8. กลับบ้าน

1210 Words
“โอ๊ย! เสร็จสักทีโปรเจคหินของอาจารย์ธงชัย” “แหม! แกทุ่มทุนขนาดนี้ฉันว่าได้เอแน่นอน” “ก็ต้องขอบคุณขิมมากๆ เลยนะที่ช่วยเราจนเสร็จเรียบร้อยแล้วส่งได้ทันเวลาพอดี” สองเพื่อนซี้นั่งขอบอกขอบใจกันยกใหญ่หลังจากส่งงานออกแบบงานเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ได้ทันเวลา หมดไปแล้วอีกปีสำหรับการเป็นนิสิตนักศึกษาสาขาวิชาออกแบบตกแต่งภายใน ซึ่งคนที่ท็อปฟอร์มที่สุดก็ยังคงเป็นขิมอยู่เช่นเดิมทุกปี “แกร๊!! คืนนี้ไปปาร์ตี้กันเถอะ ปลดปล่อยความเครียดที่สะสมออกซะหน่อย ร่างกายอยากแด๊นซ์สักหน่อย” นางภีมคนเดิมพูดขึ้นพร้อม ออกท่าทางยืดเส้นยืดสายคลายความเมื่อยล้า เธอคงเครียดสะสมทั้งเรื่องเรียนและแรงกดดันจากคนทางบ้าน ก็ทายาทผู้ผลิตและจำหน่ายพลอยรายใหญ่แห่งเมืองจันทบุรีอะเนาะ!! พ่อแม่ย่อมคาดหวังกับทายาทสาวเพียงคนเดียวของบ้านให้มารับช่วงต่อสมบัติที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น “เอาซิ! น่าสนุกนะ” ชายหนุ่มเพียงคนเดียวในกลุ่มมาถึงและได้ยินพอดีจึงพูดเสริม ช่วงนี้ไทม์และปลานิลไม่ค่อยมีเวลาให้กันเท่าไรเพราะติดสอบ และที่สำคัญ! เพื่อนๆ ยังไม่รู้ว่าทั้งคู่แอบคบกันอยู่เป็นเวลาถึงสองปีแล้ว “ขิมต้องช่วยแม่เตรียมของขายอะทุกคน ขอโทษนะ” “หว้า! นางปลาเน่า! แต่แกไม่ต้องไปทำงานด้วยนี่หน่า งั้นไปสี่คนก็ได้” “เย็นนี้คุณท่านออกจากโรงพยาบาล” แล้ว...!? ... แล้วก็ตัดมาช่วงเย็น ณ บ้านหลังเบ้อเริ่ม ปลานิลต้องมานั่งปั้นหน้ายิ้มเล็กยิ้มน้อยแห้งๆ บนโต๊ะอาหาร คนแก่พอได้ออกจากโรงพยาบาลก็อยากทานข้าวกับลูกหลานจึงเรียกปลานิลมาพบหน้าให้หายคิดถึง “แกจะไปไหน” “ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ในบ้านมัน...อึดอัด” “ไอ้ภัทร!” อาหารคาวหวานรสเลิศจืดชืดลงทันทีเมื่อทายาทตัวจริงเดินนิ่วหน้าผ่านโต๊ะทานข้าว คนเป็นพ่ออดไม่ได้ที่จะต้องร้องทักทายและเชิญลูกชายมาร่วมทานข้าวด้วย คนบนโต๊ะมีแต่คนโปรด คนสนิททั้งนั้นที่อยากให้ทำความรู้จักกันไว้แต่เจ้าลูกชายก็ปฏิเสธแบบไม่ไว้หน้าใครแม้กระทั่งพ่อ “กินไม่ลง” “ลูกผู้ชายควรให้เกียรติผู้หญิงหน่อยนะไอ้ภัทร โตป่านนี้อย่าให้ฉันต้องสอน” สงครามน้ำลายระหว่างพ่อลูกเริ่มต้นขึ้น เมื่อได้ยินตามนั้นพุฒิภัทรยอมหย่อนก้นนั่งร่วมโต๊ะด้วย แต่! สายตาของเขากลับมองหน้าหญิงสาวฝั่งตรงข้ามแล้วพูดขึ้นว่า “แล้วผมต้องสอนไหมครับว่า...แก่ปูนนี้แล้วควรปลงซะบ้าง หมั่นเข้าวัดฟังธรรมไม่ใช่ดีแต่หลงเด็กสาวๆ ถ้าตายคาอกอีหนูแล้วเป็นข่าวหลุดออกไปมันทุเรศ...//ไอ้ภัทร!” “นิลขอตัวนะคะคุณท่าน” “เราไม่ต้องปลานิล...นั่ง!!” สายตาพิฆาตที่ชายหนุ่มจ้องมองคนตรงข้าม และสายตาเอาความจากคนเป็นพ่อที่จ้องมองหน้าลูก พิมสุดาแตะที่หลังฝ่ามือคุณพุฒิพงศ์เพื่อบอกให้ท่านใจเย็นอย่าโมโห พรึ่บ “เอามือของเธอออกไป” และพิมสุดาก็ทำเช่นนั้นกับพุฒิภัทรด้วยแต่เขาหันไปจ้องหน้าและต่อว่า เจ้าตัวสะดุ้งชักมือกลับด้วยความตกใจไม่น้อยที่ลูกชายไม่ได้ว่าง่ายเช่นพ่อของเขา “ถ้าแกมารยาทเสียแบบนี้ก็ออกไปเลยไป จะไปไหนก็ไป” เฮอะ!! ลูกแท้ๆ ในไส้ถูกพ่อตวาดไล่เสียงดังต่อหน้าเด็กสาวที่อุปการะดูแล เพราะเสียหน้าจึงโกรธจัดจนหางคิ้วกระตุกและบดฟันกรามแน่น “จะกลับไม่ใช่เหรอ ลุกสิ!!” ว่าแล้วพุฒิภัทรก็เดินอ้อมมากระชากแขนปลานิลให้ลุกขึ้น และในเวลาเดียวกันพิมสุดาก็รีบตรงเข้ามาห้าม เธอออกโรงปกป้องน้องสาวปลานิลตัวเล็กๆ “อย่าเอามือสกปรกของเธอมาถูกตัวฉัน” “ปล่อยน้องนิลไปเถอะนะคะคุณภัทร” “หูหนวกเหรอ!!” พุฒิภัทรยื้อแขนตัวเองออกจากมือของพิมสุดาด้วยท่าทางที่แสนรังเกียจจนเจ้าตัวล้มกลิ้ง ปลานิลเห็นตามนั้นจึงจะวิ่งเข้าไปประคองแต่ก็โดนกระชากกลับจนเซไปกระแทกคนตัวหนา ตุบ! ท่อนแขนตวัดโอบรัดเอวบางตามสัญชาตญาณเพื่อพยุงไม่ให้หญิงสาวล้ม แต่คนหวงตัวก็ผลักเขาออกเพราะชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกันแบบนี้ “คุณพุฒิภัทรปล่อยปลานะคะ” “จะกลับใช่มะล่ะ ดี! งั้นเธอก็ไปกับฉัน” “ค่ะ!” ปลานิลยอมทำตามแต่โดยดีรับหน้าที่เป็นสารถีขับรถไปส่งลูกชายของท่านมีพระคุณตามบัญชา แต่ติดตรงที่ว่าพุฒิภัทรยังคงเงียบไม่บอกจุดหมายคือที่ไหน “ทำไมไม่ขับรถออกมาเองค่ะ” “ทำไม!?” “ตกลงจะไปที่ไหนคะ ดิฉันจะได้ไปส่งถูก” “ขับไปเถอะ” ชายหนุ่มเหม่อมองท้องถนนโดยไม่สนใจจะตอบคำถาม เขายังคงหงุดหงิดกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น “นี้คุณ! มันเสียเวลานะ” “รถก็รถพ่อฉัน เงินที่เติมน้ำมันก็เงินของพ่อฉัน ขับไปเถอะ ถือว่าตอบแทน...//ตอบแทนอะไรคะ!?” หงุดหงิดกับคนป่วยทางความคิดที่นั่งอยู่บนเบาะผู้โดยสาร พุฒิภัทรคงจะเข้าใจว่าเขามีอำนาจสั่งอะไรเธอก็ได้เพราะเป็นลูกชายของผู้มีพระคุณสินะ “ถ้าไม่บอกก็จอดตรงนี้แหละคะ” “ได้! คืนนี้เธอก็นอนกับฉันในรถนี่แหละ เปลี่ยนบรรยากาศ” “อะไรของคุณเนี่ยคุณพุฒิภัทร ทำไมถึงได้เป็นคน....” หญิงสาวเกือบหลุดปากด่าคนตรงหน้า วงศ์ตระกูล การศึกษา อาชีพการงานมันไม่เกี่ยวกับสภาวะทางความคิดจริงๆ ด้วย คนอะไรตรรกะป่วยและหยาบคายมาก “น่ะ นี้! จะทำบ้าอะไรห๊ะ!?” ชายหนุ่มโถมตัวเข้ามาใกล้และกดปรับเอนเบาะของปลานิลนอนราบ ใบหน้าคมคายดูร้ายกาจใกล้กันห่างเพียงคืบ “พาเธอเข้านอนไงล่ะ” กรี๊ดด!! “ไอ้คนบ้า!” ปลานิลเผลอฟาดมือใส่คนตรงหน้าอีกครั้งจนรอยนิ้วขึ้นเป็นริ้วแดงที่พวงแก้ม ใบหน้าทะเล้นขี้แกล้งของพุฒิภัทรจึงเปลี่ยนเป็นแววตาแห่งความโกรธที่โดนตบเข้าให้ “ทำเป็นไม่เคย หรือเธอชอบแบบตบจูบ จริงๆ ก็ไม่ได้ใสๆ ไร้เดียงสา” “หยุดนะ!” ห ยุ ด ด พรึ่บ!! ไม่รู้ว่าชายหนุ่มต้องการอะไรจากเธอจึงบีบบังคับสองแก้มให้หันเข้าหากัน ใบหน้าของพุฒิภัทรก้มต่ำลงมาจวนเจียนจะชนกัน ปลานิลจึงเปิดประตูรถออกและกระทดตัวเองตกลงมาจากเบาะซะเลย โชคดีที่ไม่มีรถวิ่งมาจากด้านหลัง “หึ! เสแสร้ง” “คุณมันบ้า” ปลานิลตะโกนใส่หน้าก่อนจะวิ่งข้ามไปอีกฟากของถนนในทันที และก็กระโดดขึ้นรถแท็กซี่เพื่อหนีจากคนชั่วช้าสามานย์ไปแบบไม่คิดจะหันกลับไปมองเขาอีกเลย “หึ! คิดว่าจะหนีฉันพ้นอย่างงั้นเหรอ เดี๋ยวเราได้เห็นดีกัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD