ฟาโรห์ & ชะเอม - 4 (2)
หลังจากนั้นเราสองคนก็ขึ้นไปเรียนตามปกติ กว่าจะจบคลาสก็เกือบสามชั่วโมงเต็ม อาจารย์สอนโคตรมาราธอนบอกเลย แต่ก็ยังมีความใจดีนิด ๆ ที่ปล่อยพวกเราก่อนเวลาเลิกเรียนจริงเกือบๆ ยี่สิบนาที
พอจบคลาส แนทก็เลยพาฉันมารู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่งอย่างที่นางบอกเอาไว้ทันที มันก็นะไม่เว้นโอกาสให้ฉันได้ตัดสินใจหรือเตรียมใจอะไรเลย
“น้องชะเอมใช่ไหมครับ พี่ชื่อเตนะครับยินดีที่ได้รู้จักนะ” ภายนอกพี่เตดูเป็นผู้ชายเจ้าชู้ไม่ต่างจากพี่ฟาโรห์สักเท่าไหร่ หรือจะเรียกว่าเป็นคนประเภทเดียวกันก็คงจะไม่ผิด
แต่ที่ฉันรู้สึกคาใจ คือทำไมแนทถึงแนะนำผู้ชายแบบนี้มาให้ฉันในเมื่อเขาดูนิสัยแทบไม่ได้ต่างอะไรจากพี่ฟาโรห์เลยสักนิด นางเพิ่งบอกห้ามให้ฉันไปยุ่งกับพี่ฟาโรห์เพราะว่าพี่เขาดูเพลย์บอย แต่พี่เตคนนี้ต่างกันตรงไหนก่อน
“ค่ะพี่เต ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะ” ฉันเอ่ยทักทายกลับตามมารยาท
“แนทบอกว่าเรายังไม่มีแฟนจริงไหมครับ”
โห...มาถึงก็ถามแบบนี้ เล่นเอาฉันไปไม่เป็นเลย ฉันอึ้งไปนิดหน่อยหันไปมองหน้าแนทที่ขยิบตาก่อนยิ้มหวานมาให้ฉัน
“ชะเอมยังไม่มีแฟนค่าพี่เต ไม่งั้นแนทจะพามาแนะนำให้รู้จักทำไม” แนทตอบแทน ก่อนที่นางจะหันไปทักทายอีกคนที่มาถึง ฉันพอคุ้น ๆ หน้าจำได้ว่าเป็นหนุ่มคนใหม่ที่แนทคุยคืนนั้น
“พี่ภูมาแล้วเหรอ”
“เอมนี่พี่ภูคนคุยใหม่ของกูเอง” แนทแนะนำ ส่วนพี่ภูก็ส่งยิ้มมาให้ฉัน พลางเอามือโอบบ่าของแนทไว้ทำยังกับว่าสองคนสนิทกันมาแล้วเป็นปี ๆ ทั้งที่สองคนน่าจะเจอกันไม่นาน
“ยินดีที่ได้รู้จักครับชะเอม”
“อ่อค่ะ สวัสดีค่ะพี่ภู”
“ยังไงไอ้เต น้องเขาโอเคไหม”
“สำหรับกูคือโอเค น้องแม่งโคตรน่ารักเลยเนี่ย” พี่เตหันไปตอบพี่ภู ก่อนจะหันหน้ามาทางฉัน
“งั้นถ้าพี่จะจีบชะเอม น้องคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม” เขาพูดโคตรตรง ตรงจนน่าอึดอัด
“เอ่อ...พี่คิดดีแล้วเหรอคะ ที่จะมาจีบคนอย่างเอม” ฉันทำสีหน้าไม่ถูกเพราะไม่ได้เตรียมใจมาตั้งแต่แรกว่าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่ก็ไม่อยากขัดใจเพื่อนอย่างแนท เลยยอมตามมาด้วยเท่านั้นเอง
“ดีสิ ทำไมจะไม่ดี เปิดโอกาสให้พี่ได้ไหม”
“ไม่แน่ใจเลยค่ะ พอดีเอมไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่”
“ลองคุยดูก่อนก็ไม่เสียหายนี่มึง พี่เขาเป็นคนดีมากเลยนะ” จังหวะนั้น แนทพูดสวนขึ้นมาเพื่อกดดันให้ฉันตัดสินใจ จะว่ายังไงดี ฉันไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลยตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัย เรื่องแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกลำบากใจพอสมควร
“งั้นแค่คุยก่อนก็ได้ค่ะ ยังไม่คบนะคะ แต่อย่าล้ำเส้นนะคะเอมขอบอกไว้ก่อนว่าเอมยังไม่ได้รู้จักพี่ดีพอ” ฉันตอบตามตรง
ถ้าเทียบกับรุ่นพี่เคนที่ฉันแอบปลื้มนั่นก็เหมือนกัน นั่นก็เป็นความชอบแบบคนทั่วไปที่ชื่นชอบดารา แต่ฉันยังไม่ได้คิดไปถึงเรื่องเป็นแฟนกันด้วยซ้ำ
“ได้เลยค้าบ พี่สัญญาเลยนะว่าจะไม่ล้ำเส้นน้องแน่นอน”
เขายิ้มกรุ้มกริ่ม แต่ฉันสิโคตรอึดอัด หลังจากนั้นพวกเราทั้งสี่คนก็กินอาหารและคุยกันบ้างนิดหน่อย ก่อนที่ฉันเห็นว่ามันจะดึกมากแล้วเลยขอตัวกลับก่อน
“ค่ะ งั้นเดี๋ยวเอมกลับก่อนนะคะ”
“งั้นให้พี่ไปเอมส่งนะ” ข้อเสนอดังกล่าวทำฉันลังเลอยู่ชั่วขณะ แต่เมื่อหันไปเห็นใบหน้าของเพื่อนสนิทอย่างแนทที่พยักพเยิดเชียร์ให้ฉันตกลง ฉันก็เลยพยักหน้าตอบ
“ก็ได้ค่ะ...”
เพราะเห็นว่าพี่เขาดูสนิทกับแนท ก็เลยยอมคุย ๆ ดู คงไม่เป็นอะไรมั้งนะ
หลังจากนั้นพวกเราทั้งสี่คนก็เริ่มไปไหนมาไหนมาด้วยกันบ่อยขึ้น แนทมักจะเป็นแม่สื่อนัดฉันให้ไปเจอพี่เตบ่อย ๆ นัดเจอพวกร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ ไม่ก็ร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ ส่วนพี่เตเลยได้ทีรีบอาสาทำหน้าที่ไปรับไปส่งฉันบ่อยขึ้น
แรก ๆ พี่เขาก็ดูสุภาพมากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ ไม่ล้ำเส้นอย่างที่ฉันต้องการ แต่ทว่าพอผ่านมาได้สองอาทิตย์ ก็ดูเหมือนว่าฉันจะไว้ใจคนผิดไป ระยะหลัง ๆ มีหลายครั้งที่พี่เตพยายามถึงเนื้อต้องตัว พยายามใกล้ชิด ไม่เว้นระยะห่างระหว่างกันและกัน ฉันเริ่มรู้สึกอึดอัดและแอบหนักใจขึ้นเรื่อย ๆ
“แนทกูเริ่มไม่โอเคแล้ววะ ล้ำเส้นกูตลอด”
ในที่สุดทนไม่ไหวฉันเลยตัดสินใจบอกแนทให้ชัดเจนไปเลย เพราะแนทมักจะไปไหนมาไหนกับฉัน แล้วพาแฟนตัวเองคือพี่ภูไปด้วย และแน่นอนเมื่อมีพี่ภูก็ต้องมีพี่เต
“มึงคิดมากไปเปล่าวะ”
“กูไม่ได้คิดมาก แต่ว่ากูไม่ชอบ”
“เออ เออ แล้วกูจะคอยเตือนพี่เตให้” แนทรับปากฉันส่ง ๆ แต่อีกไม่กี่วันต่อมา แนทก็ชวนพี่แตมากินข้าวที่โรงอาหารด้วยกันอยู่ดี