4. ที่พึ่งพิงปีสาม

1580 Words
โรงพยาบาลA “คุณท่าน!!” “นิล! เอาอีกแล้วนะ” หญิงสาววิ่งกระหืดกระหอบมายังโรงพยาบาลชื่อดังทันที ที่ทราบข่าวผู้มีพระคุณลื่นล้มในห้องน้ำในบ้าน ด้วยความตกใจและเป็นห่วงเพราะท่านอายุมากแล้วจึงรีบมาเยี่ยมทันทีที่ทราบเรื่อง พี่ปฐมบอกว่าคุณท่านสลบ หัวแตก และถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียูเพราะไม่ได้สติและเสียเลือดมาก “ขอโทษค่ะ” เธอพรวดพราดผลักประตูเข้ามาด้วยใจที่กระวนกระวายจนลืมรักษามารยาท การเข้าห้องคนอื่นควรเคาะประตูและรอสัญญาณก่อนว่าอนุญาตให้เข้าได้ จึงเข้า “น้องนิลเขาเป็นห่วงคุณท่านนี้ค่ะ” “สวัสดีค่ะพี่พิม,คุณท่าน” เด็กสาวยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าทั้งสองคนด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย “ตอนนี้เรามีเรียนอยู่ไม่ใช่เหรอ” “อ่า...ใช่คะ” “อย่าดุน้องนิลสิคะคุณท่าน” คุณหมอสาวเป็นฝ่ายปรายตาดุชายสูงอายุบนเตียงคนไข้ พิมสุดาคือแพทย์ประจำตัวของท่านพุฒิพงศ์คนนี้ “งั้นฉันจะดุไอ้ปฐมแทน โทษฐานที่มันบังอาจมาแช่งว่าฉันจะตาย” อ้าว...!? จ้าของชื่อก้าวเข้ามาพร้อมกับอาหารคาวหวานในมือมากมาย ชายสูงวัยจึงหมั่นไส้ที่มันรายการกับเด็กในอุปการะเกินจริง “ก็ผมตกใจ ผมไม่มีเจตนาแบบนั้นสักนิดเลยนะท่าน ผะ ผม...” ปฐมหน้าซีดปากสั่นที่ท่านผู้มีบุญคุณกล่าวโทษ ความรัก ความภักดี ไม่มีใครเกินหน้าคนอย่างนายปฐมคนนี้แน่นอน “คนแก่ก็อย่างนี้แหละนิล ฉันไม่เป็นอะไรแล้วกลับไปเรียนเถอะ” “ใช่! คราวนี้พี่จะดูแลไม่ให้คลาดสายตาเลยนิล ตั้งใจเรียนนะใกล้จะจบแล้วนิ่ ใช่ไหม” “ค่ะพี่พิม งั้นเดี๋ยวปลามาเยี่ยมใหม่นะคะ คุณท่าน,พี่พิม,พี่ปฐม สวัสดีค่ะ” เด็กสาวค่อยโล่งอกโล่งใจที่ท่านผู้ใหญ่ไม่มีอาการที่น่ากังวล เธอจึงไหว้ลาผู้ใหญ่ทั้งสามคนก่อนจะมุ่งหน้ากลับไปยังลาดจอดรถในโรงพยาบาล “รถใครวะ” หนึ่งในสวัสดิการของครอบครัวผู้บริหารคือที่จอดรถส่วนตัว ณ โซนวีไอพีที่ทุกคนรู้ดีว่าหากนามสกุลไม่ใหญ่พอไม่มีทางได้จอดในส่วนของผู้บริหารของโรงพยาบาล “คุณทวี! เช็กทะเบียนรถคันนี้ให้ผมที” ... “ห้ะ! ถามจริง” ชายหนุ่มโทรถามคนสนิทอีกคน และก็ตกใจเมื่อคนในสายตอบกลับมาง่ายๆ ว่ารถสีขาวมุขคือหนึ่งสมบัติที่ท่านพุฒิพงศ์เป็นเจ้าของ ชายหนุ่มแสยะยิ้มปรามาสว่าเจ้าของรถคันนี้ต้องเป็นเด็กในสังกัดของพ่อเขา “คุณจะทำอะไรคะ” “อู้ว...นักศึกษาซะด้วย” “แล้วมันทำไมเหรอคะ” ปลานิลมองการสนทนาระหว่างหญิงชายคู่นั้น อีกคนใส่เสื้อขาวนุ่งกระโปรงสั้น ส่วนอีกคนใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนขาดๆ แต่กลับดูแพงอย่างไม่น่าเชื่อ เธอเห็นทั้งสองคนนั้นเพียงไกลๆ ไม่ทราบหรอกว่าเขากำลังคุย เถียง หรือหยอกล้อเล่นอยู่กันแน่ “หลบไปสิ รถฉันแพงนะ” “รถเธองั้นเหรอ ถามจริง!? มีปัญญาซื้อ” “นี้! จนแล้วเจียมกะลาหัวหน่อยนะ รปภ.อยู่ไหน รปภ.!!” หญิงสาวในชุดนักศึกษาตะโกนเสียงดังลั่น เธอคงไม่ไว้ใจชายร่างใหญ่แต่งตัวมอซอ ใส่หมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า “มีอะไรครับ” “ไอ้โรคจิตนี้มันจะทำร้ายฉัน” “พูดเป็นเล่น ใครจะทำอะไรเธอห้ะ” “จับมันโยนออกไปข้างนอกซิ ไม่งั้นฉันจะฟ้องคุณท่านให้ไล่แกออกเดี๋ยวนี้” เอ่อ.... พนักงานรักษาความปลอดภัยได้แต่หน้าเจื่อนเพราะกลัวบารมีคุณท่าน ท่าพุฒิพงศ์มีเด็กๆ สาวๆ มากหน้าหลายตา ขับรถหรูราคาแพงจนจำหน้าไม่หวาดไม่ไหวเพราะมีหลายคนเหลือเกิน และด้วยความจนที่ต้องอาศัยเงินเดือนอาชีพยามรักษาความปลอดภัย เขาจึงต้องทำตามเพราะไม่อยากตกงานตอนนี้ เฮ้ย! หนุ่ม รปภ. วัยกลางคนวิ่งมาล็อกแขนชายหนุ่มทันที โดยที่เจ้าตัวก็ยังงงด้วยซ้ำ “ไอ้ห่า! มึงอยากโดนไล่ออกจริงๆ ใช่ไหมเนี้ย” “ก็เอ่อสิครับ” รปภ.หนุ่มตอบกลับทันที แน่นอนว่าเขาไม่อยากตกงาน และคงไม่สามารถปล่อยให้เด็กสาวของท่านพุฒิพงศ์ไปฟ้องเรื่องการทำงานของตัวเขา “เดี๋ยวก่อนค่ะ” ปลานิลผู้เห็นเหตุการณ์อดไม่ได้ที่จะไม่ยุ่ง เธอจึงโผล่หน้าเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วย “อะไร!?” “คุณคนนี้เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ น่าจะเข้าใจผิดกัน” “นี้! แกอย่ามายุ่งได้ไหม” หญิงสาวในชุดมหาลัยแว้ดเสียงสูง สายตาที่เธอมองปลานิลช่างดูแคลนราวกับกองขี้ “ก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอกนะคะ แต่คุณคนนี้เขาไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่เชื่อก็เปิดกล้องดูได้เลย” “เอาสิ! ถ้ากล่าวหากันมั่วๆ กูฟ้องนะเว้ย” ชายหนุ่มตวาดเสียงแข็งเช่นกัน คนเราถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมต้องกลัว เด็กเมื่อวานซืนที่เอาตัวเข้าแลกความสบาย จะเอาอะไรมาสู้คนอย่างเขา ไม่ต้องพึ่งนามสกุลและบารมีของพ่อก็ชนะใสๆ “รึจะเอา...ห๊ะ?!” “งั้น! ผมขอให้ทุกคนแยกย้ายนะครับ” รปภ.เคลียร์สถานการณ์ต่างคนจึงต่างแยกย้ายเพราะไม่มีใครอยากเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็น 18.00 น. “อ้าว! ทำไมวันนี้มาเร็ว” ผู้จัดการร้านร้องทักพนักงานพาร์ทไทม์ เพราะวันนี้ปลานิลมาเข้างานเร็วกว่าเวลาของเธอถึงสองชั่วโมง “พอดีปลาออกจากมอเมื่อตอนบ่ายอะค่ะ ก็เลยขี้เกียจตีรถกลับเข้าไปเรียน ไหนๆ ออกมาแล้วก็เลยมาทำงานเลย” เด็กสาวเมื่อออกจากโรงพยาบาลเธอจึงเปลี่ยนจุดมุ่งหมายมาเป็นคลับเฮ้าส์แห่งหนึ่งที่ไม่ไกลกันนัก สถานที่ ที่ปลานิลมาทำงานพิเศษเพื่อหาเงินใช้ แม้เรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่ท่านพุฒิพงศ์ไม่พอใจแต่คนหัวดื้อก็หาทางหางานทำจนได้ และด้วยความเป็นจำที่ต้องหางานทำตอนกลางคืนก็เพราะช่วงกลางวันเรียนหนักเป็นบ้า ยิ่งใกล้จบยิ่งมีแต่โปรเจคใหญ่ๆ ยากๆ “ดีๆ จะเปิดร้านแล้ว เรามาเตรียมตัวรับลูกค้ากัน” “ค่ะ!?” . . . ดนตรีสดเคล้าคลอ กับเครื่องดื่มรสเลิศ มาพร้อมแสงสีวิบวับหลอกล่อนักท่องราตรีให้ออกมาติดหนึบกับความสำราญ รวมไปถึงสองเพื่อนรักที่ไม่ได้พบหน้ากันนานร่วมปี “ได้ข่าวว่าพ่อมึงเข้าโรงพยาบาล?” “เอ่อ!” ฝ่ายถูกถามตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก และกระดกแก้วซัดเหล้าต่อไปเงียบๆ ท่าทางดูเคร่งเครียดก็คงเป็นเพราะอาการป่วยของพ่อ “อาการหนักเลยเหรอ” เพื่อนสนิทถามด้วยความห่วงใย เพราะเพื่อนรักสายเฮฮาปาร์ตี้ไม่เคยทำหน้าจ๋อยขนาดนี้สักครั้ง “เฮอะ! พ่อกูมีสาวๆ ล้อมหน้าล้อมหลังเพียบ” “แล้วมึงจะเครียดอะไรวะ” “ช่างแม่งเถอะ แดกเว้ยแดก! ไม่เมาไม่กลับเว้ยคืนนี้” 02.15 น. ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! พนักงานสาวเลิกงานในเวลาคลับเฮ้าส์ปิดและเธอกำลังจะกลับบ้าน แต่ทว่า...ดันมีรถอีกครั้งจอดติดเครื่องขวางหน้ารถเอาไว้ จะเดินหน้าก็ไม่ จะถอยหลังก็ไม่ได้จึงตัดสินใจเคาะกระจกเรียก สงสัยคงเป็นลูกค้าที่มาเที่ยวแล้วเมาจนขับกลับไม่ไหว “คุณ! ช่วยขยับรถหน่อยได้ไหม” ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “คุณ! คุณคะ!!” ปลานิลเคาะจนเจ็บนิ้วแต่กระจกก็ยังไม่เลื่อนลงเหมือนรถที่ยังคงจอดอยู่กับที่ ทุกอย่างนิ่งสนิท เงียบกริบ ราวกับว่าในรถไม่มีคนอยู่เสียอย่างนั้น แกร๊ก! เธอจึงถือวิสาสะจับที่เปิดประตูแล้วดึงขึ้น ปรากฏว่ารถก็ไม่ได้ล็อก “นี้คุณ! ตายแล้ว! คุณ! คุณคะ” ด้วยความตกใจที่เห็นคนขับปรับเบาะเอนลงนอน ปลานิลคิดไปเองว่าเขาอาจจะน็อคตายคารถจึงรีบเขย่าตัวชายคนนั้นแรงๆ “ทำยังไงดีเนี้ย” ... “ตายแล้ว” ... “ตายแน่ๆ” “โอ๊ยตาย! ตาย! ตาย!” ด้วยอารามตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเธอจึงอุทานซ้ำไปซ้ำมาและเขย่าแขนคนขับรถไม่หยุด ดึกดื่นป่านนี้แถวนี้ก็ไม่เหลือใคร จึงยิ่งเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก ตุบ! ‘ตายล่ะหว่า!!!’ ฝ่ามืออุ่นร้อนโอบเอวสาวน้อยเข้ามากอดแนบกายจนใบหน้าปลานิลซุกที่แผงอกของชายหนุ่มในทันที และด้วยความที่ยังคงตกใจอยู่เช่นเดิมเธอจึงได้แต่นิ่งแข็งตัวชา ผู้ชายคนเดียวที่เคยกอดก็มีแค่ไทม์คนเดียว เพียงแค่นั้นเธอก็ใจสั่น ตื่นเต้น แต่ถึงจะเป็นแฟนกัน ปลานิลก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่เขาถูกเนื้อต้องตัวเธอ คงเพราะแม่กับคุณบอกมักตอกย้ำว่าเป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว อื้ม ม ม น้ำเสียงพึงพอใจกับหมอนข้างกลิ่นกายหอมและนุ่มนิ่ม ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้มแอบพรมจูบที่กระหม่อมบางศีรษะน้อย “นี้คุณ! ปล่อยฉันนะ” สติหญิงสาวเพิ่งกลับคืนเข้าสู่ร่าง จากนั้นปลานิลจึงทั้งตีทั้งดิ้น ชายแปลกหน้าคนนี้เหตุใดจึงทั้งกอดทั้งหอมเธอทั้งที่ไม่รู้จักกันแม้แต่น้อย “จะเปิดห้องหรือตรงนี้” ห้ะ!? “ห้าพันทำได้ทุกอย่างใช่ป้ะ ไม่จำกัดน้ำด้วยใช่ไหม” เพี๊ยะ!!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD