “แต่เจ้าอย่าลืมว่าบิดาข้าจะมิลงมาจากเขาเหลียงคุนหากยังภาวนาจิตไม่จบ” ดังเช่นหลายๆ ชาติที่บิดาไม่เคยมายุ่งวุ่นวายกับผู้คนด้านล่าง แน่นอนว่าถ้าลงมาจริงพื้นดินในหลายร้อยลี้นี้คงพังราบเป็นหน้ากลองเพราะพลังของท่านพ่อมากมายเหลือเกิน มากมายจนสามารถสั่งสอนนางให้ชดใช้ความผิดที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบุรุษธรรมดาโดยการทำให้นางเวียนว่ายตายเกิดเจ็ดร้อยชาติได้ นางมารน้อยที่มิเคยสิ้นชีพกลับถูกสังหารง่ายๆ เพียงแค่ถูกพิษ...นั่นเพราะท่านพ่อกกำหนดและสั่งสอนให้นางได้หลาบจำ ‘ท่านทำถูกแล้ว’ และเป็นนางที่ทนไม่ไหวเอง
“เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าไปแล้วจะหวนกลับมาไม่ได้” คำเตือนที่เขาก็ไม่รู้จุดจบถูกกล่าว สิ่งที่ชิงเซียนจะทำคือย้ายวิญญาณ เรื่องใหญ่เช่นนี้จะทำให้ทั้งในกาลหน้าและกาลนี้เปลี่ยนไป สตรีนางนั้นจะต้องมาเวียนว่ายตายเกิดทดแทนต่างกับชิงเซียนที่เลือกจะหนีออกจากที่นี่และเจอกับกายเกิด แก่ เจ็บ ตายเฉกเช่นคนธรรมดามิใช่มารน้อยที่ไม่มีวันตาย
“รู้ แต่ข้าเลือกแล้ว” ชาติภพของสตรีนางนั้น มีการเวียนว่ายตายเกิด มีเจ็บ มีชรา มีดับ...นางรู้และปรารถนามัน ดวงตางดงามแหงนมองฟ้ากว้างรอเวลาบรรจบ ในระหว่างนั้นนางเริ่มรวบรวมพลังปราณทั่วร่างมาไว้ในกำมือ วิชามารขั้นสูงที่เป็นวิชาต้องห้ามถูกนางเลือกมาใช้ หากไม่สำเร็จนางก็แค่สิ้นชีพระหว่างดึงวิญญาณ แน่นอนว่าสตรีในอ่างน้ำผู้นั้นก็จะตายและหลงไปที่ใดสักแห่งเช่นเดียวกับนาง ‘แต่แล้วอย่างไรในเมื่อนางก็คือมาร...มิใช่คนดี’ ริมฝีปากบางเริ่มพร่ำบทสวดไปตามสายลม มองพระจันทร์ดับตรงศรีษะเพียงครู่ก่อนจะก้มมองในอ่างน้ำแล้วจุ่มนิ้วลงไปหมุนวน จนน้ำนิ่งในอ่างนั้นเกิดคลื่น ปากสวดไม่หยุดมองหน้าสตรีอันไกลโพ้นที่กำลังนอนหลับใหลไม่ได้สติก่อนจะค่อยๆ ส่งพลังและกำหนดจิต ช้าๆ ช้าๆๆ ไขว่ขว้าวิญญาณของอีกฝ่ายออกจากร่าง...สู่การเดินทางอันแปลกใหม่ ในภพใหม่ที่มิใช่ตัวตนเดิม
แมวดำมองร่างกายงดงามเลือนรางไปทีละนิดๆ ทางเลือกของนางก็คือของนาง ตัวเขา...ทำเพียงแค่เฝ้าดู ‘ลาก่อน’ นั่นคือเสียงสะท้อนที่ชิงเซียนส่งมาถึงเขาก่อนทุกอย่างจะเลือนหายไป
๑--------------------๑
07.00 น.
“เนยลงมาได้แล้วลูก” แม่นิ่มตะโกนเรียกลูกสาวที่เหมือนวันนี้จะตื่นสายมากกว่าปกติอยู่หน้าประตูห้อง
คนถูกเรียกลืมตาตื่นพร้อมกับยกแขนตัวเองขึ้นมาดู ปากพึมพำเบาๆ “สำเร็จงั้นรึ?” ‘หึ’