เรื่อง:พี่สาวคนสวยกับแฟนtypeหมาเด็ก
ตอนที่.10 พี่เลี้ยงของหนุ่มตี๋แว่น
โดย:srikarin2489
กลิ่นหอมอ่อนละมุนของดอกลิลลี่ ลอยตัวบางเบาพอสัมผัสได้อยู่ภายในห้องทำงานของรสนันท์ ดอกลิลลี่เฉดสีชมพูดอกใหญ่ปักอยู่ในแจกันข้างโต๊ะทำงานก้านดอกแข็งแรงชูดอกสวยงาม เพิ่มบรรยากาศภายในห้องทำให้สดชื่นขึ้นมาก ขณะที่เจ้าของห้องกำลังยุ่งอยู่กับงานตรงหน้า ด้วยความเคยชินเคยนั่งทำงานคนเดียว จนลืมไปว่าตอนนี้มีหนุ่มรุ่นน้องมานั่งทำงานด้วย หลังจากสั่งงานให้อีกฝ่ายเอาไปศึกษาดูก่อน ตัวเองมานั่งทำงานต่อ
โต๊ะทำงานของกฤษณะตั้งอยู่ตรงข้ามกับโต๊ะเจ้าของห้อง ตอนแรกสนใจกับไฟล์งานในจอโน๊ตบุ๊ค แต่พอผ่านไปสักครู่สายตากลับลอบมองผ่านขอบจอไปทางโต๊ะตรงข้าม พี่สาวคนสวยกำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับงานตรงหน้า วันนี้รสนันท์สวมเดรสสีดำแต่ตัวปกคอกับแขนเสื้อสีขาว ดูเรียบแต่หรูสวยชวนมองจนเขาต้องลอบมองเป็นระยะ เริ่มไม่สนใจกับงานตรงหน้า
พี่สาวคนสวยที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก คอยเป็นเพื่อนเล่นมีขนมอร่อย ๆ ให้กินทุกวัน และคอยปลอบดูแลเวลาเขาเศร้าเสียใจ ยังพอจำได้ว่าอ้อมกอดนั้นอบอุ่นเพียงใด เขาถูกโอบกอดด้วยอ้อมกอดอบอุ่นนั้นหลายครั้ง เคยได้ซุกหน้าร้องไห้กับอกอุ่นความทรงจำ
ดี ๆ ยังคงมีอยู่พร้อมกับความรู้สึกแปลกใหม่ เขาตอนนี้ไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว
ความรู้สึกต่อพี่สาวคนสวยมีบางอย่างพิเศษเพิ่มเข้ามา เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาเจอเพียงครั้งแรกในตอนโต ทำให้ใจเต้นตึกตักโครมคราม แทบทะลุออกมานอกอก
“เอาแต่แอบมองพี่ งานที่ให้ศึกษาเข้าใจแล้วเหรอ”
น้ำเสียงเรียบ ๆ เอ่ยขึ้นโดยไม่เงยหน้ามามองเขาด้วยซ้ำ ทำให้คนแอบมองแทบสะดุ้ง ไม่คิดว่าจะถูกจับได้จนต้องรีบก้มหน้าดูงานตรงหน้าต่อ ไม่เห็นว่าพี่สาวคนสวยเหลือบตาขึ้นมาดู ริมฝีปากอิ่มสีสดคลี่ยิ้มอ่อน
“คุณ...เข้าไปไม่ได้นะคะ นี่มันห้องทำงาน”
เสียงเปิดประตูห้องตามมาด้วยเสียงร้องบอกของอุไรวรรณ ทำให้รสนันท์กับกฤษณะเงยหน้าจากงานหันไปดู ปรากฏว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง วัยน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับกฤษณะ ร่างผอมบางอยู่ในชุดกางเกงยีนส์รัดรูปเสื้อเกาะอกสีดำแบรนด์เนมทั้งตัวรวมทั้งกระเป๋าถือ
“นะ” ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงจัด ร้องเรียกกฤษณะพร้อมเดินเข้าไปหา
“คุณนันคะ คุณคนนี้เปิดประตูเข้ามาเองอุ๊ห้ามเขาไม่ฟัง” อุไรวรรณหันไปรายงานเจ้านายสาวด้วยสีหน้าหนักใจ กลัวตัวเองจะถูกตำหนิ
“กลับไปทำงานต่อเถ่อะ”
รสนันท์โบกมือบอกเสียงเรียบ ก่อนออกไปจากห้องอุไรวรรณหันไปมองดูสาวแปลกหน้าที่เดินเข้าไปหากฤษณะ ด้วยท่าทางคุ้นเคยได้แต่นึกสงสัยว่าเป็นใคร ห้องทำงานคุณนันเคยสงบเงียบมาตลอด แค่กฤษณะมาทำงานวันแรกก็มีผู้หญิงมาหาแล้ว
กฤษณะปั้นหน้าไม่ถูกเมื่อถูกชาลิสาแฟนสาวจู่โจม ด้วยการเข้ามากอดรอบคอแล้วก้มลงจุ๊บริมฝีปาก ไม่แคร์ว่าจะมีใครอยู่ในห้องอีกหรือเปล่า
“ปล่อยผมก่อนปูเป้ อย่าทำแบบนี้นี่มันที่ทำงาน”
ปากบอกแฟนสาวแต่ตาปรายไปมองทางโต๊ะทำงานตรงข้าม เห็นรสนันท์สนใจอยู่กับงานตรงหน้าไม่เงยหน้ามาดู
“ทำไมล่ะคะนะ เราไม่เจอกันหลายวันปูเป้คิดถึงนะ”
ชาลิสาทำเสียงงอแง นั่งลงบนตักของกฤษณะมือยังกอดอยู่รอบคอ ทำให้กฤษณะยิ้มแหยเหลือบตาไปมองทางโต๊ะตรงข้ามอีก เห็นรสนันท์ยังคงทำงานต่อไม่สนใจภาพโต๊ะตรงข้าม
“ปูเป้เราไม่ได้อยู่กันสองคนนะ อย่าทำแบบนี้เกรงใจพี่นันเขาหน่อย” กฤษณะบอกเสียงเบาพอได้ยินกันสองคน ทำให้ชาลิสาหันไปทางรสนันท์
“ขอโทษนะคะ ปูเป้กับนะเราเป็นแฟนกัน เราชอบทักทายกันแบบนี้ เป็นเรื่องธรรมดาของเราสองคนค่ะ”
“ตามสบายเลยค่ะ ไม่เกี่ยวกับฉัน”
รสนันท์บอกเสียงราบเรียบแต่สายตาที่ตวัดมาสบตากฤษณะมีแววดุ จนทำให้คนถูกมองยิ้มแหยหน้าจืด เพิ่งมาทำงานวันแรกก็มีเรื่องให้ถูกมองในทางไม่ดีเสียแล้ว
“จวนจะเที่ยงแล้ว พี่อนุญาตให้คุณนะออกไปทานข้าวกับแฟนได้”
“ขอบคุณค่ะพี่” ชาลิสาหันมายิ้มหวานให้รสนันท์
“ผมจะรีบกลับมาก่อนเวลางานครับ”
รสนันท์แค่พยักหน้ารับรู้ แม้ใจกฤษณะจะไม่อยากไปนัก แต่ถ้าไม่รีบพาชาลิสาออกไปก่อนคงไม่ได้ทำงานแน่
อุไรวรรณนั่งทำงานอยู่หน้าห้อง ได้แต่แอบมองตามอย่างสนใจเห็นสาวสวยแม้จะยังดูเด็กแต่สไตล์การแต่งตัวออกไปทางเซ็กซี่ เดินกอดแขนกฤษณะออกมาจากในห้องหน้าตายิ้มแย้มสดใส ผิดกับกฤษณะที่ดูนิ่งไม่ค่อยยิ้ม
“หนุ่มตี๋หล่อในฝันของเรา มาทำงานวันแรกมีผู้หญิงมาหาแล้ว” อุไรวรรณได้แต่พึมพำอยู่คนเดียว
“อุ๊” เลขาสาวมัวคิดอะไรเพลิน จนไม่เห็นรสนันท์เปิดประตูออกมาจากห้อง
“ว๊าย...!คุณนัน...อุ๊ตกใจหมด” อุไรวรรณยกมือทาบอกด้วยความตกใจ
“ใจลอยไปถึงไหน ยังไม่ออกไปทานข้าวอีกเหรอ”
“วันนี้อุ๊มีกล่องข้าวมาเองค่ะ แฟนเขาทำให้” บอกด้วยรอยยิ้มเขิน
“เห็นมั้ย...ชื่นชอบคลั่งไคล้พระเอกซีรีส์จีน สุดท้ายคนที่คอยดูแลเธอกลับเป็นหนุ่มไทยคนเดิม สนใจคนที่อยู่กับเราในชีวิตจริงดีกว่า”
“แค่ดูผ่อนคลายชุ่มชื่นหัวใจ ยังไงก็สู้พระเอกในชีวิตจริงไม่ได้หรอกค่ะคุณนัน ต่อให้อุ๊ชอบปีนกำแพงเมืองจีนแทบทุกวัน สุดท้ายก็กลับมานอนกอดหนุ่มไทยคนเดิม” รสนันท์หัวเราะเบากับความช่างพูดของเลขาคู่ใจ
“แต่ก่อนได้แต่ดูผ่านจอ แต่ตอนนี้มีคนจริงมาให้ดูถึงที่ เสียดายเขามีแฟนแล้วคุณนะทำให้อุ๊ชุ่มชื่นใจแค่วันเดียว เจ้าของตัวจริงมาแสดงตัวแล้ว คุณนันจะออกไปทานข้าวข้างนอกหรือคะ”
“จะไปทานที่ศูนย์อาหารของบริษัท นัดพี่รินไว้ไปก่อนนะ”
เสียงพูดคุยกันและกลิ่นอาหาร ภายในศูนย์อาหารของบริษัท เป็นบรรยากาศคุ้นเคยของทุกคนที่มาใช้บริการ อาหารปรุงเสร็จใหม่ส่งกลิ่นหอมจนบางคนท้องร้องจ้อกด้วยความหิว มีพนักงานของบริษัท หยุดพักเที่ยงมาทานข้าวกันหนาตา ร่างโปร่งบางในชุดเรียบแต่หรูของสองพี่น้อง ที่เดินเข้ามาในศูนย์อาหารด้วยกัน เรียกความสนใจให้ทุกคนหันไปมอง
คนพี่สวมสูทสีครีมกระโปรงเข้ารูปยาวถึงเข่า ส่วนคนน้องสวมเดรสสั้นสีดำ รสนันท์สูงกว่าพี่สาวเล็กน้อยหน้าตาคล้ายกัน รสนันท์ ดูคมกว่าขณะที่รสรินออกโทนหวาน แต่ความสวยดูดีกินกันไม่ลง ทั้งสองแยกย้ายกันไปสั่งอาหาร ภายในศูนย์อาหารมีทั้งร้านแบบข้าวราดแกง อาหารตามสั่งแบบจานเดียวเมนูไม่ยุ่งยากซับซ้อน เป็นอาหารในแบบที่สองพี่น้องคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก รสนันท์ยกถาดใส่จานข้าวราดกะเพราหมูกรอบกับไข่ดาว พร้อมน้ำผลไม้ปั่นอีกแก้วเดินมานั่งลงตรงข้ามพี่สาว
“ตั้งแต่บริษัทย้ายมาอยู่ที่นี่ แล้วพี่รินเสนอไอเดียทำศูนย์อาหารราคาไม่แพง เราเก็บค่าเช่าไม่แพง คนขายสามารถขายราคาถูกได้ เป็นการช่วยพนักงานบริษัทอีกทาง มีแหล่งซื้อของกินราคาถูกอาหารอร่อย พนักงานบริษัทอื่นยังมาใช้บริการด้วยเป็นผลงาน ชิ้นเอกอย่างหนึ่งของพี่ริน” รสรินเงยหน้าจากจานข้าวของตัวเอง ที่ราดด้วยผัดผักรวมกับเมนูทะเลผัดฉ่าขึ้นยิ้มกับน้องสาว
“ตอนเสนอความคิดนี้กับคุณกิตติ พี่ไม่มั่นใจว่าเขาจะเห็นด้วย เพราะต้องใช้พื้นที่พอสมควร โชคดีที่เขาเห็นดีด้วย อาหารเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต เราทำงานดิ้นรนก็เพื่อปากท้อง มีแหล่งอาหารอร่อยราคาถูกให้ซื้อกิน ถือว่าเป็นการช่วยพวกเขาทางหนึ่ง ทำไมไม่ชวนคุณนะมาทานข้าวด้วยกัน?”
“แฟนมาหิ้วตัวไปแล้ว” น้องสาวบอกเสียงเรียบไม่ใส่ใจ
“เขาทำงานเป็นไงมั่ง พอไหวมั้ย?” พี่สาวถามแล้วตักอาหารทาน
“แค่วันแรกยังดูไม่ออกหรอกพี่ริน เขายังเด็กความจดจ่อเลยน้อย ชอบไปจดจ่อดูอย่างอื่น”
“เขาไปจดจ่อดูอะไร?”
รสนันท์มองสบตาอยากรู้ของพี่สาว ที่เคี้ยวอาหารช้า ๆรอคำตอบจากเธออยู่ รสนันท์พยายามยิ้มกลบเกลื่อนจะบอกพี่สาวได้ยังไง ว่ากฤษณะคอยแต่แอบมองเธอ
“พูดเรื่องแฟน เมื่อไหร่จะพาแฟนใหม่มาให้พี่รู้จัก พี่จะได้ช่วยพิจารณาว่าจะเจอเก้งอีกมั้ย”
เมื่อน้องสาวไม่ตอบ รสรินจึงหันไปคุยเรื่องอื่น ทำให้รสนันท์ยิ้มออกมาได้ เพราะตัวเองมีประสบการณ์ถูกเกย์มาหลอกคบหลายครั้ง เจ็บแต่ไม่เคยคิดจะจำ
“ตกลงคบกันหรือยัง?”
“ก็...คุย ๆ กันอยู่ วิเขาช่วยสืบมาให้แล้วว่าโสดจริงมั้ย เรื่องโสดหรือไม่โสดมันพอจะสืบค้นได้ แต่เรื่องรสนิยมส่วนตัวทางเพศบางทีมันก็ยาก คนที่ผ่าน ๆ มาเราช่วยกันดูแล้วนะยังเจอเก้งจนได้ พอคบกับชายแท้เจ้าชู้เหลือจะรับ บางครั้งนันเหนื่อยใจจนคิดว่าอยู่เป็นโสดน่าจะดีกว่า”
“พี่ยังเชื่อคำทำนายของเพื่อนพี่ ว่านันมีเนื้อคู่และจะมีหลานให้พี่กับแม่ด้วยตอนนี้เขาไปทัวร์แสวงบุญที่อินเดีย เลยไม่เจอกันไม่งั้นจะถามว่าเนื้อคู่ของนันมาเกิดหรือยัง”
“ขืนยังไม่เกิดหรือเพิ่งเกิด ไม่ต้องมาแล้ว” รสนันท์ทำหน้าหงิกร้องว่า จนพี่สาวหัวเราะ
“ผู้ชายอายุเยอะได้กับผู้หญิงอายุน้อย ยังไงคนยังรับได้มากกว่าผู้หญิงอายุมากกับผู้ชายยังเด็ก แล้วถ้าผู้ชายยังเด็กกว่ามาก ๆ จะเอามาทำไมเอามาเป็นลูกเหรอ” น้องสาวบ่นแล้วส่ายหน้า
“ถ้ายังไงล่ะก็ นัดแฟนใหม่มาให้พี่กับแม่รู้จักบ้างนะ วันหยุดที่จะถึงนี่เลยก็ได้พี่ว่างไม่ได้ไปไหน”
“นันไม่ว่าง นัดเพื่อน ๆ มาบ้านวันเสาร์ นันต้องถามคุณสรัลก่อนว่าเขาพร้อมจะ มามั้ย” รสรินพยักหน้ารับรู้