08 จูบสอง

1312 Words
08 จูบสอง “เป็นอะไรน้องปิ่น ทำไมวันนี้ดูเหม่อๆ” เสียงของวารีรินรุ่นพี่คนสนิทดังขึ้น ทำให้ปิ่นมุกหลุดจากภวังค์ “มะ...ไม่มีอะไรค่ะ” “ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจ ระบายให้พี่ฟังได้นะ” “เอ่อ....พี่พอจะรู้จัก...คะ...คุณปริยภัทรไหมคะ พอดีปิ่นเห็นเขามาที่นี่บ่อยๆ” ปิ่นมุกเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ “นี่ปิ่นรู้จักคุณปริยภัทรด้วยหรอ” “เปล่าค่ะ ปิ่นแค่ได้ยินพนักงานเขาคุยกัน เลยอยากรู้ว่า...เอ่อ....คุณปริยภัทรเป็นใคร” “คุณปริยภัทรคือหุ้นส่วนรายใหญ่ของที่นี่เองจ้ะ ที่เห็นมาที่นี่บ่อยๆ ความจริงแล้วเขามาดูงานต่างหาก” “ว่าไงนะ หุ้นส่วนหรอคะ!” “ใช่ นี่น้องปิ่นไม่รู้หรอว่าคุณปริยภัทรเขาเป็นหุ้นส่วนของที่นี่” “มะ...ไม่รู้ค่ะ ปิ่นไม่รู้อะไรเลย” ให้ตายเถอะ! งั้นที่นี่ก็คงไม่ปลอดภัยสำหรับเธออีกต่อไปแล้ว ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเป็นหุ้นส่วนของที่นี่ “ถ้ารู้แล้วก็อย่าไปเข้าใกล้เขาล่ะ คุณปริยภัทรเขาเป็นคนขี้รำคาญ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร บางครั้งเขาก็แทบไม่คุยกับใครเลย ก็อย่างว่าแหละ หล่อแล้วหยิ่ง พี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนมีแบบนี้ถ้ามีแฟนจะเป็นยังไง” “ปะ...ปิ่นว่าคนแบบนี้คงไม่มีใครกล้าจีบหรอกค่ะ” “น้องปิ่นไม่รู้อะไรซะแล้ว คนแบบนี้น่าค้นหาจะตาย ผู้หญิงในผับชอบเขาตั้งหลายคน แต่เขาก็ไม่เล่นด้วย พี่ว่ามันก็ท้าทายดีนะ ผู้ชายนิ่งๆเข้าถึงยาก ถ้าใครได้เข้าไปรับรองว่าเขาต้องเป็นแมวที่เชื่องแน่ๆ” “อย่างนี้ไม่ใช่แมวหรอกค่ะ น่าจะเป็นเสือมากกว่า” “ที่ถามเพราะปิ่นเองก็สนใจเขาเหมือนกันใช่ไหม” “มะ...ไม่ใช่นะพี่วา! ปิ่นไม่ได้สนใจเขา ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลย ปะ...ปิ่นแค่รู้สึก...เอ่อ...ไม่ถูกชะตา” “ก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าน้องปิ่นสนใจคุณปริยภัทรล่ะก็ คงมีศัตรูหลายคนเลยแหละ” ปิ่นมุกแทบกลั้นขำไว้ไม่อยู่ แค่หน้าก็ไม่อยากเจอแล้ว ก็ดีเหมือนกัน จะได้รู้ไว้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน เพราะเท่าฟังมาถือว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนเย่อหยิ่งพอสมควร เขาจะร้ายกับใครก็ได้ ขออย่างเดี๋ยว...อย่าไปยุ่งกับผู้ชายที่เธอชอบก็พอ วันนี้วารีรินไม่ได้ไปส่งปิ่นมุกเพราะหล่อนมีนัดกับแฟนหนุ่ม ทำให้ปิ่นมุกต้องออกมารอรถแท็กซี่ที่ปากทางเข้า และในระหว่างที่เธอกำลังเดินผ่านลานจอดรถ ได้มีรถหรูสีดำคันหนึ่งจอดขวางทางอยู่ ทำให้เธอต้องเดินเบี่ยงไปอีกทาง แต่จู่ๆรถคันนั้นก็พุ่งมาขวางหน้าจนเกือบโดนเฉี่ยว ก่อนที่คนในรถจะค่อยๆลดกระจกลง “คะ...คุณปริยภัทร!!” เคราะห์ซ้ำกรรมซากอะไรนักหนา อย่างวันนี้ก็อุตส่าห์หลบหน้าทั้งวันแล้ว แต่ก็ไม่วายเจอกันอีกอยู่ดี “มานี่” เขากวักมือเรียก แต่ปิ่นมุกไม่ไป “ฉันบอกให้มานี่!” “มะ...ไม่ ฉันไม่อยากไปกับคุณ” “ถ้าเธอไม่มา รู้ใช่ไหมจะเกิดอะไรขึ้น” “คุณก็ดีแต่ใช้กำลังข่มขู่คนอื่นนั่นแหละ!” “ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก เพราะฉันไม่อยากมีปัญหากับคนพวกนั้น” “ละ...แล้วตามมาราวีฉันทำไม” “ฉันแค่มีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ” เขาพูดเสียงเรียบ ดวงตาคมเข้มภายใต้กรอบแว่นสีดำนั้นกำลังมองคนตัวเล็กอยู่ เหมือนเห็นเธอลังเลอยู่พักหนึ่ง “กลัวหรอ” “บ้า! ฉันไม่ได้กลัวคุณ” ปิ่นมุกรีบยัดร่างเข้ามาในรถเพื่อตัดความรำคาญ ปิดประตูรถอย่างแรง จนชายที่นั่งอยู่ข้างๆจิ๊ปากด้วยความไม่พอใจกับท่าทางไม่น่ารักของอีกฝ่าย “เขาจ้างเธอมาใช่ไหม” “ถ้าหมายถึงคุณท่านแล้วล่ะก็ สบายใจได้เลย ท่านไม่ได้จ้างฉันมา” “แล้วทำไมเธอถึงมาทำงานที่นี่ทั้งๆที่ฉันเป็นหุ้นส่วน มันไม่บังเอิญไปหน่อยหรอ” “นี่!” ปิ่นมุกยกมือเท้าเอวด้วยความโมโห หลงตัวเองเกินไปแล้ว คิดว่าสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ “เมื่อไหร่จะเลิกหลงตัวเองสักที ที่ฉันมาทำงานอยู่ที่นี่เพราะพี่วาเป็นคนชวนมา ถ้ารู้ตั้งแต่ว่าคุณเป็นหุ้นส่วน คิดหรอว่าฉันจะมา” “ถ้างั้นฉันจะไล่เธอออกวันนี้เลย เพราะฉันเองก็ไม่อยากเห็นหน้าเธอเหมือนกัน และก็ฝากไปบอกเขาด้วยนะว่า....อย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก” เป็นอีกครั้งที่ปิ่นมุกตวัดตามองหน้าคมอย่างไม่ค่อยพอใจ คุณท่านทำเพื่อเขาขนาดนี้แต่ดูสิ่งที่เขาตอบแทนสิ ลูกอกตัญญูชัดๆ “นี่คุณไม่รักพ่อของตัวเองเลยหรอ” “ฉันไม่มีพ่อ” เขาตอบสั้นๆ สองมือกำพวงมาลัยแน่น “รู้หรือเปล่าว่าถ้าพ่อของคุณได้ยินแบบนี้แล้วท่านจะเสียใจแค่ไหน ท่านทำทุกอย่างเพื่อคุณนะ แต่คุณกลับตอบแทนท่านแบบนี้” “แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง” “ความจริงฉันก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของคุณหรอก แต่คุณท่านรักคุณมากนะ มีแต่คุณนั่นแหละที่ไม่รักท่าน” “เพราะฉันไม่มีพ่อไง!” เอี๊ยดด!! เขาหักพวงมาลัยจอดข้างทางกะทันหันจนหน้าของปิ่นมุกเกือบกระแทกกับคอลโซนรถ แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว มือใหญ่ก็กระชากต้นแขนเล็กอย่างแรง “ฟังให้ดีนะ! ฉันไม่เคยมีพ่อและฉันจะไม่มีวันเรียกเขาว่าพ่อเด็ดขาด” “ฉันรู้ว่าคุณเกลียดท่าน แต่ยังไงท่านก็คือผู้ให้กำเนิดของคุณนะ ท่านทำทุกอย่างเพื่อคุณ มีแต่คุณนั่นแหละที่อคติกับพ่อตัวเอง” “ถ้าไม่รู้อะไรก็หุบปากไปซะ!” “ฉันแค่อยากจะพูดให้คุณสำนึก ไม่มีพ่อคนไหนไม่รักลูกของตัวเองหรอก คุณนั่นแหละทิฐิสูงเอง!” ปิ่นมุกตะคอกกลับอย่างเหลืออดเหลือทน ในวินาทีนี้เธอไม่ได้กลัวอะไรแล้ว เมื่อไหร่เขาจะเลิกมีอคติกับพ่อของตัวเองสักที “คุณอาจจะเคยมีเรื่องบาดหมางใจกับท่าน แต่อย่างน้อย...ท่านก็คือพ่อของคุณ" “หุบปากเดี๋ยวนี้ปิ่นมุก” เสียงเข้มรอดไรฟันน่ากลัวเข้าไปทุกที แต่ปิ่นมุกก็ยังไม่ยอมหยุด เพราะอยากให้เขาสำนึกกับสิ่งที่ทำกับพ่อของตัวเอง “ฉันรู้ว่าลึกๆแล้วคุณก็รักท่าน แต่คุณแค่ไม่ยอมรับความจริง เพราะคำว่าทิฐิมันค้ำคอ...อุ๊บ!!!” ริมฝีปากหยักกระแทกเข้ามาบดคลึงริมฝีปากบางอย่างแรง ใช้คมเขี้ยวขบกัดจนรับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวเลือด ปิ่นมุกพอตั้งสติได้รีบยกมือผลักร่างหนาออก แต่เขาใช้สองแขนกักร่างเอาไว้ แม้จะดีดดิ้นเท่าไหร่ก็สู้งแรงมหาศาลของอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี รสจูบหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆจนหายใจแทบไม่ทัน เจ็บแสบไปทั่วทั้งริมฝีปาก แต่เขาก็ไม่ยอมหยุด หนำซ้ำยังพยายามสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากแต่เธอปิดปากไว้แน่น สัมผัสรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเหมือนเขากับลงจะข่มขืนเธอในรถ และในที่สุดน้ำแต่แห่งความอ่อนแอก็ไหลออกมาทำให้ร่างสูงชะงัก และดูเหมือนว่าเขาจะได้สติ ผลักร่างของเธอออกพร้อมตวัดมองด้วยสายตาวาวโรจน์ “อย่าพูดถึงเขาอีก ไม่งั้นเธอเจอหนักกว่านี้แน่!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD